เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จัก ปัญหาทางเท้าที่คนไทยต้องเจอ ทั้งฟุตบาทไม่ทนทาน รถจักรยานยนต์ ร้านค้าบนทางเท้า การออกแบบที่ไม่คิดถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ มาสร้างทางเท้าให้ดี เพื่อชีวิตที่ดีกัน!

ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข
ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักปัญหาว่างงานในมิติทางสังคมและเศรษฐกิจส่งผลกระทบในวงกว้าง ควรมีทางออกเพื่อเสริมพลังและสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยกลับมายืนหยัดและมีชีวิตที่ดีได้อย่างเข้มแข็ง

Key Takeaway นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คือโครงการจากรัฐบาลที่กำหนดให้ประชาชนเดินทางในเส้นทางรถไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการได้ในราคาเดียวเพียง 20 บาทตลอดสาย เป้าหมายของโครงการคือสร้างความเท่าเทียม ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสให้คนเมืองทุกกลุ่มเข้าถึงการเดินทางอย่างสะดวก ลดปัญหารถติดและมลพิษ ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาชุมชนเมือง โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของรัฐบาล กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการผลักดันจากผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่มีวิสัยทัศน์ด้านระบบขนส่งมวลชน เชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้าในราคาคงที่ ช่วยให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ความท้าทายของนโยบายนี้ คือความยั่งยืนทางการเงิน ที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลชดเชยผู้ประกอบการ และปัญหาการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า ทุกวันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าทีก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เพราะค่าโดยสารที่สะสมไปแต่ละวันไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่ลองคิดดูว่า… ถ้าเราเดินทางไกลแค่ไหนก็จ่ายเพียง 20 บาท จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากขนาดไหน? ประชาชนได้ประโยชน์เต็มๆ! บทความนี้พามาเจาะลึกนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน เรื่องนี้จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันของผู้คน ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา หรือแม่ค้าพ่อค้า ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางทุกวันแน่นอน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คืออะไร? โครงการค่าโดยสาร 20 บาท คือความตั้งใจง่ายๆ ที่อยากให้การเดินทางสาธารณะเป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงาน หรือผู้สูงอายุ เรื่องนี้เริ่มต้นจากคำถามว่า “ทำไมคนต้องจ่ายค่าโดยสารแพงหลายระดับ บางทีแค่ไปทำงานหรือไปเรียนใกล้ๆ ก็ต้องจ่ายราคาเต็ม?” แนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวจึงเกิดขึ้น เพื่อช่วยลดภาระและทำให้ทุกคนได้รับสิทธิ์เดินทางในราคาเท่ากัน ในปี 2567 ได้เริ่มทำโครงการนำร่องในสายสีแดงและสายสีม่วงแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากเลย ส่วนเรื่องการหาเงินมาจ่ายนั้น รัฐบาลไม่ได้แค่รับภาระทั้งหมดเอง แต่มีการแบ่งงบและจัดสรรเงินมาใช้ชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ให้บริการยังสามารถดำเนินธุรกิจได้และไม่ขาดทุน กลไกนี้ช่วยให้ความมั่นคงในการเดินรถยังดำเนินไปได้ โดยรัฐจะพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้บริการจริงและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนเป็นธรรมและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจว่าจะทำให้คมนาคมสาธารณะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเดินทางและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวที่คนทุกวัยทุกกลุ่มเข้าถึงได้จริง ทำไมนโยบายนี้ถึงสำคัญกับคนเมือง? ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกวัน การเดินทางในเมืองใหญ่จึงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน การมีนโยบายที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางจึงเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามองและหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาได้จริง ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดค่าใช้จ่ายรายวันได้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนและคนที่ต้องเดินทางประจำ การกำหนดราคาเดียวช่วยให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเดินทางไกล เพิ่มโอกาสในการเดินทางและใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นโยบายยังช่วยกระตุ้นให้เกิดชุมชนและธุรกิจใหม่ในเขตชานเมือง เพิ่มความสะดวกและคุณภาพชีวิตในเมืองอย่างยั่งยืน ลดปัญหารถติดและมลพิษ นโยบายนี้ไม่ได้แค่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เมื่อประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ปริมาณรถติดก็ลดลงตามไปด้วย ช่วยลดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน การใช้รถไฟฟ้ายังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ที่สำคัญคือทำให้เมืองน่าอยู่ สะอาด และเดินทางได้คล่องตัวมากขึ้นสำหรับทุกคน สร้างเมืองที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน นโยบายนี้ไม่ได้แค่ทำให้ค่าโดยสารถูกลงเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างเมืองที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นักเรียน หรือผู้สูงอายุ ช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้า สร้างระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมและเป็นธรรม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการเดินทาง และทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นคนทุกกลุ่ม เป้าหมายของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท นโยบายนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยลดภาระค่าเดินทางของคนในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน พร้อมส่งเสริมให้คนใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น สร้างความสะดวกและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ความเท่าเทียมในการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยสร้างความเท่าเทียมในการเดินทาง เพราะไม่ว่าคนจะขึ้นรถไฟฟ้ากี่สายหรือต้องเดินทางไกลเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหนก็จ่ายค่าโดยสารราคาเดียว ทำให้ทุกคนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือรัฐบาลช่วยชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรักษาคุณภาพบริการและทำให้นโยบายนี้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ นโยบายนี้ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพราะราคาค่าโดยสารที่ถูกลงทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่าย ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยังร่วมมือกับกรุงเทพฯ ในการพัฒนาระบบตั๋วร่วมและฟีดเดอร์ระบบขนส่ง เช่น รถเมล์ที่เชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งานระบบได้ครบวงจรขึ้น แก้ปัญหารถติด นโยบายนี้เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ได้ เมื่อค่าโดยสารถูกลง ผู้คนจะหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น ลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวที่วิ่งบนถนนในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน นอกจากจะช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร ยังช่วยลดเวลาการเดินทางและความเครียดของผู้ใช้ถนนด้วย ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบขนส่งของเมือง ทำให้การเดินทางสะดวกและราบรื่นขึ้นโดยรวมในระยะยาว เชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมือง นโยบายนี้เป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจและชุมชนเมืองเติบโตเป็นระบบ การลดค่าเดินทางช่วยเพิ่มกำลังซื้อและโอกาสทางธุรกิจในชุมชนต่างๆ เนื่องจากผู้คนสามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้สะดวกและบ่อยขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าหลายสายยังช่วยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานและสินค้ารวดเร็ว ทำให้ชุมชนต่างๆ มีโอกาสพัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนและลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เบื้องหลังการผลักดันนโยบาย โครงการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นผลลัพธ์ของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลและกรุงเทพฯ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมทำหน้าที่วางแนวนโยบายและจัดสรรงบประมาณ ในขณะที่กรุงเทพฯ นำโดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผลักดันให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น นโยบายรถไฟฟ้ากับชัชชาติในฐานะผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เป็นหัวใจของชีวิตคนเมือง ร่วมกับการส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและมลพิษ พร้อมผลักดันให้โครงการได้ผลจริงในเชิงปฏิบัติ เช่น การเชื่อมโยงเส้นทางและเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและติดตามผล ทำให้นโยบายนี้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองจริงๆ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท… ความท้าทายและคำถามที่ยังคงอยู่ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้จะได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยลดภาระค่าโดยสารของประชาชน แต่ก็ยังเผชิญความท้าทายด้านความยั่งยืนทางการเงินหลักๆ เพราะรัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ แต่จากการศึกษาพบว่า… ต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าสายหลักอยู่ที่ประมาณ 11 บาทต่อเที่ยว ทำให้นโยบายนี้เป็นไปได้ถ้าบริหารจัดการดีและมีแหล่งเงินทุนสนับสนุนที่มั่นคง เช่น การใช้รายได้ภาษีจากภาคขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการบริหารจัดการรายได้และผลประโยชน์ของภาคเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนและการดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ปัญหานี้ยังเป็นอุปสรรคที่ต้องเจรจาและหาข้อตกลงร่วมที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทางเลือกและข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนานโยบายในอนาคต ได้แก่ การผลักดันกฎหมายตั๋วร่วมเพื่อให้ใช้บริการได้ด้วยบัตรเดียวทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทให้เชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะมีความมั่นคงและเข้าถึงได้ง่ายในระยะยาว สรุป นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนเมือง ทำให้การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องง่ายและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ช่วยเชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมืองอย่างทั่วถึง พร้อมแก้ไขปัญหารถติดและมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตคนเมืองอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกรุงเทพฯ และภาคประชาสังคม ซึ่งบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วมและติดตามนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคง FAQ – คำถามที่พบบ่อย โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทครอบคลุมทุกสายไหม? โครงการนี้ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สายสีน้ำเงิน (MRT) สายสีเหลือง สายสีชมพู และ Airport Rail Link (ARL) รวมรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงที่ทำไปแล้วทั้งหมด 8 สาย รวม 13 เส้นทางและกว่า 194 สถานีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางในราคาคงที่เพียง 20 บาทตลอดสาย แม้ต้องเปลี่ยนสายก็จะไม่เกินราคานี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ส่งผลต่อปัญหารถติดในกรุงเทพฯ อย่างไร? นโยบายนี้ช่วยลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เพราะราคาค่าโดยสารถูกลง คุณภาพชีวิตและการเดินทางจึงดีขึ้น ลดความหนาแน่นของการจราจรในช่วงเร่งด่วนได้ ประชาชนมีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายนี้ได้อย่างไร? ประชาชนสามารถร่วมลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และใช้บัตร EMV Contactless หรือบัตร Rabbit แบบ ABT เพื่อยืนยันตัวตน ร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการของระบบขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้นต่อไป
อนาคตเข้าถึงได้! นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท โครงการเปลี่ยนชีวิตคนเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามาเจาะลึกกับนโยบายรถไฟฟ้า20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน

ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน
ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักจากเสียงประชาชนสู่การแก้ไขจริง! Traffy Fondue คือระบบร้องเรียนของ กทม. นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ไขปัญหา เพิ่มคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวกรุงให้ดีขึ้น

มัดรวม! 10 องค์กรพัฒนาชุมชน เพื่อให้สังคมก้าวสู่การพัฒนาในอีกระดับ

ใครที่สนใจอยากเข้าร่วมโครงการเพื่อชุมชน และสังคม กิจกรรมจิตอาสาในชุมชน CHEEWID ได้รวบรวมมาให้แล้วถึง 10 องค์กรพัฒนาชุมชน เพื่อการพัฒนาสังคมให้น่าอยู่ขึ้น
มัดรวม! 10 องค์กรพัฒนาชุมชน เพื่อให้สังคมก้าวสู่การพัฒนาในอีกระดับ
Table of Contents

 

Key Takeaway

  • สังคมไทยกำลังประสบปัญหาโครงสร้างทางสังคมหลายๆ ด้าน ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกัน และต้องแก้ไขอย่างเป็นระบบโดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม
  • ภาครัฐได้มีนโยบายสำหรับจัดการแก้ไขปัญหาบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการบรรเทาค่าครองชีพ การพัฒนาระบบสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ด้อยโอกาส ออกกฎหมายควบคุมมลพิษ ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และรณรงค์ลดการใช้พลาสติก เป็นต้น
  • องค์กรพัฒนาชุมชนมีบทบาทในการพัฒนา และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน ให้ได้ร่วมคิด วางแผน และดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาของชุมชน และยังสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชนผ่านการฝึกอบรม การให้ความรู้ และการพัฒนาทักษะอาชีพอีกด้วย 

 

สังคมไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ต้องอยู่กับปัญหาโครงสร้างทางสังคมที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความยากจน ปัญหาว่างงาน หรือปัญหาความไม่เท่าเทียม ซึ่งปัญหาเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถแก้ไขให้หมดไปได้ในเร็ววัน

ดังนั้น การร่วมมือกันของภาคประชาชนจึงต้องเข้มแข็งมากพอเพื่อช่วยกันก้าวข้ามปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านี้ไปได้ ใครที่สนใจอยากเข้าร่วมโครงการเพื่อชุมชนและสังคม หรือกิจกรรมจิตอาสาในชุมชน บทความนี้ได้รวบรวม 10 องค์กรพัฒนาชุมชนเพื่อการพัฒนาสังคมให้น่าอยู่ขึ้นมาให้แล้ว

 

มูลนิธิชัยอนันต์

1. มูลนิธิชัยอนันต์

มูลนิธิชัยอนันต์ องค์กรพัฒนาชุมชนที่มุ่งมั่นในการส่งเสริม พัฒนา และสนับสนุนการสร้างสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการสนับสนุนบุคคลและองค์กรที่ทำหน้าที่เพื่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการศึกษา บุคลากรทางการแพทย์ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ หน่วยกู้ชีพกู้ภัย จิตอาสา อาสาสมัคร พระสงฆ์ ผู้แทนศาสนา ตลอดจนองค์กรการกุศล มูลนิธิ และหน่วยงานเพื่อสาธารณประโยชน์ต่างๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถขยายการช่วยเหลือไปยังผู้อื่นได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนและสร้างประโยชน์สุขให้แก่ทุกคนในสังคม

  • ที่อยู่: ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ
  • เบอร์ติดต่อ: 093-000-3333
  • เว็บไซต์: https://www.chaianan.or.th/ 

 

มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

2. มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธินี้ได้ก่อตั้งโดยการนำของ ศ.ดร. ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ร่วมกับบุคคลจากภาคราชการและธุรกิจเอกชน ด้วยวิสัยทัศน์ในการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งความคิด แรงกาย แรงใจ และทรัพยากรต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวชนบทไทย โดยยึดหลักการพัฒนาของ ดร.วาย ซี เจนส์ เยน จาก Institute of International Rural Reconstruction ที่เน้นการทำงานร่วมกับชุมชนอย่างใกล้ชิดด้วยหลักการและโครงการเพื่อชุมชน และสังคม 

‘อยู่กับเขา    เรียนรู้จากเขา

วางแผนกับเขา    ทำงานกับเขา

เริ่มจากสิ่งที่เขารู้    สร้างจากสิ่งที่เขามี

สอนโดยชี้ให้เห็น    เรียนจากการทำ

ไม่ใช่เพื่ออวด    แต่เพื่อเป็นแบบแผน

ไม่ใช่สิ่งละอันพันละน้อย    แต่เป็นระบบ

ไม่ใช่ทำทีละอย่าง    แต่ใช้หลักผสมผสาน

ไม่ใช่ตามใจ    แต่ช่วยให้เปลี่ยนแปลง

ไม่ใช่โอบอุ้ม    แต่ช่วยสร้างพลัง’

 

  • ที่อยู่: ม. 6 ฝายน้ำล้น ตำบลบ้านกล้วย อำเภอเมือง ชัยนาท
  • เบอร์ติดต่อ: 088-971-4146, 080-521-9799
  • เว็บไซต์: https://trrmfoundation.org/

 

มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

3. มูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนล

มูลนิธิเรดิออน อินเตอร์เนชั่นแนล องค์กรพัฒนาชุมชนที่มีเป้าหมายในการมอบความรักสู่ผู้ด้อยโอกาสในสังคมผ่านการลงมือปฏิบัติจริง โดยเน้นการเข้าถึงผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหงและชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลือด้วยพื้นฐานแห่งความรักของพระเจ้า สร้างแรงกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมและชุมชนจนสามารถส่งต่อผลกระทบเชิงบวกไปยังผู้อื่นภายใต้คติธรรม ‘ทุกชีวิตสำคัญ’ นอกจากนี้ ทางองค์กรได้จัดกิจกรรมจิตอาสาในชุมชนโดยมีความเชื่อมั่นว่าทุกคนมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองและส่งต่อความรัก ความหวัง รวมถึงแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่นต่อไปได้

  • ที่อยู่: หมู่ 4 ตำบลสบแม่ข่า อำเภอหางดง เชียงใหม่
  • เบอร์ติดต่อ: 063-625-5173
  • เว็บไซต์: https://radion-international.org/th/

 

มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.)

4. มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.)

มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) ได้รับการสนับสนุนการสำรวจพื้นที่จากกองทุนพัฒนาท้องถิ่นไทย-แคนาดา (LDAP) ผลจากการสำรวจนำไปสู่การพัฒนาโครงการเพื่อชุมชนและสังคม อย่างโครงการการศึกษาเพื่อชุมชนในเขตภูเขาที่มุ่งเน้นการสนับสนุนการตั้งถิ่นฐานถาวร การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ การอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ และการส่งเสริมความเป็นพลเมืองที่ดี 

โครงการได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการชาวเขาจังหวัดเชียงราย โดยมีศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดเชียงรายเป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนการอบรมเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ตามหลักสูตร ศศช. (โครงการศูนย์การศึกษาเพื่อชุมชนในเขตภูเขา) ซึ่งใช้เป็นแนวทางหลักในการจัดการศึกษาร่วมกับชุมชน

  • ที่อยู่: ถนนป่างิ้ว ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย เชียงราย
  • เบอร์ติดต่อ: 091-141-6841, 086-179-5044
  • เว็บไซต์: https://www.hadf1985.org/

 

สิงห์อาสา

5. สิงห์อาสา

สิงห์อาสา องค์กรพัฒนาชุมชนที่ถือกำเนิดขึ้นในปีพ.ศ. 2554 ท่ามกลางวิกฤตมหาอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดของประเทศไทย โดยเริ่มจากการรวมตัวกันของพนักงาน ผู้บริหารบริษัทบุญรอดฯ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ด้วยปณิธานในการช่วยเหลือสังคมตามแนวทางของพระยาภิรมย์ภักดี 

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของกลุ่มพนักงานไม่กี่คน สิงห์อาสาได้เติบโตและขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่องจนครอบคลุมไปถึงกลุ่มจิตอาสาจากทุกภาคส่วน ทั้งนิสิตนักศึกษาไทยและต่างชาติ บริษัทในเครือบุญรอดฯ สถาบันการศึกษา หน่วยงานอาสากู้ภัย และหน่วยงานราชการต่างๆ จนกลายเป็นเครือข่ายจิตอาสาที่แข็งแกร่งและมีการดำเนินงานจัดกิจกรรมจิตอาสาในชุมชนอย่างครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ รวมถึงขยายขอบเขตการทำงานไปสู่ต่างประเทศอีกด้วย

  • ที่อยู่: ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ
  • เบอร์ติดต่อ:
  • เว็บไซต์: https://member.singha-r-sa.org/

 

4DekDoi ครูอาสาลาพักร้อนมาสอนเด็กดอย

6. 4DekDoi ครูอาสาลาพักร้อนมาสอนเด็กดอย

4DekDoi ครูอาสาลาพักร้อนมาสอนเด็กดอย เป็นโครงการเพื่อชุมชนและสังคม จัดกิจกรรมครูอาสาที่เปิดโอกาสให้อาสาสมัครได้มาทำกิจกรรมร่วมกับเด็กๆ และชุมชนบนดอย โดยเฉพาะเด็กชาวเขาชนเผ่ากะเหรี่ยง ซึ่งเป็นการชวนให้ผู้มีจิตอาสาใช้เวลาวันหยุดพักร้อนมาทำประโยชน์เพื่อสังคม พร้อมทั้งได้เรียนรู้วิถีชีวิตบนดอยเพื่อพัฒนาทักษะการแสดงออก การสื่อสาร และสร้างความภาคภูมิใจในการเป็นพลเมืองไทย เป็นการผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน เติมเต็มพลังใจ และสร้างประสบการณ์ดีๆ ที่นำกลับไปเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานและการใช้ชีวิตต่อไป

  • ที่อยู่: หมู่ 1 ตำบลอมก๋อย อำเภออมก๋อย เชียงใหม่
  • เบอร์ติดต่อ: 082-194-1180
  • เว็บไซต์: https://www.4dekdoi.com/ 

 

บริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด

7. บริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด

บริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด องค์กรพัฒนาชุมชนที่เป็นองค์กรวิสาหกิจเพื่อสังคม มุ่งสร้างต้นแบบในระดับประเทศโดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ด้อยโอกาสกลุ่มต่างๆ ทั้งผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ว่างงาน เกษตรกร และชุมชน ให้ได้จำนวน 800 คนภายในปี พ.ศ. 2570 ด้วยการสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคง โดยดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมที่ยั่งยืน มุ่งส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการต่อยอดจากจุดแข็งและองค์ความรู้ที่มีอยู่ของกลุ่ม ปตท. เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้แก่สังคมอย่างยั่งยืน

  • ที่อยู่: ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์อาคาร A ชั้น 10 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
  • เบอร์ติดต่อ: 02-537-2971
  • เว็บไซต์: https://sarnpalung.pttgrp.com/web/home

 

มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ

8. มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ

มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโครงการพระราชดำริที่ครอบคลุมงานด้านการเลี้ยงสัตว์ การปลูกพืช การทำนาข้าว การปรับปรุงดินและน้ำ การศึกษาการปลูกป่า พืชสมุนไพร การปลูกแฝก รวมถึงเทคโนโลยีชีวภาพและการวิจัยด้านพลังงาน เน้นให้เกษตรกรและประชาชนพึ่งพาตัวเอง ผ่านแนวคิด ‘ทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง’ ทำให้เกิดการรวมกลุ่มผู้มีอุดมการณ์เดียวกันจัดตั้งมูลนิธินี้ เพื่อเผยแพร่ และประยุกต์ใช้แนวคิดในการทำเกษตรธรรมชาติและการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน โดยเริ่มจากการทดลองผลิตเอ็นไซม์สมุนไพรธรรมชาติและขยายผลการทดลองไปสู่พืชและสัตว์น้ำหลากหลายชนิดในพื้นที่เกษตรกรกว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าการทำเกษตรและการดำรงชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

  • ที่อยู่: ซอยบี 12 หมู่บ้านสัมมากร เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ
  • เบอร์ติดต่อ: 02-729-4456
  • เว็บไซต์: http://agrinature.or.th/ 

 

มูลนิธิ แอสเสท เวิรด์ เพื่อการกุศล

9. มูลนิธิ แอสเสท เวิรด์ เพื่อการกุศล

มูลนิธิ แอสเสท เวิรด์ เพื่อการกุศล (Asset World Foundation for Charity – AWFC) ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2561 โดยแอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น มีความมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน สังคม และประเทศชาติ จัดกิจกรรมจิตอาสาในชุมชนโดยมีวัตถุประสงค์สำคัญในการสร้างสรรค์ และมีส่วนร่วมในโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมที่สอดคล้องกับนโยบาย ‘การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน’ ของบริษัท 

มูลนิธิยังทำหน้าที่เป็นแกนกลางในการประสานงานด้านการกุศลของทุกธุรกิจในเครือเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีทิศทาง มีเอกภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน พร้อมทั้งเป็นต้นแบบขององค์กรภาคเอกชนที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการใส่ใจต่อสังคม

  • ที่อยู่: ชั้น 54 อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ
  • เบอร์ติดต่อ: 02-180-9999
  • เว็บไซต์: https://www.assetworldcorp-th.com

 

ศูนย์การเรียนรู้ฟอร์ดเพื่อชุมชน และสิ่งแวดล้อม

10. ศูนย์การเรียนรู้ฟอร์ดเพื่อชุมชน และสิ่งแวดล้อม

ศูนย์การเรียนรู้ฟอร์ดเพื่อชุมชน และสิ่งแวดล้อม หรือ Ford Resource and Engagement Center ก่อตั้งโดยฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี โดยก่อนการเปิดศูนย์การเรียนรู้ FREC ได้ทำงานร่วมกับชุมชนอย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 9 เดือน เพื่อทำความเข้าใจถึงปัญหา ความต้องการ เอกลักษณ์ และเรื่องราวของชุมชน ซึ่งจะนำไปสู่การออกแบบกระบวนการพัฒนาชุมชนที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับพื้นที่อย่างแท้จริง

ศูนย์การเรียนรู้ FREC เป็นศูนย์รวมขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (NGO) 8 องค์กร ที่มีความเชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมในมิติที่แตกต่างกัน สามารถเกื้อหนุนและส่งเสริมการทำงานซึ่งกันและกันได้อย่างลงตัว ด้วยแนวคิดในการสร้างโอกาสให้ผู้คนที่อาจไม่เคยได้พบเจอกันในชีวิตประจำวันได้มาร่วมกันทำงานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อสร้างสรรค์งานที่ยิ่งใหญ่และมีความหมาย ซึ่งไม่อาจสำเร็จได้หากดำเนินการโดยบุคคลหรือองค์กรเพียงลำพัง

  • ที่อยู่: ถนนนครสวรรค์ แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศรัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
  • เบอร์ติดต่อ: 02-075-1418
  • เว็บไซต์: https://www.facebook.com/frecbkk/ 

 

สรุป

สังคมไทยกำลังเผชิญกับปัญหาโครงสร้างทางสังคม ตั้งแต่ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ภาระหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ไปจนถึงการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และวิกฤตสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัญหาเหล่านี้ต้องการการแก้ไขอย่างเป็นระบบโดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม 

องค์กรพัฒนาชุมชนได้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน ด้วยการส่งเสริมให้คนในชุมชนได้มีส่วนร่วมในการคิด วางแผน และดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาของชุมชน นอกจากนี้ยังสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชนผ่านการฝึกอบรม การให้ความรู้ และการพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน

Cheewid ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนองค์กรพัฒนาชุมชน โดยเป็นตัวกลางระหว่างผู้บริจาคและผู้รับบริจาค สนับสนุนให้คนในชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

 

Reference:

  1. Trueplookpanya. ปัญหาทางเศรษฐกิจของชุมชน. trueplookpanya.com. Published 6 August 2021. Retrieved 12 November 2024.

องค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

banner-สิงห์อาสา
logo-สิงห์อาสา

สิงห์อาสา

สิงห์อาสา ดำเนินงานด้านอาสาสมัครอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือและพัฒนาสังคมในด้านต่างๆ ได้ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับชุมชนมาอย่างต่อเนื่องประกอบกับเรามีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญในการทำงานในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
banner-มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา
logo-มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา

มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา

มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตภูเขาและชุมชนอื่นๆ ร่วมมือกับหน่วยงานราชการและองค์การต่างๆ ในการสนับสนุนให้เป็นชุมชนที่พึ่งตนเองได้
banner - ชูมณี
logo - ชูมณี

ชูมณี

ชูมณีต้องการแก้ปัญหาสังคม สร้างอาชีพ และช่วยเหลือ กลุ่มผู้สูงอายุ,ผู้ต้องขัง ผู้พ้นโทษ,บริการรถซักผ้าเคลื่อนที่ บริการซักอบผ้า และอาบน้ำฟรีแก่คนไร้บ้านคนจนเมือง เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเพื่อให้คนไร้บ้านให้ได้ใช้ห้องน้ำ ห้องสุขา ที่สะอาดและปลอดภัย 
banner-มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
logo-มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้นำ​ในการก่อตั้งร่วมกับบุคคลในวงราชการและธุรกิจเอกชนจำนวนหนึ่ง ด้วย​ความมุ่งมั่นที่จะรวบรวมและประสานความคิด กำลังกาย กำลังใจ และ​ทรัพยากร
banner-มูลนิธิชัยอนันต์

มูลนิธิชัยอนันต์

องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนและส่งเสริม บุคคล กลุ่มคน องค์กร ที่ทําหน้าที่ช่วยเหลือสังคม เช่น บุคลากรทางการศึกษา บุคลากรทางการแพทย์ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ กู้ชีพกู้ภัย เสริมสร้างอนาคตแห่งรอยยิ้ม ร่วมกันได้แล้ววันนี้