เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จัก ปัญหาทางเท้าที่คนไทยต้องเจอ ทั้งฟุตบาทไม่ทนทาน รถจักรยานยนต์ ร้านค้าบนทางเท้า การออกแบบที่ไม่คิดถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ มาสร้างทางเท้าให้ดี เพื่อชีวิตที่ดีกัน!

ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข
ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักปัญหาว่างงานในมิติทางสังคมและเศรษฐกิจส่งผลกระทบในวงกว้าง ควรมีทางออกเพื่อเสริมพลังและสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยกลับมายืนหยัดและมีชีวิตที่ดีได้อย่างเข้มแข็ง

Key Takeaway นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คือโครงการจากรัฐบาลที่กำหนดให้ประชาชนเดินทางในเส้นทางรถไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการได้ในราคาเดียวเพียง 20 บาทตลอดสาย เป้าหมายของโครงการคือสร้างความเท่าเทียม ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสให้คนเมืองทุกกลุ่มเข้าถึงการเดินทางอย่างสะดวก ลดปัญหารถติดและมลพิษ ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาชุมชนเมือง โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของรัฐบาล กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการผลักดันจากผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่มีวิสัยทัศน์ด้านระบบขนส่งมวลชน เชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้าในราคาคงที่ ช่วยให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ความท้าทายของนโยบายนี้ คือความยั่งยืนทางการเงิน ที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลชดเชยผู้ประกอบการ และปัญหาการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า ทุกวันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าทีก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เพราะค่าโดยสารที่สะสมไปแต่ละวันไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่ลองคิดดูว่า… ถ้าเราเดินทางไกลแค่ไหนก็จ่ายเพียง 20 บาท จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากขนาดไหน? ประชาชนได้ประโยชน์เต็มๆ! บทความนี้พามาเจาะลึกนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน เรื่องนี้จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันของผู้คน ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา หรือแม่ค้าพ่อค้า ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางทุกวันแน่นอน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คืออะไร? โครงการค่าโดยสาร 20 บาท คือความตั้งใจง่ายๆ ที่อยากให้การเดินทางสาธารณะเป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงาน หรือผู้สูงอายุ เรื่องนี้เริ่มต้นจากคำถามว่า “ทำไมคนต้องจ่ายค่าโดยสารแพงหลายระดับ บางทีแค่ไปทำงานหรือไปเรียนใกล้ๆ ก็ต้องจ่ายราคาเต็ม?” แนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวจึงเกิดขึ้น เพื่อช่วยลดภาระและทำให้ทุกคนได้รับสิทธิ์เดินทางในราคาเท่ากัน ในปี 2567 ได้เริ่มทำโครงการนำร่องในสายสีแดงและสายสีม่วงแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากเลย ส่วนเรื่องการหาเงินมาจ่ายนั้น รัฐบาลไม่ได้แค่รับภาระทั้งหมดเอง แต่มีการแบ่งงบและจัดสรรเงินมาใช้ชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ให้บริการยังสามารถดำเนินธุรกิจได้และไม่ขาดทุน กลไกนี้ช่วยให้ความมั่นคงในการเดินรถยังดำเนินไปได้ โดยรัฐจะพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้บริการจริงและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนเป็นธรรมและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจว่าจะทำให้คมนาคมสาธารณะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเดินทางและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวที่คนทุกวัยทุกกลุ่มเข้าถึงได้จริง ทำไมนโยบายนี้ถึงสำคัญกับคนเมือง? ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกวัน การเดินทางในเมืองใหญ่จึงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน การมีนโยบายที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางจึงเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามองและหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาได้จริง ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดค่าใช้จ่ายรายวันได้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนและคนที่ต้องเดินทางประจำ การกำหนดราคาเดียวช่วยให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเดินทางไกล เพิ่มโอกาสในการเดินทางและใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นโยบายยังช่วยกระตุ้นให้เกิดชุมชนและธุรกิจใหม่ในเขตชานเมือง เพิ่มความสะดวกและคุณภาพชีวิตในเมืองอย่างยั่งยืน ลดปัญหารถติดและมลพิษ นโยบายนี้ไม่ได้แค่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เมื่อประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ปริมาณรถติดก็ลดลงตามไปด้วย ช่วยลดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน การใช้รถไฟฟ้ายังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ที่สำคัญคือทำให้เมืองน่าอยู่ สะอาด และเดินทางได้คล่องตัวมากขึ้นสำหรับทุกคน สร้างเมืองที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน นโยบายนี้ไม่ได้แค่ทำให้ค่าโดยสารถูกลงเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างเมืองที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นักเรียน หรือผู้สูงอายุ ช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้า สร้างระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมและเป็นธรรม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการเดินทาง และทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นคนทุกกลุ่ม เป้าหมายของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท นโยบายนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยลดภาระค่าเดินทางของคนในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน พร้อมส่งเสริมให้คนใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น สร้างความสะดวกและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ความเท่าเทียมในการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยสร้างความเท่าเทียมในการเดินทาง เพราะไม่ว่าคนจะขึ้นรถไฟฟ้ากี่สายหรือต้องเดินทางไกลเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหนก็จ่ายค่าโดยสารราคาเดียว ทำให้ทุกคนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือรัฐบาลช่วยชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรักษาคุณภาพบริการและทำให้นโยบายนี้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ นโยบายนี้ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพราะราคาค่าโดยสารที่ถูกลงทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่าย ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยังร่วมมือกับกรุงเทพฯ ในการพัฒนาระบบตั๋วร่วมและฟีดเดอร์ระบบขนส่ง เช่น รถเมล์ที่เชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งานระบบได้ครบวงจรขึ้น แก้ปัญหารถติด นโยบายนี้เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ได้ เมื่อค่าโดยสารถูกลง ผู้คนจะหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น ลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวที่วิ่งบนถนนในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน นอกจากจะช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร ยังช่วยลดเวลาการเดินทางและความเครียดของผู้ใช้ถนนด้วย ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบขนส่งของเมือง ทำให้การเดินทางสะดวกและราบรื่นขึ้นโดยรวมในระยะยาว เชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมือง นโยบายนี้เป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจและชุมชนเมืองเติบโตเป็นระบบ การลดค่าเดินทางช่วยเพิ่มกำลังซื้อและโอกาสทางธุรกิจในชุมชนต่างๆ เนื่องจากผู้คนสามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้สะดวกและบ่อยขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าหลายสายยังช่วยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานและสินค้ารวดเร็ว ทำให้ชุมชนต่างๆ มีโอกาสพัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนและลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เบื้องหลังการผลักดันนโยบาย โครงการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นผลลัพธ์ของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลและกรุงเทพฯ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมทำหน้าที่วางแนวนโยบายและจัดสรรงบประมาณ ในขณะที่กรุงเทพฯ นำโดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผลักดันให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น นโยบายรถไฟฟ้ากับชัชชาติในฐานะผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เป็นหัวใจของชีวิตคนเมือง ร่วมกับการส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและมลพิษ พร้อมผลักดันให้โครงการได้ผลจริงในเชิงปฏิบัติ เช่น การเชื่อมโยงเส้นทางและเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและติดตามผล ทำให้นโยบายนี้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองจริงๆ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท… ความท้าทายและคำถามที่ยังคงอยู่ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้จะได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยลดภาระค่าโดยสารของประชาชน แต่ก็ยังเผชิญความท้าทายด้านความยั่งยืนทางการเงินหลักๆ เพราะรัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ แต่จากการศึกษาพบว่า… ต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าสายหลักอยู่ที่ประมาณ 11 บาทต่อเที่ยว ทำให้นโยบายนี้เป็นไปได้ถ้าบริหารจัดการดีและมีแหล่งเงินทุนสนับสนุนที่มั่นคง เช่น การใช้รายได้ภาษีจากภาคขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการบริหารจัดการรายได้และผลประโยชน์ของภาคเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนและการดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ปัญหานี้ยังเป็นอุปสรรคที่ต้องเจรจาและหาข้อตกลงร่วมที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทางเลือกและข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนานโยบายในอนาคต ได้แก่ การผลักดันกฎหมายตั๋วร่วมเพื่อให้ใช้บริการได้ด้วยบัตรเดียวทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทให้เชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะมีความมั่นคงและเข้าถึงได้ง่ายในระยะยาว สรุป นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนเมือง ทำให้การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องง่ายและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ช่วยเชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมืองอย่างทั่วถึง พร้อมแก้ไขปัญหารถติดและมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตคนเมืองอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกรุงเทพฯ และภาคประชาสังคม ซึ่งบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วมและติดตามนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคง FAQ – คำถามที่พบบ่อย โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทครอบคลุมทุกสายไหม? โครงการนี้ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สายสีน้ำเงิน (MRT) สายสีเหลือง สายสีชมพู และ Airport Rail Link (ARL) รวมรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงที่ทำไปแล้วทั้งหมด 8 สาย รวม 13 เส้นทางและกว่า 194 สถานีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางในราคาคงที่เพียง 20 บาทตลอดสาย แม้ต้องเปลี่ยนสายก็จะไม่เกินราคานี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ส่งผลต่อปัญหารถติดในกรุงเทพฯ อย่างไร? นโยบายนี้ช่วยลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เพราะราคาค่าโดยสารถูกลง คุณภาพชีวิตและการเดินทางจึงดีขึ้น ลดความหนาแน่นของการจราจรในช่วงเร่งด่วนได้ ประชาชนมีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายนี้ได้อย่างไร? ประชาชนสามารถร่วมลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และใช้บัตร EMV Contactless หรือบัตร Rabbit แบบ ABT เพื่อยืนยันตัวตน ร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการของระบบขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้นต่อไป
อนาคตเข้าถึงได้! นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท โครงการเปลี่ยนชีวิตคนเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามาเจาะลึกกับนโยบายรถไฟฟ้า20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน

ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน
ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักจากเสียงประชาชนสู่การแก้ไขจริง! Traffy Fondue คือระบบร้องเรียนของ กทม. นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ไขปัญหา เพิ่มคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวกรุงให้ดีขึ้น

มัดรวม 9 องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อการขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืน

CHEEWID ชวนทุกคนมาสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม กับ 9 องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อการขับเคลื่อนโลกใบนี้ให้เป็นมิตรกับทุกชีวิต จะมีองค์ไหนบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้!
มัดรวม 9 องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อการขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืน
Table of Contents

 

Key Takeaway

  • ประเทศไทยกำลังพบเจอกับวิกฤตสิ่งแวดล้อม ทั้งปัญหาโลกร้อน ปัญหามลพิษทางอากาศ ปัญหาขยะเกลื่อนเมือง ปัญหาน้ำเน่าเสีย หรือปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ 
  • วิกฤตสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบกับชีวิตคน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ทั้งผลกระทบต่อร่างกาย ความเป็นอยู่ ทำให้การพัฒนาของสังคม ยังคงติดอยู่กับที่ ไม่ไปไหน
  • มูลนิธิ และองค์กร หรือหน่วยงาน NGO อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่ช่วยเหลือ และสร้างความตระหนักรู้ ให้ทุกคนได้ร่วมกันสร้างโลกที่ดีขึ้น
  • มาร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้อยู่กับเราไปนานๆ Cheewid ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และพร้อมเป็นช่องทาง เพื่อให้ทุกคนได้บริจาคช่วยเหลือองค์กร มูลนิธิ หรือโครงการต่างๆ ได้ทำหน้าที่เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่อไป 

 

ประชากรโลกกำลังประสบปัญหาเรื่องมลพิษทางอากาศ ทางน้ำ การทำลายพื้นที่ป่า ปัญหาการขาดแคลนในหลายพื้นที่ ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมจึงถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ หลายๆ ภาคส่วนจึงเริ่มส่งเสริมไอเดียธุรกิจรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 

มาสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้อยู่กับเราไปนานๆ กับ 9 องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อการขับเคลื่อนโลกใบนี้ให้เป็นมิตรกับทุกชีวิต จะมีองค์กรไหนบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้เลย!

 

ประเทศไทย กับวิกฤตสิ่งแวดล้อม ที่ควรจับตามอง

ประเทศไทย กับวิกฤตสิ่งแวดล้อม ที่ควรจับตามอง

ประเทศไทยกำลังพบเจอกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาโลกร้อน ปัญหามลพิษทางอากาศ ปัญหาขยะเกลื่อนเมือง ปัญหาน้ำเน่าเสีย หรือปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ โดยปัญหาต่างๆ ดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้

 

ปัญหาโลกร้อน

ช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยพบเจอกับหน้าร้อนที่ร้อนขึ้นมากเป็นเท่าตัว เพราะอุณหภูมิโลกที่กำลังร้อนขึ้นมากกว่าเดิม และปัญหาโลกร้อน ก็ไม่ได้ทำให้ภูมิอากาศเปลี่ยนไปเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงมากขึ้นด้วย เพราะการละลายของน้ำแข็งทั่วโลก ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และเมื่อน้ำทะเลสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่อยู่อาศัย หรือพื้นที่ทำมาหากินของประชาชนหลายๆ แห่ง 

ทั้งนี้ อาจส่งผลต่อการทรุดตัวของพื้นที่บริเวณกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยอีกด้วย จึงมีการคาดการณ์ว่า อีกไม่กี่ปีข้างหน้า หากระดับน้ำทะเลยังสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจส่งผลให้กรุงเทพฯ ต้องทรุดตัวจมอยู่ในน้ำในที่สุด

 

ปัญหามลพิษทางอากาศ

ปัญหามลพิษดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวคนไทยนัก เพราะเรามักประสบกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 กันมาตลอด โดยเฉพาะในพื้นที่ทางภาคเหนือ ที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์เอง โดยเกิดจากการเผาพื้นที่ป่า และพื้นที่เกษตร 

ทั้งนี้ ในกรุงเทพฯ ก็กำลังประสบปัญหานี้เช่นกัน โดยมักจะเกิดจากการสันดาปเครื่องยนต์ จากรถบรรทุก รถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซต์ที่ปล่อยฝุ่นควันออกมา รวมถึงปัญหาการจราจรที่ติดขัด จึงทำให้คนสูดควันเข้าไปทุกวัน โดยในระยะยาวก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

 

ปัญหาขยะเกลื่อนเมือง

ปัญหาขยะเกลื่อนเมืองยังเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ เพราะการจัดการของรัฐบาลที่ไม่หนักแน่นมากพอ และพฤติกรรมของมนุษย์เองที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ทำให้ในหลายๆ พื้นที่มีการจัดการขยะที่ไม่เป็นระบบ มีขยะเกลื่อนเมืองจนเกิดกลิ่นเหม็นไปทั่ว และยังทำให้เกิดเชื้อโรคที่มาจากสัตว์ที่มาคุ้ยขยะอีกด้วย 

ในช่วงโควิดที่ผ่านมา เกิดขยะพลาสติกเพิ่มมากขึ้นถึง 45% ซึ่งเป็นผลพวงมาจากธุรกิจ Food Delivery เมื่อขยะถูกทิ้งลงสู่แม่น้ำ อาจทำให้น้ำเน่าเสีย และเมื่อขยะไปสู่ทะเล ก็ทำให้ระบบนิเวศทางทะเลเสื่อมโทรมด้วย นอกจากนี้ ยังส่งผลให้เกิดขยะอันเล็กจิ๋วอย่างไมโครพลาสติก ที่เป็นปัญหาใหญ่ และส่งผลอันตรายต่อร่างกายได้ในอนาคตอีกด้วย

 

ปัญหาน้ำเน่าเสีย

ปัญหาน้ำเน่าเสียเกิดจากพฤติกรรมของมนุษย์ ที่ปล่อยน้ำเสียจากหลายๆ ครัวเรือน หรือเกิดจากการปล่อยน้ำทิ้งของโรงงานอุตสาหกรรม และการปล่อยน้ำเสียจากการทำเกษตรกรรม รวมกับขยะที่เกลื่อนแม่น้ำ จึงทำให้น้ำเน่าเสีย จนเกิดเป็นแหล่งเพราะพันธุ์ของยุงและแมลงวันได้ 

นอกจากนี้ พฤติกรรมการทิ้งขยะไม่เป็นที่ ยังส่งผลให้น้ำเน่าเสียได้ เพราะขยะอาจไหลลงสู่แม่น้ำ จนทำให้แม่น้ำลำคลองมีสีขึ้น จากที่ในอดีตเคยเห็นสัตว์น้ำ ตอนนี้กลับมองไม่เห็นอะไรแล้ว 

 

ปัญหาพื้นที่ป่าไม้

พื้นที่ป่าไม้ถูกรุกล้ำมากขึ้นเรื่อยๆ จากการทำการเกษตร การตัดไม้ทำลายป่า หรือการบุกรุกพื้นที่ป่า เพื่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ต การลดลงของป่าไม้ทำให้สัตว์ป่าสูญพันธุ์จากการขาดถิ่นที่อยู่ รวมถึงสัตว์น้ำบริเวณป่าชายเลนด้วย และยังทำให้อุทกภัยรุนแรงมากขึ้น เพราะไม่มีพื้นที่ป่าคอยกันความรุนแรงของน้ำที่ไหลมา 

นอกจากนี้ การลดลงของพื้นที่สีเขียวทำให้ปัญหาโลกร้อนเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะไม่มีต้นไม้ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศโลก และช่วยเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอน (Carbon Sinks) อีกต่อไป

รวม 9 องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่แสวงผลกำไร

รวม 9 องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่แสวงผลกำไร

มาช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม กับ 9 องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนของทุกชีวิตบนโลกนี้ 

1. มูลนิธิปลูกต้นไม้ ปลูกธรรมะ

มูลนิธิปลูกต้นไม้ ปลูกธรรมะ เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ที่มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการปลูกต้นไม้ ควบคู่ไปกับการเผยแพร่ธรรมะ ผ่านโครงการต่างๆ ดังนี้

  • โครงการทำบุญสร้างป่า ปลูกโลกดีงาม: รณรงค์ให้คนปลูกต้นไม้ในพื้นที่ส่วนตัว วัด และที่สาธารณะ ทั้งในเมือง และชนบท รวมถึงฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม 
  • โครงการ 9 วัด 9 ถิ่นรมณีย์: สร้างพื้นที่สีเขียว และส่งเสริมหลักธรรม เพื่อความสุขสงบของชุมชน และสังคม 
  • สนับสนุนกิจกรรมทางศาสนา: จัดงานเวียนเทียนด้วยต้นไม้ในวันวิสาขบูชา 
  • บริจาคต้นไม้: จัดหากล้าไม้ให้วัด และสถานปฏิบัติธรรม 58 แห่ง รวมเป็น 18,070 ต้น จากต้นไม้กว่า 100 สายพันธุ์

มูลนิธิมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่น และส่งเสริมความสงบทางจิตใจ โดยการดูแลต้นไม้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เติบโต และสร้างประโยชน์ได้ในระยะยาว

  • ที่อยู่: ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
  • ติดต่อ: 095-163-9308
  • เว็บไซต์: https://treefordhamma.org/ 

 

2. มูลนิธิป่าเขตร้อน

มูลนิธิป่าเขตร้อน เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ก่อตั้งโดยมีวัตถุประสงค์หลักคือการส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าไม้ สัตว์ป่า แหล่งต้นน้ำลำธาร ทรัพยากรธรรมชาติ รวมไปถึงของคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ให้กับประชาชนในพื้นที่ใกล้เขตอนุรักษ์ รวมไปถึงประชาชนทั่วไป 

โดยมีการสนับสนุนการปฏิบัติงาน เพื่อส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป้าหมายในระยะยาวในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างยั่งยืนนั่นเอง

  • ที่อยู่: อาคารสินสาธรทาวเวอร์ ชั้น 28 ถนนกรุงธนบุรี แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
  • ติดต่อ:
  • เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Thaitropicalforest 

 

องค์กร สิ่งแวดล้อม - มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

3. มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีภารกิจหลักคือการเสนอแนะนโยบาย และทิศทางด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ สร้างนวัตกรรม และมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และพัฒนาขีดความสามารถของภาคส่วนต่างๆ ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ โดยร่วมมือกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม และเครือข่ายในทุกระดับ

โดยมีการรณรงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมสู่สังคม ส่งเสริมแนวคิด Resilient City และแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมเมือง เพื่อการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการพัฒนากลไก และเสริมศักยภาพภาคี ในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero เพื่อการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พร้อมกับการติดตามสถานการณ์ และจัดทำรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมด้วย

  • ที่อยู่: เมืองทองธานี ถนนบอนด์สตรีท ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี
  • ติดต่อ: 02-503-3333
  • เว็บไซต์: https://www.tei.or.th/en/index.php 

 

4. Greenpeace Thailand

Greenpeace Thailand เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร เพื่อรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมในระดับโลก โดยมีภารกิจหลักคือ ทำงานร่วมกับชุมชน และเครือข่ายประชาชน เพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานหมุนเวียน ช่วยรณรงค์นโยบายด้านสภาพอากาศ ปกป้องทะเลไทย โดยการต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ ยังสนับสนุนวิธีการทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบ และเปิดเผยการกระทำที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ปกป้องระบบนิเวศทั้งทางบกและในทะเล นอกจากนี้ ยังร่วมกันจัดแคมเปญ #VoteForClimate เพื่อส่งเสริมนโยบายสิ่งแวดล้อมในการเลือกตั้งอีกด้วย

  • ที่อยู่: แคปปิตอล แมนชั่น ชั้น 1 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
  • ติดต่อ: 02-357-1921
  • เว็บไซต์: https://www.greenpeace.org/thailand/ 

 

5. Precious Plastic Bangkok

Precious Plastic Bangkok เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ที่มุ่งเน้นการจัดการขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน โดยใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง ผ่านการร่วมมือกับชุมชน โรงเรียน และมหาวิทยาลัย รณรงค์การรวบรวมขยะพลาสติก แล้วใช้เครื่องจักรบด หลอมขึ้นรูปใหม่ กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างโคมไฟ ถ้วยชาม กระถางต้นไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์

องค์กรนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างโรงรีไซเคิลให้ชุมชน และส่งมอบเครื่องรีไซเคิล ให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ เพื่อลดขยะพลาสติกในชุมชน สร้างรายได้เสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมทั้งให้ความรู้เรื่องผลกระทบของขยะพลาสติก สอนการใช้ประโยชน์จากขยะพลาสติก เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

  • ที่อยู่: ถนนนครสวรรค์ แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
  • ติดต่อ: 061-261-5640
  • เว็บไซต์: https://www.preciousplasticth.org/

 

องค์กร สิ่งแวดล้อม - มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร

6. มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร

มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสืบสานอุดมการณ์ของสืบ นาคะเสถียร ในการอนุรักษ์ป่าไม้ และสัตว์ป่าของไทย มุ่งเน้นไปที่การปกป้องป่าไม้จากการบุกรุกและการล่าสัตว์สงวน ร่วมกันเป็นผู้พิทักษ์ป่า รักษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ และคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่คุ้มครองของประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ ยังมีการสร้างความตระหนักในสังคมเกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์ด้วย 

  • ที่อยู่: ถนนติวานนท์ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี
  • ติดต่อ: 02-580-4381
  • เว็บไซต์: https://www.seub.or.th/

 

7. มูลนิธิโลกสีเขียว

มูลนิธิโลกสีเขียว ดำเนินงานเพื่อสร้างเครือข่ายการเรียนรู้โดยร่วมมือกับโรงเรียน ชุมชน ครู เด็ก และครอบครัว เพื่อจัดกระบวนการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง ผ่านโครงการนักสืบสิ่งแวดล้อม โดยใช้การสังเกตสิ่งมีชีวิตเป็นเครื่องมือวัดสภาพแวดล้อม เพื่อฝึกอบรมทักษะพื้นฐานโดยใช้อุปกรณ์ง่ายๆ โครงการนี้ได้สร้างนักสืบสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศ และมีการส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ มูลนิธิยังช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างคนเมืองกับธรรมชาติ โดยการจัดกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพ รณรงค์ให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองจักรยาน โดยมีเป้าหมายระยะยาวในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ชุมชนผ่านประสบการณ์จริง เชื่อมโยงคนกับธรรมชาติ สร้างสิ่งแวดล้อม และสังคมที่ยั่งยืน รวมถึงส่งเสริมการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยพลังพลเมือง

  • ที่อยู่: ซอยสุขุมวิท 43 (ซอยแสงมุกดา) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
  • ติดต่อ: 02-662-5766
  • เว็บไซต์: https://greenworld.or.th/ 

 

องค์กร สิ่งแวดล้อม - มูลนิธิไทยรักษ์ป่า

8. มูลนิธิไทยรักษ์ป่า

มูลนิธิไทยรักษ์ป่า ก่อตั้งโดยเอ็กโก กรุ๊ป โดยมีจุดมุ่งหมายคือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และป่าต้นน้ำ มีเป้าหมายในการสร้างเครือข่ายปลูกจิตสำนึกรักษ์ป่า ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน เยาวชน และประชาชน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการอนุรักษ์ป่า สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงการสร้างพลังร่วมในการปกป้องป่าและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

  • ที่อยู่: อาคารเอ็กโก ชั้น 14, 15 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
  • ติดต่อ:02-998-5000
  • เว็บไซต์: https://thairakpa.org/ 

 

9. มูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย

มูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย มีเป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่าย และความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยวิสัยทัศน์ที่อยากจะสร้างเมล็ดพันธุ์ที่ดี เพื่อสังคมทั่วประเทศ ผ่านโครงการต่างๆ ดังนี้

  • โครงการรณรงค์แก้ไขภาวะโลกร้อน: ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน สร้างศูนย์ข้อมูลออนไลน์ วิจัยสภาวะสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมการปลูกป่าทั่วประเทศ
  • โครงการอนุรักษ์พะยูน: ร่วมมือกับชุมชน และหน่วยงานต่างๆ เพื่อจัดเวทีพะยูนสัญจรในโรงเรียน สอนสิ่งแวดล้อมศึกษา และความสำคัญของระบบนิเวศ รวมถึงการผลิตสื่อในการช่วยรณรงค์ด้วย
  • โครงการอาสาสมัครสีเขียว: รวมกลุ่มคนรักสิ่งแวดล้อม จัดทัศนศึกษาในพื้นที่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อม แลกเปลี่ยนความรู้กับเด็กในชุมชนห่างไกล รวมถึงสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติด้วย

ติดต่อมูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย

  • ที่อยู่: ลาดพร้าว 71 ซอยนาคนิวาส 48  ถนนนาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
  • ติดต่อ: 02-542-4283
  • เว็บไซต์: https://www.envcorp.or.th/

สรุป

ประเทศไทยกำลังพบเจอกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมอย่างหนักหนา ทั้งปัญหาโลกร้อน ปัญหามลพิษทางอากาศ ปัญหาขยะเกลื่อนเมือง ปัญหาน้ำเน่าเสีย หรือปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ที่ส่งผลกระทบกับชีวิตคน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ จึงเกิดมูลนิธิ หน่วยงาน NGO และองค์กร เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อมาทำหน้าที่ในการช่วยเหลือ และสร้างความตระหนักรู้ ให้ทุกคนร่วมกันสร้างโลกที่ดีขึ้น

มาร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้อยู่กับเราไปนานๆ Cheewid ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และพร้อมเป็นช่องทาง เพื่อให้ทุกคนได้บริจาคช่วยเหลือองค์กร มูลนิธิ หรือโครงการต่างๆ ได้ทำหน้าที่ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่อไป เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเราเอง และเพื่อลูกหลานในอนาคตด้วย

 

Reference:

  1. ฐานเศรษฐกิจ. วิถีใหม่ไทยแลนด์ กับปัญหาสิ่งแวดล้อม. thansettakij.com. Published 15 August 2020. Retrieved 30 September 2024.
  2. ดร.วิจารย์ สิมาฉายา. จับตาสิ่งแวดล้อมโลก และสิ่งแวดล้อมไทย ปี 2566. tei.or.th. Retrieved 30 September 2024.
  3. TAT REVIEW. จับตา 6 วิกฤติสิ่งแวดล้อม ภัยใกล้ตัว น่ากลัวกว่าที่คิด. tatreviewmagazine.com. Retrieved 30 September 2024.
  4. LUX. สาเหตุหลักของปัญหาสิ่งแวดล้อม. lux.co.th. Published 9 March 2015. Retrieved 30 September 2024.

องค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

logo - ปลูกต้นไม้ ธรรมะ

มูลนิธิปลูกต้นไม้ ปลูกธรรมะ

ขับเคลื่อนสังคมให้หันมาทำบุญด้วยการปลูกต้นไม้กันมากขึ้น ทั้งในที่ดินของตนเอง วัด และที่สาธารณะใกล้บ้านทั้งในเมืองและชนบท ตลอดจนพื้นที่ป่าที่เสื่อมโทรม เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวให้เกิดความร่มเย็น รวมทั้งสร้างความสุขสงบเย็นด้วยธรรมะ
greenpeace - banner
Greenpeace Thailand-logo

Greenpeace Thailand

องค์กรรณรงค์อิสระระดับโลกที่ลงมือทำเพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติ และพฤติกรรม ปกป้องสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมสันติภาพ เพื่อสร้างเปลี่ยนผ่านระบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด ผลักดันความเป็นธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ ต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฏหมาย
banner - Precious Plastic Bangkok
logo - Precious Plastic Bangkok

Precious Plastic Bangkok

องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร มีเป้าหมายในการสร้างเครื่องรีไซเคิลพลาสติกและโรงรีไซเคิลเพื่อส่งมอบให้กับชุมชนต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่นๆ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ชุมชนสามารถลดขยะพลาสติก
banner-มูลนิธิป่าเขตร้อน

มูลนิธิป่าเขตร้อน

ส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์ป่า สัตว์ป่า ต้นน้ำลำธาร ทรัพยากรธรรมชาติ และคุณภาพสิ่งแวดล้อมของประเทศ สนับสนุนให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงพื้นที่เขตอนุรักษ์
logo-มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ดำเนินการสนับสนุนการพัฒนาองค์ความรู้ เสริมสร้างศักยภาพภาคส่วนต่างๆ เพื่อจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน