เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จัก ปัญหาทางเท้าที่คนไทยต้องเจอ ทั้งฟุตบาทไม่ทนทาน รถจักรยานยนต์ ร้านค้าบนทางเท้า การออกแบบที่ไม่คิดถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ มาสร้างทางเท้าให้ดี เพื่อชีวิตที่ดีกัน!

ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข
ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักปัญหาว่างงานในมิติทางสังคมและเศรษฐกิจส่งผลกระทบในวงกว้าง ควรมีทางออกเพื่อเสริมพลังและสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยกลับมายืนหยัดและมีชีวิตที่ดีได้อย่างเข้มแข็ง

Key Takeaway นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คือโครงการจากรัฐบาลที่กำหนดให้ประชาชนเดินทางในเส้นทางรถไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการได้ในราคาเดียวเพียง 20 บาทตลอดสาย เป้าหมายของโครงการคือสร้างความเท่าเทียม ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสให้คนเมืองทุกกลุ่มเข้าถึงการเดินทางอย่างสะดวก ลดปัญหารถติดและมลพิษ ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาชุมชนเมือง โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของรัฐบาล กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการผลักดันจากผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่มีวิสัยทัศน์ด้านระบบขนส่งมวลชน เชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้าในราคาคงที่ ช่วยให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ความท้าทายของนโยบายนี้ คือความยั่งยืนทางการเงิน ที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลชดเชยผู้ประกอบการ และปัญหาการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า ทุกวันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าทีก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เพราะค่าโดยสารที่สะสมไปแต่ละวันไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่ลองคิดดูว่า… ถ้าเราเดินทางไกลแค่ไหนก็จ่ายเพียง 20 บาท จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากขนาดไหน? ประชาชนได้ประโยชน์เต็มๆ! บทความนี้พามาเจาะลึกนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน เรื่องนี้จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันของผู้คน ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา หรือแม่ค้าพ่อค้า ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางทุกวันแน่นอน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คืออะไร? โครงการค่าโดยสาร 20 บาท คือความตั้งใจง่ายๆ ที่อยากให้การเดินทางสาธารณะเป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงาน หรือผู้สูงอายุ เรื่องนี้เริ่มต้นจากคำถามว่า “ทำไมคนต้องจ่ายค่าโดยสารแพงหลายระดับ บางทีแค่ไปทำงานหรือไปเรียนใกล้ๆ ก็ต้องจ่ายราคาเต็ม?” แนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวจึงเกิดขึ้น เพื่อช่วยลดภาระและทำให้ทุกคนได้รับสิทธิ์เดินทางในราคาเท่ากัน ในปี 2567 ได้เริ่มทำโครงการนำร่องในสายสีแดงและสายสีม่วงแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากเลย ส่วนเรื่องการหาเงินมาจ่ายนั้น รัฐบาลไม่ได้แค่รับภาระทั้งหมดเอง แต่มีการแบ่งงบและจัดสรรเงินมาใช้ชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ให้บริการยังสามารถดำเนินธุรกิจได้และไม่ขาดทุน กลไกนี้ช่วยให้ความมั่นคงในการเดินรถยังดำเนินไปได้ โดยรัฐจะพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้บริการจริงและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนเป็นธรรมและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจว่าจะทำให้คมนาคมสาธารณะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเดินทางและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวที่คนทุกวัยทุกกลุ่มเข้าถึงได้จริง ทำไมนโยบายนี้ถึงสำคัญกับคนเมือง? ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกวัน การเดินทางในเมืองใหญ่จึงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน การมีนโยบายที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางจึงเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามองและหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาได้จริง ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดค่าใช้จ่ายรายวันได้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนและคนที่ต้องเดินทางประจำ การกำหนดราคาเดียวช่วยให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเดินทางไกล เพิ่มโอกาสในการเดินทางและใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นโยบายยังช่วยกระตุ้นให้เกิดชุมชนและธุรกิจใหม่ในเขตชานเมือง เพิ่มความสะดวกและคุณภาพชีวิตในเมืองอย่างยั่งยืน ลดปัญหารถติดและมลพิษ นโยบายนี้ไม่ได้แค่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เมื่อประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ปริมาณรถติดก็ลดลงตามไปด้วย ช่วยลดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน การใช้รถไฟฟ้ายังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ที่สำคัญคือทำให้เมืองน่าอยู่ สะอาด และเดินทางได้คล่องตัวมากขึ้นสำหรับทุกคน สร้างเมืองที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน นโยบายนี้ไม่ได้แค่ทำให้ค่าโดยสารถูกลงเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างเมืองที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นักเรียน หรือผู้สูงอายุ ช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้า สร้างระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมและเป็นธรรม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการเดินทาง และทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นคนทุกกลุ่ม เป้าหมายของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท นโยบายนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยลดภาระค่าเดินทางของคนในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน พร้อมส่งเสริมให้คนใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น สร้างความสะดวกและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ความเท่าเทียมในการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยสร้างความเท่าเทียมในการเดินทาง เพราะไม่ว่าคนจะขึ้นรถไฟฟ้ากี่สายหรือต้องเดินทางไกลเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหนก็จ่ายค่าโดยสารราคาเดียว ทำให้ทุกคนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือรัฐบาลช่วยชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรักษาคุณภาพบริการและทำให้นโยบายนี้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ นโยบายนี้ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพราะราคาค่าโดยสารที่ถูกลงทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่าย ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยังร่วมมือกับกรุงเทพฯ ในการพัฒนาระบบตั๋วร่วมและฟีดเดอร์ระบบขนส่ง เช่น รถเมล์ที่เชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งานระบบได้ครบวงจรขึ้น แก้ปัญหารถติด นโยบายนี้เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ได้ เมื่อค่าโดยสารถูกลง ผู้คนจะหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น ลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวที่วิ่งบนถนนในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน นอกจากจะช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร ยังช่วยลดเวลาการเดินทางและความเครียดของผู้ใช้ถนนด้วย ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบขนส่งของเมือง ทำให้การเดินทางสะดวกและราบรื่นขึ้นโดยรวมในระยะยาว เชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมือง นโยบายนี้เป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจและชุมชนเมืองเติบโตเป็นระบบ การลดค่าเดินทางช่วยเพิ่มกำลังซื้อและโอกาสทางธุรกิจในชุมชนต่างๆ เนื่องจากผู้คนสามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้สะดวกและบ่อยขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าหลายสายยังช่วยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานและสินค้ารวดเร็ว ทำให้ชุมชนต่างๆ มีโอกาสพัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนและลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เบื้องหลังการผลักดันนโยบาย โครงการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นผลลัพธ์ของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลและกรุงเทพฯ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมทำหน้าที่วางแนวนโยบายและจัดสรรงบประมาณ ในขณะที่กรุงเทพฯ นำโดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผลักดันให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น นโยบายรถไฟฟ้ากับชัชชาติในฐานะผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เป็นหัวใจของชีวิตคนเมือง ร่วมกับการส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและมลพิษ พร้อมผลักดันให้โครงการได้ผลจริงในเชิงปฏิบัติ เช่น การเชื่อมโยงเส้นทางและเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและติดตามผล ทำให้นโยบายนี้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองจริงๆ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท… ความท้าทายและคำถามที่ยังคงอยู่ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้จะได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยลดภาระค่าโดยสารของประชาชน แต่ก็ยังเผชิญความท้าทายด้านความยั่งยืนทางการเงินหลักๆ เพราะรัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ แต่จากการศึกษาพบว่า… ต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าสายหลักอยู่ที่ประมาณ 11 บาทต่อเที่ยว ทำให้นโยบายนี้เป็นไปได้ถ้าบริหารจัดการดีและมีแหล่งเงินทุนสนับสนุนที่มั่นคง เช่น การใช้รายได้ภาษีจากภาคขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการบริหารจัดการรายได้และผลประโยชน์ของภาคเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนและการดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ปัญหานี้ยังเป็นอุปสรรคที่ต้องเจรจาและหาข้อตกลงร่วมที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทางเลือกและข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนานโยบายในอนาคต ได้แก่ การผลักดันกฎหมายตั๋วร่วมเพื่อให้ใช้บริการได้ด้วยบัตรเดียวทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทให้เชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะมีความมั่นคงและเข้าถึงได้ง่ายในระยะยาว สรุป นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนเมือง ทำให้การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องง่ายและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ช่วยเชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมืองอย่างทั่วถึง พร้อมแก้ไขปัญหารถติดและมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตคนเมืองอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกรุงเทพฯ และภาคประชาสังคม ซึ่งบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วมและติดตามนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคง FAQ – คำถามที่พบบ่อย โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทครอบคลุมทุกสายไหม? โครงการนี้ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สายสีน้ำเงิน (MRT) สายสีเหลือง สายสีชมพู และ Airport Rail Link (ARL) รวมรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงที่ทำไปแล้วทั้งหมด 8 สาย รวม 13 เส้นทางและกว่า 194 สถานีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางในราคาคงที่เพียง 20 บาทตลอดสาย แม้ต้องเปลี่ยนสายก็จะไม่เกินราคานี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ส่งผลต่อปัญหารถติดในกรุงเทพฯ อย่างไร? นโยบายนี้ช่วยลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เพราะราคาค่าโดยสารถูกลง คุณภาพชีวิตและการเดินทางจึงดีขึ้น ลดความหนาแน่นของการจราจรในช่วงเร่งด่วนได้ ประชาชนมีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายนี้ได้อย่างไร? ประชาชนสามารถร่วมลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และใช้บัตร EMV Contactless หรือบัตร Rabbit แบบ ABT เพื่อยืนยันตัวตน ร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการของระบบขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้นต่อไป
อนาคตเข้าถึงได้! นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท โครงการเปลี่ยนชีวิตคนเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามาเจาะลึกกับนโยบายรถไฟฟ้า20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน

ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน
ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักจากเสียงประชาชนสู่การแก้ไขจริง! Traffy Fondue คือระบบร้องเรียนของ กทม. นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ไขปัญหา เพิ่มคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวกรุงให้ดีขึ้น

บริจาคทุนการศึกษา เส้นทางสร้างอนาคตให้เยาวชน สู่การพัฒนาประเทศ

บทความนี้ CHEEWID ชวนทุกท่านมาร่วมกันบริจาคทุนการศึกษาเป็นกุญแจสำคัญที่เปิดโอกาสให้เยาวชนพัฒนาศักยภาพ สร้างรากฐานที่มั่นคงสู่อนาคต ส่งผลดีต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาวทั้งเศรษฐกิจและสังคม
บริจาคทุนการศึกษา เส้นทางสร้างอนาคตให้เยาวชน สู่การพัฒนาประเทศ
Table of Contents

 

Key Takeaway

  • การศึกษานั้นเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ดังนั้นการพัฒนาประเทศจึงต้องมาพร้อมกับการพัฒนาบุคคล โดยการให้ความสำคัญกับการศึกษาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
  • การบริจาคเพื่อการศึกษาสามารถเปิดโอกาสให้เยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้รับการศึกษาเท่าเทียมกับคนอื่นๆ 
  • การบริจาคเงินเพื่อลดหย่อนภาษีสามารถนำยอดบริจาคมาหักลดได้เต็มจำนวน แต่ต้องไม่เกิน 10% ของรายได้สุทธิหลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ แล้ว

 

การบริจาคทุนการศึกษาเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโอกาสและสนับสนุนเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้ได้พัฒนาศักยภาพด้านการเรียนรู้ ซึ่งข่วยสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคต และยังมีผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม

ปัญหาด้านการศึกษาในประเทศไทย

ปัญหาด้านการศึกษาในประเทศไทย

การศึกษานั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศ เนื่องจากการพัฒนาของประเทศจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากบุคคลในประเทศยังไม่มีการพัฒนาก่อน ทั้งในเรื่องความคิด ความรู้ในทางวิชาการ และทักษะต่างๆ สำหรับการทำงาน และการดำเนินชีวิต ดังนั้น ในการพัฒนาประเทศ การพัฒนาประเทศจึงต้อควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคคล โดยคำนึงถึงการศึกษาเป็นหัวใจหลัก 

ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีสารสนเทศมีความก้าวหน้า การศึกษาจำเป็นต้องพัฒนาอย่างรวดเร็วเพื่อให้ประเทศสามารถตามทันการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน แต่จากสภาพสังคมในประเทศไทย การศึกษาไทยนั้นกำลังมีปัญหา เกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ตัวอย่างเช่น โรงเรียนขนาดเล็กที่มีคุณครูไม่เพียงพอและงบประมาณในการพัฒนาต่ำ หรือเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ไม่มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ความเหลื่อมล้ำเหล่านี้ทำให้การพัฒนาการศึกษาของประเทศไทยเกิดความล่าช้า

ความสำคัญของการบริจาคทุนการศึกษา

ความสำคัญของการบริจาคทุนการศึกษา

การบริจาคเพื่อการศึกษา สามารถช่วยให้เยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสทางการศึกษาเหมือนกับคนอื่นๆ ทั่วไป ซึ่งมีประโยชน์ต่อเยาวชนและสังคม ดังนี้ 

  • เป็นการสร้างบุคคลากรที่มีความสามารถในการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ และนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การบริจาคทุนการศึกษาให้นักเรียนแพทย์ ซึ่งจะช่วยให้มีบุคคลากรแพทย์ที่มีประสิทธิภาพในสังคมในอนาคต 
  • เด็กยากไร้หรือเด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเต็มที่ และสามารถพัฒนาความสามารถของตนเองได้มากขึ้น
  • ช่วยยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อผู้คนในสังคมและประเทศ
  • ช่วยให้เด็กที่พิการตั้งแต่กำเนิดได้มีโอกาสเข้าเรียนร่วมกับเด็กนักเรียนปกติทั่วไป ซึ่งเป็นการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกายและด้านจิตใจ รวมไปถึงการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข

 

 

5 มูลนิธิและโครงการที่รับบริจาคทุนการศึกษา

5 มูลนิธิและโครงการที่รับบริจาคทุนการศึกษา

สำหรับใครที่อยากสมทบทุนเพื่อการศึกษา แต่ไม่รู้ว่าจะบริจาคทุนการศึกษาที่ไหนดี มาดูช่องทางการบริจาค เกี่ยวข้องกับการศึกษา ที่ทุกคนสามารถบริจาคได้ มีดังนี้ 

1. Imagine Thailand

Imagine Thailand เป็นมูลนิธิที่จดทะเบียนในประเทศไทย โดยมีผู้นำชาวไทยและแคนาดา มีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือผู้คนต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ ศาสนา เพศ หรือสังกัดทางการเมือง มูลนิธิทํางานร่วมกับองค์กรอื่นๆ จากทั่วโลกเพื่อสนับสนุนกลุ่มเด็กที่เสี่ยงต่อความยากจน ด้อยโอกาส และชุมชนชายขอบ โดยการบริจาคทุนการศึกษาและการลงทุนอย่างมีระบบ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาบุคคล ด้วยอุปกรณ์หรือสิ่งที่จําเป็นต่างๆ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในชุมชน สังคม และเศรษฐกิจ 

    • เบอร์โทรศัพท์: 02-399-3836
  • ที่อยู่: มูลนิธิอิมเมจินไทยแลนด์ 195 ซอยอุดมสุข 37 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร

 

มูลนิธิบ้านจริงใจ (Baan Jing Jai Foundation)

2. มูลนิธิบ้านจริงใจ (Baan Jing Jai Foundation)

มูลนิธิบ้านจริงใจ (Baan Jing Jai Foundation) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2011 เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร มุ่งมั่นในการช่วยเหลือและคุ้มครองเด็ก มีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้ง คือ 

  1. ป้องกันไม่ให้เด็กตกเป็นเหยื่อของการขายบริการทางเพศ 
  2. ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กได้รับการพัฒนาทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ 
  3. ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กได้รับการศึกษาที่ดี ทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน 
  4. สนับสนุนและดำเนินการตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กเพื่อพิทักษ์สิทธิเด็ก 
  5. ทำงานหรือร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์ 
  6. ให้การสงเคราะห์และอุปการะเด็ก โดยให้ที่อยู่อาศัย อาหาร เครื่องนุ่งห่มและการศึกษา

สิ่งของที่รับบริจาค ได้แก่ 

  • ของใช้ต่างๆ เช่น สบู่ ยาสระผม ผงซักฟอก กาวดักแมลงวัน ถุงดำ โรลออล แพมเพิส ผ้าอนามัย 
  • อาหาร เช่น หมู ไก่ ผักสด เห็ดหอม ข้าวเหนียว วุ้นเส้น พริกไทย ปลากระป๋อง พริกแห้ง แป้งเอนกประสงค์ ถั่วเขียว 

นอกจากนี้การบริจาคเพื่อการศึกษาถือเป็นอีกวิธีหนึ่งในการสนับสนุนให้เด็กเหล่านี้ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ดีขึ้น

มูลนิธินิมิตใหม่เพื่อชีวิต New Vision

3. มูลนิธินิมิตใหม่เพื่อชีวิต New Vision

มูลนิธินิมิตใหม่เพื่อชีวิต New Vision เริ่มต้นจากบ้านพักเด็กเล็กๆ เมื่อ 30 ปีก่อน โดยมีเด็กอยู่ในการดูแล 5 คน และเติบโตจนเป็น “สถานสงเคราะห์เด็กนักเรียนชาวเขาเพื่อการศึกษา” และจดทะเบียนเป็นโรงเรียนสงเคราะห์เอกชน วัตถุประสงค์ในการก่อตั้ง คือ 

  1. เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือร่วมมือกับองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในการทำงานด้านสาธารณประโยชน์
  2. ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งและดำเนินงานของโรงเรียน ด้านที่พักอาศัย การฝึกอบรมจริยธรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมวัฒนธรรม
  3. สนับสนุนการศึกษาสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาอาชีพสำหรับกลุ่มเด็กผู้หญิงด้อยโอกาสและผู้ยากไร้
  4. เผยแพร่ความรู้และส่งเสริมการบริการสาธารณสุขเพื่อสุขภาพที่ดีทั้งทางร่ายกาย จิตใจและจิตวิญญาณ โดยให้บริการขั้นพื้นฐานและสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  5. ให้บริการและช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ
  6. สนับสนุนการพัฒนาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในเขตเมืองและชนบท

สิ่งของที่รับบริจาค ได้แก่ อาหารเสื้อผ้า และสิ่งของต่างๆ รวมถึงการบริจาคทุนการศึกษาให้กับมูลนิธิฯ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยให้เด็กเหล่านี้ได้รับโอกาสในการศึกษาและพัฒนาทักษะเพื่อสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้นได้

 

4. โครงการส่งน้องไปโรงเรียน – มูลนิธิสันติสุข

โครงการส่งน้องไปโรงเรียน – มูลนิธิสันติสุข ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2525 โดยวัตถุประสงค์ให้ความช่วยเหลือแก่เด็กที่ยากจนและด้อยโอกาสทางด้านการศึกษา รวมถึงการเสริมสร้างพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กๆ ได้มีความรู้และความสามารถในการดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ยังช่วยให้เด็กๆ สามารถช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวและมีความพร้อมในการดำเนินชีวิตในสังคมต่อไป สำหรับการร่วมบริจาค สามารถบริจาคได้ทั้งเงินสด ทุนการศึกษา ของใช้ อาหาร และเสื้อผ้า 

  • Website: https://www.santisuk.or.th/
  • Facebook: https://www.facebook.com/santisuk.or.th
  • เบอร์โทรศัพท์:02-240-1729, 02-240-1730, 082-329-4832
  • ที่อยู่: 100/4 ถนนอาจณรงค์ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

โครงการมอบครอบครัวทดแทนให้กับเด็กกำพร้า ได้เติบโตมีอาชีพพึ่งพาตนเองได้ - มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ

5. โครงการมอบครอบครัวทดแทนให้กับเด็กกำพร้า ได้เติบโตมีอาชีพพึ่งพาตนเองได้ – มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ

มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ ได้มุ่งมั่นดำเนินการช่วยเหลือเด็กไทยที่สูญเสียพ่อแม่ ไร้ญาติมิตร และเด็กด้อยโอกาส มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 โดยมีท่านผู้หญิงสมศรี เจริญรัชต์ภาคย์ เป็นผู้ก่อตั้งร่วมกับท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช และคณะกรรมการก่อตั้งในขณะนั้น 

โดยได้นำรูปแบบการเลี้ยงดูเด็กมาจาก SOS Children’s Villages 

มีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้ง คือ ส่งเสริมเด็กทุกคนให้ได้รับการศึกษาสูงสุดตามความสามารถ และการส่งเสริมทักษะอาชีพเพื่อเติบโตสู่วัยผู้ใหญ่อย่างมีคุณภาพ สำหรับการร่วมบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนมูลนิธิในการจัดสรรทุนการศึกษาหรือค่าใช้จ่ายในมูลนิธิ สามารถบริจาคได้ทั้งเงินสด หรือบริจาคผ่านช่องทางออนไลน์ 

  • Website: http://www.sosthailand.org
  • Facebook: https://www.facebook.com/SOSThailand
  • เบอร์โทรศัพท์: 02-380-1177
  • ที่อยู่: 18 หมู่ 3 ซอยบุญศิริ ถนนสุขุมวิท ตำบลปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ

ประโยชน์ของการบริจาคทุนการศึกษาต่อการพัฒนาประเทศ

ประโยชน์ของการบริจาคทุนการศึกษาต่อการพัฒนาประเทศ

การบริจาคทุนการศึกษามีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ดังนี้

  • การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

การศึกษานั้นมีความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ เพราะการศึกษามีบทบาทสำคัญในในการเสริมสร้างความคิด ความรู้ทางวิชาการ และทักษะต่างๆ สำหรับการทำงานและการดำเนินชีวิต การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพจะทำให้ประเทศมีบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประเทศมีความมั่นคงมากขึ้น

  • การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม 

การบริจาคทุนการศึกษาเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและ ลดปัญหาเด็กด้อยโอกาส โดยการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเด็กยากไร้หรือขาดแคลนทุนทรัพย์ ช่วยให้มีโอกาสให้เข้าถึงการศึกษาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะส่งผลให้สามารถพัฒนาความสามารถของตนเองได้มากขึ้น เป็นการช่วยให้การศึกษาในประเทศมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีคุณภาพมากขึ้น

  • การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ

การบริจาคทุนการศึกษา เพื่อให้เยาวชนได้รับการศึกษาที่ดี ถือเป็นการลงทุนที่สำคัญในการสร้างบุคคลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระดับสากลและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการบริจาค

การบริจาคเพื่อการศึกษาและทุนการศึกษา สามารถนำไปใช้ในการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดยการหักลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาคทั่วไป สามารถทำได้เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ กล่าวคือ การบริจาคเงินเพื่อลดหย่อนภาษีนั้น สามารถนำยอดบริจาคมาหักลดได้เต็มจำนวน แต่ไม่เกิน 10% ของรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ ออกแล้ว

e-Donation คือ ระบบบริจาคทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการบริจาคเงินให้กับองค์กรต่างๆ ผู้ที่ประสงค์บริจาค สามารถบริจาคได้ 2 รูปแบบ คือ การเดินทางมาบริจาคที่หน่วยบริจาค หรือการบริจาคผ่าน QR Code ของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งให้บริการระบบ e-Donation โดยที่ผู้บริจาคสามารถนำยอดเงินบริจาค ไปใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า โดยที่ไม่ต้องมีเอกสารประกอบ 

ตัวอย่างการคำนวณภาษีจากการบริจาค

  • เงินได้รวม: 1,000,000 บาท
  • ค่าใช้จ่าย: 400,000 บาท
  • เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย: 600,000 บาท
  • ค่าลดหย่อนอื่นๆ: 100,000 บาท
  • เงินได้หลังหักค่าลดหย่อนอื่นๆ: 500,000 บาท
  • เงินบริจาค: 60,000 บาท

จึงสามารถหักลดหย่อนจากการบริจาคได้สูงสุด 50,000 บาท แต่หักได้จริง 50,000 บาท (เนื่องจาก 60,000 บาท มากกว่า 50,000 บาท)

 

สรุป

การศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ การพัฒนาบุคคลทั้งในด้านความคิด ความรู้ และทักษะ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ประเทศเติบโตได้อย่างยั่งยืน สำหรับการทำงาน และการดำเนินชีวิต การบริจาคทุนการศึกษามีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ โดยช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สนับสนุนเด็กยากไร้ให้เข้าถึงการศึกษาได้เต็มที่ และสร้างบุคลากรที่มีประสิทธิภาพสำหรับอนาคต

เราขอเชิญชวนทุกคนร่วมสร้างโอกาสทางการศึกษา โดยการบริจาคทุนการศึกษาให้กับมูลนิธิเพื่อการศึกษาต่างๆ ผ่านการบริจาคด้วยตนเองหรือทางออนไลน์

 

Reference

แคมเปญและองค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

banner - sos เด็กโสสะ

มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ

ช่วยเหลือเด็กที่สูญเสียบิดามารดา ขาดญาติมิตร ในรูปแบบของครอบครัวทดแทนถาวรระยะยาวคอยดูแลพึ่งพากันด้วยสายสัมพันธ์ของพี่น้อง ภายในบ้าน และอยู่ร่วมกันด้วยความมั่นคงปลอดภัยในหมู่บ้านเด็กโสสะ เพื่อให้เด็กสามารถประกอบอาชีพและเลี้ยงดูตัวเองได้

Banner - นมผงเพื่อเด็กแรกเกิด มูลนิธิสันติสุข แจกนมฟรี
logo - มูลนิธิสันติสุข

มูลนิธิสันติสุข Santisuk Foundation

มูลนิธิสันติสุขขอเชิญชวนท่านผู้มีจิตศรัทธาช่วยสนับสนุน โครงการส่งน้องไปโรงเรียนเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน ให้กับเด็กยากจนหลายครอบครัวที่ไม่มีเงินเดินทางไปโรงเรียนเพื่อจะได้ไปโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ

logo - imagine thailand foundation

Imagine Thailand

เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงสองด้านของสังคมไทย เราร่วมกันนำความช่วยเหลือมาสู่เด็กๆ ที่ตกอยู่ในความเสี่ยง เหยื่อแห่งความหวาดกลัว ผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ และภัยทางการเมืองและสงคราม

banner - โครงการอาหารเพื่อน้อง มูลนิธินิมิตใหม่เพื่อชีวิต

มูลนิธินิมิตใหม่เพื่อชีวิต

เราให้ความช่วยเหลือและสงเคราะห์เด็กด้อยโอกาสให้ได้รับปัจจัยพื้นฐาน ได้รับความรัก และได้เห็นคุณค่าตัวเองเพื่อที่จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และพร้อมจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์ที่จะสร้างชาติบ้านเมืองในอนาคตต่อไป
มูลนิธิบ้านจริงใจ

มูลนิธิบ้านจริงใจ

ช่วยเหลือเด็กตั้งแต่ 9 เดือนถึง 18 ปี เด็กในวัยเรียนทุกคนได้รับการศึกษาจากโรงเรียนรัฐบาลในชุมชน พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กได้รับการพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจ และให้คุณค่าของต่อตนเอง