เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จัก ปัญหาทางเท้าที่คนไทยต้องเจอ ทั้งฟุตบาทไม่ทนทาน รถจักรยานยนต์ ร้านค้าบนทางเท้า การออกแบบที่ไม่คิดถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ มาสร้างทางเท้าให้ดี เพื่อชีวิตที่ดีกัน!

ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข
ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักปัญหาว่างงานในมิติทางสังคมและเศรษฐกิจส่งผลกระทบในวงกว้าง ควรมีทางออกเพื่อเสริมพลังและสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยกลับมายืนหยัดและมีชีวิตที่ดีได้อย่างเข้มแข็ง

Key Takeaway นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คือโครงการจากรัฐบาลที่กำหนดให้ประชาชนเดินทางในเส้นทางรถไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการได้ในราคาเดียวเพียง 20 บาทตลอดสาย เป้าหมายของโครงการคือสร้างความเท่าเทียม ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสให้คนเมืองทุกกลุ่มเข้าถึงการเดินทางอย่างสะดวก ลดปัญหารถติดและมลพิษ ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาชุมชนเมือง โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของรัฐบาล กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการผลักดันจากผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่มีวิสัยทัศน์ด้านระบบขนส่งมวลชน เชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้าในราคาคงที่ ช่วยให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ความท้าทายของนโยบายนี้ คือความยั่งยืนทางการเงิน ที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลชดเชยผู้ประกอบการ และปัญหาการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า ทุกวันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าทีก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เพราะค่าโดยสารที่สะสมไปแต่ละวันไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่ลองคิดดูว่า… ถ้าเราเดินทางไกลแค่ไหนก็จ่ายเพียง 20 บาท จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากขนาดไหน? ประชาชนได้ประโยชน์เต็มๆ! บทความนี้พามาเจาะลึกนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน เรื่องนี้จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันของผู้คน ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา หรือแม่ค้าพ่อค้า ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางทุกวันแน่นอน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คืออะไร? โครงการค่าโดยสาร 20 บาท คือความตั้งใจง่ายๆ ที่อยากให้การเดินทางสาธารณะเป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงาน หรือผู้สูงอายุ เรื่องนี้เริ่มต้นจากคำถามว่า “ทำไมคนต้องจ่ายค่าโดยสารแพงหลายระดับ บางทีแค่ไปทำงานหรือไปเรียนใกล้ๆ ก็ต้องจ่ายราคาเต็ม?” แนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวจึงเกิดขึ้น เพื่อช่วยลดภาระและทำให้ทุกคนได้รับสิทธิ์เดินทางในราคาเท่ากัน ในปี 2567 ได้เริ่มทำโครงการนำร่องในสายสีแดงและสายสีม่วงแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากเลย ส่วนเรื่องการหาเงินมาจ่ายนั้น รัฐบาลไม่ได้แค่รับภาระทั้งหมดเอง แต่มีการแบ่งงบและจัดสรรเงินมาใช้ชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ให้บริการยังสามารถดำเนินธุรกิจได้และไม่ขาดทุน กลไกนี้ช่วยให้ความมั่นคงในการเดินรถยังดำเนินไปได้ โดยรัฐจะพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้บริการจริงและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนเป็นธรรมและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจว่าจะทำให้คมนาคมสาธารณะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเดินทางและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวที่คนทุกวัยทุกกลุ่มเข้าถึงได้จริง ทำไมนโยบายนี้ถึงสำคัญกับคนเมือง? ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกวัน การเดินทางในเมืองใหญ่จึงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน การมีนโยบายที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางจึงเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามองและหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาได้จริง ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดค่าใช้จ่ายรายวันได้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนและคนที่ต้องเดินทางประจำ การกำหนดราคาเดียวช่วยให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเดินทางไกล เพิ่มโอกาสในการเดินทางและใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นโยบายยังช่วยกระตุ้นให้เกิดชุมชนและธุรกิจใหม่ในเขตชานเมือง เพิ่มความสะดวกและคุณภาพชีวิตในเมืองอย่างยั่งยืน ลดปัญหารถติดและมลพิษ นโยบายนี้ไม่ได้แค่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เมื่อประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ปริมาณรถติดก็ลดลงตามไปด้วย ช่วยลดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน การใช้รถไฟฟ้ายังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ที่สำคัญคือทำให้เมืองน่าอยู่ สะอาด และเดินทางได้คล่องตัวมากขึ้นสำหรับทุกคน สร้างเมืองที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน นโยบายนี้ไม่ได้แค่ทำให้ค่าโดยสารถูกลงเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างเมืองที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นักเรียน หรือผู้สูงอายุ ช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้า สร้างระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมและเป็นธรรม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการเดินทาง และทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นคนทุกกลุ่ม เป้าหมายของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท นโยบายนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยลดภาระค่าเดินทางของคนในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน พร้อมส่งเสริมให้คนใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น สร้างความสะดวกและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ความเท่าเทียมในการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยสร้างความเท่าเทียมในการเดินทาง เพราะไม่ว่าคนจะขึ้นรถไฟฟ้ากี่สายหรือต้องเดินทางไกลเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหนก็จ่ายค่าโดยสารราคาเดียว ทำให้ทุกคนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือรัฐบาลช่วยชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรักษาคุณภาพบริการและทำให้นโยบายนี้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ นโยบายนี้ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพราะราคาค่าโดยสารที่ถูกลงทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่าย ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยังร่วมมือกับกรุงเทพฯ ในการพัฒนาระบบตั๋วร่วมและฟีดเดอร์ระบบขนส่ง เช่น รถเมล์ที่เชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งานระบบได้ครบวงจรขึ้น แก้ปัญหารถติด นโยบายนี้เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ได้ เมื่อค่าโดยสารถูกลง ผู้คนจะหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น ลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวที่วิ่งบนถนนในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน นอกจากจะช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร ยังช่วยลดเวลาการเดินทางและความเครียดของผู้ใช้ถนนด้วย ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบขนส่งของเมือง ทำให้การเดินทางสะดวกและราบรื่นขึ้นโดยรวมในระยะยาว เชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมือง นโยบายนี้เป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจและชุมชนเมืองเติบโตเป็นระบบ การลดค่าเดินทางช่วยเพิ่มกำลังซื้อและโอกาสทางธุรกิจในชุมชนต่างๆ เนื่องจากผู้คนสามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้สะดวกและบ่อยขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าหลายสายยังช่วยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานและสินค้ารวดเร็ว ทำให้ชุมชนต่างๆ มีโอกาสพัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนและลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เบื้องหลังการผลักดันนโยบาย โครงการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นผลลัพธ์ของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลและกรุงเทพฯ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมทำหน้าที่วางแนวนโยบายและจัดสรรงบประมาณ ในขณะที่กรุงเทพฯ นำโดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผลักดันให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น นโยบายรถไฟฟ้ากับชัชชาติในฐานะผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เป็นหัวใจของชีวิตคนเมือง ร่วมกับการส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและมลพิษ พร้อมผลักดันให้โครงการได้ผลจริงในเชิงปฏิบัติ เช่น การเชื่อมโยงเส้นทางและเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและติดตามผล ทำให้นโยบายนี้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองจริงๆ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท… ความท้าทายและคำถามที่ยังคงอยู่ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้จะได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยลดภาระค่าโดยสารของประชาชน แต่ก็ยังเผชิญความท้าทายด้านความยั่งยืนทางการเงินหลักๆ เพราะรัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ แต่จากการศึกษาพบว่า… ต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าสายหลักอยู่ที่ประมาณ 11 บาทต่อเที่ยว ทำให้นโยบายนี้เป็นไปได้ถ้าบริหารจัดการดีและมีแหล่งเงินทุนสนับสนุนที่มั่นคง เช่น การใช้รายได้ภาษีจากภาคขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการบริหารจัดการรายได้และผลประโยชน์ของภาคเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนและการดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ปัญหานี้ยังเป็นอุปสรรคที่ต้องเจรจาและหาข้อตกลงร่วมที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทางเลือกและข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนานโยบายในอนาคต ได้แก่ การผลักดันกฎหมายตั๋วร่วมเพื่อให้ใช้บริการได้ด้วยบัตรเดียวทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทให้เชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะมีความมั่นคงและเข้าถึงได้ง่ายในระยะยาว สรุป นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนเมือง ทำให้การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องง่ายและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ช่วยเชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมืองอย่างทั่วถึง พร้อมแก้ไขปัญหารถติดและมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตคนเมืองอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกรุงเทพฯ และภาคประชาสังคม ซึ่งบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วมและติดตามนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคง FAQ – คำถามที่พบบ่อย โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทครอบคลุมทุกสายไหม? โครงการนี้ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สายสีน้ำเงิน (MRT) สายสีเหลือง สายสีชมพู และ Airport Rail Link (ARL) รวมรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงที่ทำไปแล้วทั้งหมด 8 สาย รวม 13 เส้นทางและกว่า 194 สถานีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางในราคาคงที่เพียง 20 บาทตลอดสาย แม้ต้องเปลี่ยนสายก็จะไม่เกินราคานี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ส่งผลต่อปัญหารถติดในกรุงเทพฯ อย่างไร? นโยบายนี้ช่วยลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เพราะราคาค่าโดยสารถูกลง คุณภาพชีวิตและการเดินทางจึงดีขึ้น ลดความหนาแน่นของการจราจรในช่วงเร่งด่วนได้ ประชาชนมีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายนี้ได้อย่างไร? ประชาชนสามารถร่วมลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และใช้บัตร EMV Contactless หรือบัตร Rabbit แบบ ABT เพื่อยืนยันตัวตน ร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการของระบบขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้นต่อไป
อนาคตเข้าถึงได้! นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท โครงการเปลี่ยนชีวิตคนเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามาเจาะลึกกับนโยบายรถไฟฟ้า20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน

ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน
ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักจากเสียงประชาชนสู่การแก้ไขจริง! Traffy Fondue คือระบบร้องเรียนของ กทม. นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ไขปัญหา เพิ่มคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวกรุงให้ดีขึ้น

วิธีการทำความดีเพื่อสังคมและชุมชนแบบง่ายๆ มีอะไรบ้าง

การทำความดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชีวิตของผู้อื่นได้ CHEEWID อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชุมชนดีขึ้น จึงนำวิธีการทำความดีมาแบ่งปันกันในบทความนี้
วิธีการทำความดีเพื่อสังคมและชุมชนแบบง่ายๆ มีอะไรบ้าง
Table of Contents

ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายและความไม่แน่นอน การทำความดีเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและชีวิตของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการให้การสนับสนุน ความช่วยเหลือ หรือความสะดวกสบายแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ 

การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสช่วยให้เรามีส่วนทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นและนำความสุขมาสู่ผู้อื่น แต่จริงๆ การทำความดีไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่หรือซับซ้อน แต่สามารถเริ่มต้นได้จากสิ่งเล็กๆ ที่ทำได้ทุกวัน Cheewid จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชุมชนดีขึ้น แต่การทําความดีมีอะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ

การมีสติในการใช้ชีวิตประจำวัน

การมีสติในการใช้ชีวิตประจำวัน

การทําความดีอย่างแรกที่สามารถทำได้ง่ายๆ และสามารถทำได้ทุกวันคือ การมีสติในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะการที่เรามีสติทุกย่างก้าวในการใช้ชีวิตประจำวันนั้น เป็นการที่ลดความผิดพลาดที่อาจนำมาสู่ความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น จึงถือเป็นการทำความดีเริ่มที่ตัวเอง อย่างแท้จริง

มีสติในการขับขี่ยานพาหนะ

การมีสติในการขับขี่ยานพาหนะเป็นการทําความดีในชีวิตประจําวัน ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่สำคัญที่สุดในการป้องกัน และลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยรักษาชีวิต และทรัพย์สินของผู้ขับขี่เท่านั้น แต่ยังช่วยปกป้องผู้อื่นจากความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น แถมยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้ขับขี่คนอื่นๆ ที่จะปฏิบัติตามอีกด้วย

ตัวอย่างเช่น การมีสติช่วยให้ผู้ขับขี่สังเกตเห็นเด็กๆ ที่กำลังเล่นอยู่ใกล้ถนน หรือผู้สูงอายุที่กำลังข้ามถนนอย่างช้าๆ และจำเป็นต้องลดความเร็ว หรือหยุดรถให้ทันเวลา นอกจากนี้การมีสติยังช่วยให้ผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงการขับขี่ในสภาพที่ไม่พร้อม ซึ่งอาจทำให้การตัดสินใจของพวกเขาช้าลงหรือไม่เหมาะสม เช่น ในขณะที่เหนื่อยล้าหรืออารมณ์ไม่ดี 

เดินข้ามถนนอย่างมีสติ

การเดินข้ามถนนอย่างมีสติ เป็นการทำความดีต่อตนเอง และต่อผู้อื่น เพราะจะช่วยให้เราตระหนักถึงสภาพแวดล้อม ทำให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดกับตนเองและผู้อื่น ตัวอย่างเช่น การมองซ้าย-ขวาก่อนข้ามถนน การใช้ทางม้าลาย และการรอสัญญาณไฟจราจรเป็นการแสดงออกถึงการมีสติที่ดี 

ตั้งสติเมื่อเกิดเหตุร้ายหรืออุบัติเหตุ

เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือพบผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งเหตุได้ทันทีผ่าน “สายด่วน1669” และ “ป่อเต็กตึ๊ง 1418” หรือใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน “ป่อเต็กตึ๊ง 1418” ซึ่งเป็นแอปฯ ที่ช่วยให้สามารถติดตามการช่วยเหลือฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ด้วยการแจ้งเหตุผ่านแอปฯ ที่ง่ายดายเพียงไม่กี่คลิก ซึ่งจะได้รับความอุ่นใจในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่วิกฤติหรือไม่ก็ตาม

โดยแอปนี้ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานได้โดยไม่ยุ่งยาก สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี นอกจากนี้การมีแอปนี้ในมือถือยังเป็นการกระจายข่าวสารเกี่ยวกับช่องทางการช่วยเหลือนี้ไปยังผู้อื่น ช่วยให้ทุกคนมีความพร้อม และสามารถช่วยเหลือกันและกันได้ในยามจำเป็นอีกด้วย

การรักษาความสะอาดในที่สาธารณะ

การรักษาความสะอาดในที่สาธารณะ

การรักษาความสะอาดในที่สาธารณะเป็นอีกหนึ่งการทําความดีในชีวิตประจําวันเพื่อสังคมที่คนในชุมชนสามารถทำร่วมกันได้ และยังเป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความรับผิดชอบ และเคารพต่อสิทธิของผู้อื่น เพราะตั้งแต่วัยเด็ก เราถูกสอนให้ทิ้งขยะลงในถังขยะ ซึ่งนอกจากจะเพื่อรักษาความสะอาดและความเรียบร้อย การรักษาความสะอาดในที่สาธารณะยังเป็นการความเคารพต่อสิ่งแวดล้อม ต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้คนในชุมชนอีกด้วย 

ไม่ทิ้งขยะในที่สาธารณะ ตามท้องถนน หรือแม่น้ำลำคลอง

การไม่ทิ้งขยะในที่สาธารณะ ตามท้องถนน หรือแม่น้ำลำคลอง เป็นหน้าที่ของทุกคน และเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของเราให้คงอยู่อย่างยั่งยืน

เพราะการทิ้งขยะไม่เพียงแต่ทำให้ท้องถนน หรือแม่น้ำลำคลองดูไม่สะอาดเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อสังคมและคนในชุมชนอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปนเปื้อนของน้ำ การอุดตันท่อระบายน้ำ รวมไปจนถึงการลดคุณภาพชีวิต ดังนั้นเราจึงควรทิ้งขยะให้ถูกที่เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ และการมีส่วนร่วมในการสร้างชุมชนที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนนั่นเอง

มีจิตอาสาเก็บขยะ ทำความสะอาดพื้นที่ส่วนรวม

การทําความดีในชีวิตประจําวันอีกอย่างคือ การเป็นจิตอาสาเก็บขยะ และทำความสะอาดพื้นที่ส่วนรวม เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อชุมชน และสิ่งแวดล้อม การทำความดีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้พื้นที่สาธารณะสะอาด และน่าอยู่มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิต และสุขภาพกายของผู้คนในชุมชนด้วย ยกตัวอย่างเช่น กิจกรรมทำความสะอาดชายหาด โครงการปลูกป่าชายเลน รวมไปจนถึงกิจกรรมวันทำความสะอาดโลก เป็นต้น

ไม่เผาป่าข้างทาง

การเผาป่าข้างทางเป็นพฤติกรรมที่มีผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชนใกล้เคียง ที่ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อคุณภาพอากาศ หรือสุขภาพของผู้คนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการสัญจร และความปลอดภัยในการเดินทางด้วย ซึ่งการเผาป่าข้างทางนั้นส่งผลกระทบเสียในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยในการสัญจร และส่งผลต่อความสมดุลของระบบนิเวศ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ เพียงแค่รวมกันไม่เผาป่าข้างทางเท่านั้น

ทำความดีโดยการเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสังคม

เป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสังคม

การเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสังคมก็ถือเป็นการทำความดีที่ทำได้ง่ายๆ เช่นกัน โดยการเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสังคมเป็นการกระทำที่สะท้อนถึงคุณค่าของความเป็นมนุษย์ และความเชื่อมโยงในชุมชน เพราะทุกการกระทำมีความหมาย และสร้างผลกระทบที่ดีต่อสังคมของเรา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัย การสอนความรู้ หรือการทำความสะอาดสภาพแวดล้อม

 

อาสาสมัครเกี่ยวกับสัตว์

การเป็นอาสาสมัครเกี่ยวกับการใช้ความช่วยเหลือสัตว์ เป็นหนึ่งในการแสดงออกของความรัก และความห่วงใยที่มีต่อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ในบ้านหรือสัตว์ป่า ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการดูแล ช่วยเหลือ และปกป้องสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ รวมถึงการส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์และสิ่งแวดล้อม เช่นอาสาสมัครช่วยดูแลสัตว์ที่ศูนย์พักพิง หรือการเข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่า

โดยมีวัตถุประสงค์ทั้งเพื่อช่วยเหลือสัตว์ที่ไร้บ้านหรือถูกทอดทิ้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังช่วยเหลือสังคมได้ทั้งการสร้างความตระหนัก การลดปัญหาสัตว์จรจัด รวมไปจนถึงช่วยส่งเสริมให้สังคมมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

อาสาสมัครทางการแพทย์และการปฐมพยาบาล

การทำความดีด้วยการเป็นอาสาสมัครทางการแพทย์และการปฐมพยาบาลเป็นหนึ่งในบทบาทสำคัญที่มีผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยของชุมชน เพราะอาสาสมัครในด้านนี้มีหน้าที่ให้บริการดูแลสุขภาพ การปฐมพยาบาล และการสนับสนุนทางการแพทย์ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือระหว่างวิกฤติ เพื่อช่วยลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์และระบบสุขภาพ

ตัวอย่างเช่นในช่วงโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งอาสาสมัครทางการแพทย์ และการปฐมพยาบาลมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือสังคม โดยช่วยในการตรวจสอบอาการ การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกัน หรือการรักษา และการสนับสนุนทีมการแพทย์ที่มีภาระงานหนัก 

อาสาสมัครเพื่อสังคม

การเป็นอาสาสมัครเพื่อสังคมไม่เพียงแต่เป็นการทำความดีที่ช่วยเหลือผู้อื่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความเข้าใจ และความสามัคคีในหมู่คนในสังคม ทำให้สังคมเป็นสังคมที่เอื้ออาทรต่อกันและกัน โดยอาสาสมัครเหล่านี้ทำงานในหลากหลายด้าน เช่น การศึกษา สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้การช่วยเหลือผู้ที่ต้องการ เพื่อการพัฒนา และสนับสนุนชุมชนในหลายๆ ด้าน เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับผู้ที่ขาดโอกาส เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต อีกทั้งยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมความเท่าเทียม ยกตัวอย่างเช่น โครงการสอนภาษา เป็นต้น

อาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัย

อาสาสมัครในด้านนี้มีหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนให้กับผู้ที่ต้องการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติธรรมชาติ หรือสถานการณ์ฉุกเฉินอื่นๆ

ยกตัวอย่างเช่น การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากภัยพิบัติธรรมชาติ ซึ่งอาสาสมัครจะเข้าไปช่วยให้ผู้ประสบภัยได้รับอาหาร และเครื่องมือที่จำเป็น รวมไปจนถึงผู้ประสบอัคคีภัยที่อาสาสมัครจะเข้าไปช่วยให้ผู้ประสบอัคคีได้รับการรักษา และสนับสนุนทางจิตใจ เป็นต้น

ทำความดีโดยการบริจาคเงินและสิ่งของ

บริจาคเงินและสิ่งของ

ไม่ว่าจะเป็นการทำความดีด้วยวิธีการเป็นอาสาสมัครเข้าไปเข้าพื้นที่ที่ผู้คนเดือดร้อน การบริจาคสิ่งของ ส่งต่อของที่ไม่ใช้แล้วให้ผู้อื่น หรือการบริจาคเงินให้องค์กร ตามความสะดวกของผู้ช่วยเหลือได้เช่นกัน

 

หากผู้ใดที่สนใจ สามารถทำความดีเพื่อสังคมได้ง่ายๆ โดย Cheewid ที่เป็นสะพานสนับสนุนผู้สร้างผลกระทบเชิงบวกเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมไทย 

ผู้ด้อยโอกาสด้านการศึกษา

อีกหนึ่งการทำความดีที่สามารถทำได้ง่ายๆ คือ การบริจาคให้ผู้ด้อยโอกาสด้านการศึกษา เพราะการศึกษาเป็นสิ่งที่ทุกคนควรได้รับ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เป็นการสร้างโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสที่อยู่นอกระบบการศึกษา ซึ่งสามารถบริจาคได้ทั้งเงิน และสิ่งของ เช่น สมุด หนังสือ ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียนต่างๆ เป็นต้น

ผู้พิการหรือผู้ป่วยติดเตียง

อีกการทำความดีที่สามารถทำได้คือ การบริจาคของ และการเข้าช่วยเหลือผู้พิการหรือผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งมีความต้องการที่หลากหลาย โดยอาจมาจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น อายุชรา พิการทางร่างกาย หรือโรคที่ทำให้ต้องนอนติดเตียง ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นการลดภาระของครอบครัวในการดูแล และส่งเสริมความเข้าถึงในการรักษาที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย สามารถบริจาคเครื่องมือทางการแพทย์ได้เช่น เก้าอี้วีลแชร์ เตียงคนไข้ ไม้เท้าค้ำยัน เป็นต้น

กลุ่มคนไร้บ้าน

กลุ่มคนไร้บ้าน หรือคนเร่ร่อนเป็นกลุ่มที่มีความยากจนในสังคม ไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน และมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย โดยส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้ต้องการความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เช่น ที่อยู่ อาหาร การรักษาพยาบาล และความปลอดภัย ซึ่งสามารถช่วยเหลือได้โดยการทำโรงทาน แจกอาหารสำหรับคนไร้บ้าน หรือบริจาคสิ่งของให้องค์กรที่ดูแลรับผิดชอบ โดยสามารถบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง เสื้อผ้า รองเท้า เป็นต้น

บ้านพักผู้สูงอายุ

บ้านพักผู้สูงอายุเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญในการดูแล และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนกลุ่มผู้สูงอายุ โดยคนกลุ่มนี้มีความต้องการในหลายๆ ด้าน ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน ความปลอดภัย จึงต้องการสิ่งของที่การดูแลในเรื่องของสุขภาพทั้งทางกายและทางใจ อย่างเช่น ผ้าอ้อม แพมเพิสสำหรับผู้สูงวัย ไม้เท้า เป็นต้น

ผู้ป่วยติดสารเสพติดที่กำลังบำบัดรักษา

การทำความดีอีกอย่างคือ การเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยติดสารเสพติดที่กำลังบำบัดรักษา ซึ่งมีความต้องการในหลายๆ ด้าน ทั้งการกลับคืนสู่สภาพที่ดีที่สุด การช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ และความมีคุณค่าในตนเองเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการฟื้นฟู รวมไปจนถึงการช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในชุมชน

ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อผู้ป่วยติดสารเสพติดที่กำลังบำบัดรักษานั้นได้รับการช่วยเหลือที่ดีและถูกต้อง สังคมและชุมชนก็จะได้รับประโยชน์ในเรื่องของการลดการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ที่อาจมีศักยภาพช่วยพัฒนาประเทศได้ ในบางครั้งอาจจะใช้ศิลปะบำบัด จึงต้องการรับบริจาคกำลังทรัพย์ หรืออุปกรณ์วาดภาพ ระบายสี

สรุป

การทำความดีนั้นมีหลายอย่างที่เราสามารถทำให้กับชุมชน และคนในชุมชนเพื่อยกมาตรฐานการเป็นอยู่ให้ดีขึ้นเช่น การทำความดีที่สามารถทำได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวันอย่างการมีสติอยู่เสมอ การทิ้งขยะให้ถูกที่ รวมไปจนถึงการเข้าร่วมกิจกรรมอาสาสมัคร ก็เป็นวิธีที่ดีในการส่งเสริมความดีในชุมชน การช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัย หรือการดูแลสัตว์เลี้ยง

ทั้งนี้ การบริจาคเงิน และการมอบสิ่งของยังเป็นสิ่งที่สามารถทำได้เช่นกัน ทั้งสำหรับผู้ที่ด้อยโอกาสในเรื่องการศึกษาให้มีอนาคตที่ดี หรือการบริจาคสิ่งของที่ผู้พิการหรือคนไร้บ้านต้องการก็สามารถทำได้ง่ายๆ เช่นกัน นอกจากนี้ในปัจจุบันนี้การบริจาคออนไลน์ลดหย่อนภาษี ก็เป็นวิธีที่สะดวกและมีประสิทธิภาพในการส่งเสริมความดี ทั้งยังสามารถลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่าอีกด้วย

องค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

banner - teach for thailand
logo - teach for thailand

Teach for Thailand

เราผลักดันการขจัดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาออกจากประเทศไทยผ่านการสร้าง “เครือข่ายผู้นำ” ที่เข้าไปสร้างความเปลี่ยนแปลงในห้องเรียน โรงเรียน และในภาคส่วนต่างๆ ของสังคม

banner - thai volunteer service
logo - Thai Volunteer Service-

มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (Thai Volunteer Service)

พื้นที่สร้างการเรียนรู้ผ่านการทำงานอาสาสมัครให้กับคนรุ่นใหม่ที่อยากจะขับเคลื่อนสังคม เราสนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพ เพื่อยกระดับ ทักษะ ความคิด ความเข้าใจ และร่วมกันสร้างสรรค์สังคมที่เท่าเทียม

banner - มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร
logo - มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร

มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร

เราสนับสนุนการรักษาพยาบาลให้แมวจรที่ได้รับบาดเจ็บหรือได้รับอุบัติเหตุ และส่งเสริม สนับสนุนให้มีผู้รับอุปการะแมวจรจัด รวมไปถึงช่วยส่งเสริม สนับสนุน ภาครัฐและเอกชนให้มีการปกป้องการขยายพันธุ์ของแมวจรจัด
banner - ครูนอกบ้าน
logo - ครูนอกบ้าน

ครูนอกบ้าน

เราเป็นเป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิกระจกเงา จัดตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางสังคมทางด้านการศึกษา โดยกิจกรรมนี้มุ่งเน้นไปในการที่จะช่วยกันระดมกลุ่มคนซึ่งอยู่ในมุมต่างๆ ของสังคมที่มีโอกาสดีกว่า มาเป็น “ครูอาสา” เพื่อให้ได้เข้ามาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการมีส่วนร่วมที่จะช่วยกันพัฒนาชุมชนชนบทในพื้นที่