ในปีพ.ศ 2563 มีจำนวนของสัตว์ป่า 2 ใน 3 สายพันธุ์ที่กลายมาเป็น สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ สาเหตุหลักๆ นั้นเกิดจากพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรอย่างไม่มีความรับผิดชอบของมนุษย์ ต่อมาในปีพ.ศ 2565 สัตว์ป่ามีจำนวนลดลงสูงถึง 58% ทำให้หน่วยงานต่างๆ ที่ให้ความสำคัญกับสัตว์เหล่านี้ และพยายามที่จะให้การคุ้มครองทางด้านกฏหมายแก่สัตว์
นั่นจึงเป็นที่มาของพ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ซึ่งเป็นพ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ที่สำคัญและมีค่าต่อสังคมเป็นอย่างมาก เนื่องจากการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าตลอดจนสัตว์เลี้ยงนั้นมีผลกระทบต่อสังคมมนุษย์ และระบบนิเวศโดยตรง
พ.ร.บ. คุ้มครองสัตว์ คืออะไร
พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ เป็นพระราชบัญญัติที่ใช้ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพของสัตว์ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้คุ้มครองสัตว์จากการถูกทารุณกรรมด้วยน้ำมือมนุษย์ แต่กระนั้น กฏหมายนี้ก็เป็นกฏหมายที่มีไว้เพื่อปกป้องมนุษย์จากการกระทำที่เกิดจากสัตว์ด้วยเช่นกัน
ตามกฏหมายระบุไว้ว่า หากมีการทำร้ายหรือทารุณกรรมสัตว์จะมีโทษตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ ซึ่งทางกฎหมายได้มีการกำหนดไว้ว่า ห้ามไม่ให้ผู้ใดกระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุผลอันควร หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยพ.ร.บ. คุ้มครองสัตว์มีอำนาจที่สามารถครอบคลุมทั้งการคุ้มครองสัตว์ทั่วไป ไปจนถึงการคุ้มครองสัตว์ป่า
พ.ร.บ. คุ้มครองสัตว์ทั่วไป
ประเภทของสัตว์ทั่วไปที่ครอบคลุมในการบังคับใช้กฏหมายมีหลากหลายประเภท แต่ละประเภทมีข้อยกเว้นให้ฆ่าได้ เช่น สัตว์ที่นำมาใช้ประกอบอาหาร แต่โดยส่วนใหญ่ สัตว์ทั่วไปที่คนนิยมเลี้ยงกัน เช่น หมา แมว มักโดนทารุณกรรมจากน้ำมือมนุษย์อยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้เกิดพ.ร.บ. คุ้มครองสัตว์ขึ้น โดยกฏหมายได้มีข้อกำหนด ดังนี้
เจ้าของสัตว์และหน้าที่ของเจ้าของสัตว์
เจ้าของสัตว์ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ผู้ที่ครอบครองสัตว์ หรือการได้รับมอบหมายให้มีการดูแล ไม่ว่าจะเป็นการได้รับมอบหมายจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าของกรรมสิทธิ์เพี่อให้ดูแล เจ้าของสัตว์จะต้องมีการดำเนินการจัดสวัสดิภาพให้แก่สัตว์อย่างเหมาะสมตามหลักของกฏหมายคุ้มครองสัตว์ โดยเจ้าของสัตว์ห้ามละเลย หรือกระทำการใดๆ ที่พ้นจากการดูแล และห้ามนำสัตว์ไปใช้งานการแสดง หรือการขนส่งสัตว์
การกระทำที่ถือเป็นการทารุณกรรมสัตว์
การทารุณกรรมสัตว์ เป็นการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ ทำให้สัตว์ทุกข์ทรมาน ซึ่งการกระทำดังต่อไปนี้ ไม่ว่าข้อใดก็ถือเป็นการทารุณสัตว์
- ทำร้ายสัตว์จนได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือการทำให้สัตว์ตาย
- แสวงหาประโยชน์จากสัตว์พิการ สัตว์ที่เจ็บป่วย รวมไปถึงสัตว์ที่กำลังตั้งท้อง
- ใช้สัตว์ในการประกอบกามกิจ
- ใช้สัตว์ทำงานเกินเหตุ หรือใช้งานไม่เหมาะสม
การกระทำที่ไม่ถือเป็นการทารุณกรรมสัตว์
ตามกฏหมายคุ้มครองสัตว์ มาตรา 21 คุ้มครองและป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ โดยการกระทำดังต่อไปนี้ แม้จะเป็นการทำร้ายหรือทำให้สัตว์มีอันเป็นไปก็ถือว่าไม่เป็นการทารุณสัตว์
- ฆ่าสัตว์เพื่อใช้เป็นอาหาร โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่ใช้เป็นอาหารเท่านั้น
- ฆ่าสัตว์ตามกฎหมายที่ว่าด้วยการควบคุมฆ่าสัตว์และจัดจำหน่าย
- ฆ่าสัตว์เพื่อควบคุมโรคระบาด
- ฆ่าสัตว์ในกรณีที่สัตวแพทย์เห็นว่าเป็นสัตว์ที่ป่วย พิการ บาดเจ็บ และไม่สามารถเยียวยาหรือรักษาชีวิตให้อยู่รอดได้
- ฆ่าสัตว์ตามพิธีกรรมความเชื่อทางศาสนา
- ฆ่าสัตว์ในกรณีที่มีความจำเป็น เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดแก่ชีวิตได้
โทษที่จะได้รับหากทารุณกรรมสัตว์
โทษตามกฏหมายคุ้มครองสัตว์ที่จะได้รับหากทำการทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งจะมีการเอาผิดทั้งเจ้าของสัตว์ที่ไม่ทำหน้าที่ตามที่ของตนเอง รวมไปถึงคนที่มีการทารุณกรรมสัตว์ด้วยเหตุไม่ควร ดังนี้
- มาตรา 31 ผู้ใดที่มีการฝ่าฝืนตามมาตรา 20 ต้องระวางโทษไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- มาตรา 32 เจ้าของสัตว์ที่ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่รัฐกำหนดตามมาตรา 22 มาตรา 23 และมาตรา 24 ต้องระวางโทษไม่เกิน 40,000 บาท
- มาตรา 34 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 28 ต้องระวางโทษไม่เกิน 20,000 บาท
พ.ร.บ. คุ้มครองสัตว์ป่า
สัตว์ป่า หมายถึงสัตว์ป่าทุกชนิด นอกจากสัตว์ป่าทั่วไปแล้ว ยังมีสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติ และผู้ใดที่พยายามล่าสัตว์เหล่านี้เพื่อหาผลประโยชน์ จะต้องได้รับโทษตามที่พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าได้กำหนดเอาไว้
- สัตว์ป่าสงวน เป็นสัตว์ที่หายากตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ ได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร กระซู่ แรด กูปรี ควายป่า ละมั่ง สมัน เลียงผา นกแต้วแร้วท้องดำ กวางผา นกกระเรียน สมเสร็จ แมวลายหินอ่อน พะยูน และเก้งหม้อ เป็นต้น
- สัตว์ป่าคุ้มครอง เป็นสัตว์ป่าที่กระทรวงกฎหมายกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น ชะนี ช้างป่า ไก่ฟ้า นกขุนทอง เสือดาว หมีดำ และเสือโคร่ง เป็นต้น
ข้อห้ามเกี่ยวกับสัตว์ป่า
พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ามีข้อห้ามเกี่ยวกับสัตว์ป่าที่รับความคุ้มครองตามที่กำหนดเอาไว้ ตามกฎหมาย ดังต่อไปนี้
- ห้ามล่าสัตว์ป่า ห้ามไม่ให้ล่าสัตว์ป่าสงวน เว้นแต่เป็นการกระทำทางราชการเพื่อประโยชน์ในการสำรวจ การศึกษา การวิจัย และการคุ้มครองสัตว์ป่า
- ห้ามเพาะพันธุ์สัตว์ป่า ห้ามไม่ให้ทำการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนและสัตว์คุ้มครอง เว้นแต่เป็นการเพาะพันธุ์ชนิดที่ได้รับการอนุญาตจากอธิการบดี หรือการอนุญาตในกิจการสาธารณะ
- ห้ามครองสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่า เว้นแต่จะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่กำหนดให้เพาะพันธุ์ตามกฎหมาย และต้องได้รับการอนุญาตจากอธิการบดี
- ห้ามค้าสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่า รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากสัตว์ เว้นแต่เป็นการค้าสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ และต้องได้รับการอนุญาตจากอธิการบดี
โทษที่จะได้รับหากฝ่าฝืนข้อห้าม
ผู้ใดที่มีการฝ่าฝืนข้อห้ามก็จะได้รับโทษตามที่กฎหมายหรือพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ากำหนดเอาไว้ ดังนี้
- หากล่า ครอบครอง และค้าสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่า ต้องจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- หากเพาะพันธุ์สัตว์ป่า นำเข้า หรือส่งออกสัตว์ป่าสงวน รวมถึงการจัดตั้งกิจการสวนสัตว์สาธารณะที่ไม่ได้รับอนุญาต ต้องจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- หากมีสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตไว้ในครอบครอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- หากค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สถิติของสัตว์ที่ถูกทำร้าย
สัตว์ที่ถูกทำร้าย มักจะเป็นสัตว์ที่มีผลทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า และสัตว์ทดลอง โดยส่วนใหญ่สัตว์จะถูกทำร้ายโดยการใช้แรงงาน การทารุณกรรมเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ แม้จะผิดกฏหมายคุ้มครองสัตว์ แต่ก็ยังคงพบสัตว์ที่ถูกทำร้ายอยู่บ่อยครั้งในปัจจุบัน
สัตว์เศรษฐกิจ
สัตว์เศรษฐกิจ เป็นสัตว์ที่มนุษย์นำมาเลี้ยงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ มักถูกทำร้ายโดยการเลี้ยงในกรงแคบ มีวิธีการเลี้ยงดู และอุปกรณ์ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ และพบการใช้สารเคมีเร่งเนื้อที่มีความผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ รวมถึงการเชือดและชำแหละที่ไม่ถูกหลักทางวิชาการ อุปกรณ์ไม่พร้อม และสถานที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
สัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงมักถูกทำร้ายโดยการถูกทอดทิ้งให้กลายเป็นสัตว์จรจัด ถูกทำให้เป็นสินค้า รวมถึงการทำร้ายร่างกายและจิตใจ แม้ว่าจะมีการแก้ ปัญหาสัตว์จรจัด รวมถึงปัญหาอื่นๆ แล้วส่วนหนึ่ง แต่ปัจจุบันก็ยังมีการทารุณสัตว์เลี้ยงด้วยการขาดจิตสำนึก และการขาดความรับผิดชอบของเจ้าของ หลังจากมีพ.ร.บ.คุ้มครองแมวและกฏหมายคุ้มครองหมา ปัญหาเหล่านี้จึงเริ่มทุเลาลง เพราะโดยส่วนใหญ่คนมักจะนิยมเลี้ยงหมาและแมว การเรียกร้องจึงมีพลัง จนทำให้เกิดกฏหมายคุ้มครองสัตว์ดังที่เห็นได้ในปัจจุบัน
สัตว์ป่า
สัตว์ป่ามักถูกทำร้ายโดยการนำออกมาจากป่า การกักขังในที่แคบ การใช้งาน การดูแลที่ไม่ถูกสุขลักษณะ การนำสัตว์ป่ามาแล้วนำไปปล่อยในป่า ทั้งที่สูญสิ้นสัญชาตญาณของสัตว์ป่าไปแล้ว ทำให้สัตว์ป่าเหล่านั้นไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข ตัวอย่างการทารุณกรรมที่เห็นได้ชัด เช่น การนำสัตว์ป่าทั่วไป หรือสัตว์ป่าหายากมาขังในกรงแคบๆ เพื่อจัดการแสดง และสนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยว
สัตว์ทดลอง
สัตว์ทดลอง คือสัตว์ที่นำมาเพาะเลี้ยง หรือสัตว์ที่นำมาทดลองทางวิทยาศาสตร์ เมื่อสัตว์เหล่านั้นหมดประโยชน์จึงมีการกักขังเอาไว้ โดยส่วนใหญ่ถูกทำร้ายจากการขาดการดูแลทั้งก่อนและหลังทำการทดลอง และไม่มีการคำนึงถึงความพร้อมของสัตว์ในระหว่างการทดลอง รวมไปถึงการทอดทิ้งสัตว์ให้เป็นภาระหลังทดลอง ทำให้สัตว์ทดลองเหล่านี้ถูกใช้งานอย่างหนักและอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตไปในที่สุด
ผลกระทบของการทารุณกรรมสัตว์
ผลกระทบของการทารุณกรรมสัตว์จะส่งผลกระทบทั้งต่อสัตว์ที่ถูกทารุณ และต่อคนที่ทารุณสัตว์ เพราะมีความผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ รวมไปถึงผลกระทบที่มีต่อครอบครัวและสังคมอีกด้วย
-
ผลกระทบต่อสัตว์ที่ถูกทารุณกรรม
สัตว์ที่ถูกทารุณกรรมไม่ว่าจะในรูปแบบใด มักได้รับผลกระทบทั้งในด้านร่างกายและจิตใจเสมอ โดยทางด้านร่างกายจะพบว่าสัตว์มีบาดแผล และร่องรอยการถูกทำร้าย นอกจากนี้ ทางด้านจิตใจของสัตว์ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เช่น เกิดความเจ็บปวด ความวิตกกังวล และความหวาดระแวง ที่ทำให้สัตว์เกิดความเครียด และอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตไปในที่สุด
-
ผลกระทบต่อคนที่ทารุณกรรมสัตว์
คนที่มีการทารุณกรรมสัตว์ จะได้รับโทษความผิดตามกฏหมายคุ้มครองสัตว์ นอกจากนี้ การกระทำที่มีการทารุณกรรมสัตว์อาจส่งผลต่อการสร้างนิสัยที่ก้าวร้าวและรุนแรงได้ อีกทั้งยังเป็นพฤติกรรมที่ผิดศีลธรรม และที่สำคัญบุคคลที่มีพฤติกรรมในการทารุณกรรมสัตว์ซ้ำๆ อาจส่งผลให้คนผู้นั้นมีอาการป่วยทางจิตใจได้ รวมถึงอาจทำให้มีแรงจูงใจในการทำร้ายคนด้วยกันได้
-
ผลกระทบต่อครอบครัวและสังคม
ผลกระทบจากบุคคลที่มีพฤติกรรมทารุณกรรมสัตว์ ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อสัตว์เพียงอย่างเดียว แต่จะส่งผลกระทบต่อครอบครัวได้ ซึ่งอาจเกิดพฤติกรรมที่มีการทำร้ายคนในครอบครัว อีกทั้ง เมื่อผู้กระทำความผิดได้รับโทษตามกฏหมายคุ้มครองสัตว์ อาจทำให้ครอบครัวเกิดความกังวลใจ และนอกจากนี้ อาจส่งผลกระทบแก่สังคมได้เช่นกัน เนื่องจากอาจเกิดพฤติกรรมก่อกวน ทำให้สังคมไม่น่าอยู่ เกิดความวุ่นวายขึ้น หากมีการใช้ยาเสพติดร่วมด้วย อาจก่อให้เกิดปัญหารุนแรงไปจนถึงก่ออาชญากรรมได้ เพราะคนที่มีพฤติกรรมชอบทารุณกรรมสัตว์มักจะมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวมากกว่าคนทั่วไป
สรุป
พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์นั้น มีไว้เพื่อคุ้มครองทั้งสัตว์ทั่วไปและสัตว์ป่า ถ้าหากไม่มีกฎหมายนี้ขึ้นมา อาจทำให้มีการทารุณกรรมสัตว์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบทั้งต่อสัตว์ คนรอบข้าง ครอบครัว และสังคมได้ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีกฎหมายคุมครองสัตว์รองรับ แต่ก็ยังมีสถิติการทารุณกรรมสัตว์หลากหลายประเภทให้เห็น
สำหรับบุคคลใดที่ต้องการช่วยเหลือสัตว์ที่ได้ผลกระทบจากการทารุณกรรม CHEEWID มีวิธีง่ายๆ ที่ทุกท่านสามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยการร่วมทุนบริจาคให้กับองค์กรหรือมูลนิธิต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทำร้ายหรือถูกทารุณกรรม โดยสามารถบริจาคได้กับทางมูลนิธิต่อไปนี้ มูลนิธิอนุรักษ์โคกระบือไทยและให้ชีวิตใหม่แก่สัตว์ถูกทอดทิ้ง มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ หรือ มูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย เป็นต้น