เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จัก ปัญหาทางเท้าที่คนไทยต้องเจอ ทั้งฟุตบาทไม่ทนทาน รถจักรยานยนต์ ร้านค้าบนทางเท้า การออกแบบที่ไม่คิดถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ มาสร้างทางเท้าให้ดี เพื่อชีวิตที่ดีกัน!

ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข
ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักปัญหาว่างงานในมิติทางสังคมและเศรษฐกิจส่งผลกระทบในวงกว้าง ควรมีทางออกเพื่อเสริมพลังและสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยกลับมายืนหยัดและมีชีวิตที่ดีได้อย่างเข้มแข็ง

Key Takeaway นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คือโครงการจากรัฐบาลที่กำหนดให้ประชาชนเดินทางในเส้นทางรถไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการได้ในราคาเดียวเพียง 20 บาทตลอดสาย เป้าหมายของโครงการคือสร้างความเท่าเทียม ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสให้คนเมืองทุกกลุ่มเข้าถึงการเดินทางอย่างสะดวก ลดปัญหารถติดและมลพิษ ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาชุมชนเมือง โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของรัฐบาล กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการผลักดันจากผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่มีวิสัยทัศน์ด้านระบบขนส่งมวลชน เชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้าในราคาคงที่ ช่วยให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ความท้าทายของนโยบายนี้ คือความยั่งยืนทางการเงิน ที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลชดเชยผู้ประกอบการ และปัญหาการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า ทุกวันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าทีก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เพราะค่าโดยสารที่สะสมไปแต่ละวันไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่ลองคิดดูว่า… ถ้าเราเดินทางไกลแค่ไหนก็จ่ายเพียง 20 บาท จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากขนาดไหน? ประชาชนได้ประโยชน์เต็มๆ! บทความนี้พามาเจาะลึกนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน เรื่องนี้จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันของผู้คน ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา หรือแม่ค้าพ่อค้า ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางทุกวันแน่นอน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คืออะไร? โครงการค่าโดยสาร 20 บาท คือความตั้งใจง่ายๆ ที่อยากให้การเดินทางสาธารณะเป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงาน หรือผู้สูงอายุ เรื่องนี้เริ่มต้นจากคำถามว่า “ทำไมคนต้องจ่ายค่าโดยสารแพงหลายระดับ บางทีแค่ไปทำงานหรือไปเรียนใกล้ๆ ก็ต้องจ่ายราคาเต็ม?” แนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวจึงเกิดขึ้น เพื่อช่วยลดภาระและทำให้ทุกคนได้รับสิทธิ์เดินทางในราคาเท่ากัน ในปี 2567 ได้เริ่มทำโครงการนำร่องในสายสีแดงและสายสีม่วงแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากเลย ส่วนเรื่องการหาเงินมาจ่ายนั้น รัฐบาลไม่ได้แค่รับภาระทั้งหมดเอง แต่มีการแบ่งงบและจัดสรรเงินมาใช้ชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ให้บริการยังสามารถดำเนินธุรกิจได้และไม่ขาดทุน กลไกนี้ช่วยให้ความมั่นคงในการเดินรถยังดำเนินไปได้ โดยรัฐจะพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้บริการจริงและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนเป็นธรรมและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจว่าจะทำให้คมนาคมสาธารณะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเดินทางและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวที่คนทุกวัยทุกกลุ่มเข้าถึงได้จริง ทำไมนโยบายนี้ถึงสำคัญกับคนเมือง? ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกวัน การเดินทางในเมืองใหญ่จึงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน การมีนโยบายที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางจึงเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามองและหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาได้จริง ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดค่าใช้จ่ายรายวันได้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนและคนที่ต้องเดินทางประจำ การกำหนดราคาเดียวช่วยให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเดินทางไกล เพิ่มโอกาสในการเดินทางและใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นโยบายยังช่วยกระตุ้นให้เกิดชุมชนและธุรกิจใหม่ในเขตชานเมือง เพิ่มความสะดวกและคุณภาพชีวิตในเมืองอย่างยั่งยืน ลดปัญหารถติดและมลพิษ นโยบายนี้ไม่ได้แค่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เมื่อประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ปริมาณรถติดก็ลดลงตามไปด้วย ช่วยลดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน การใช้รถไฟฟ้ายังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ที่สำคัญคือทำให้เมืองน่าอยู่ สะอาด และเดินทางได้คล่องตัวมากขึ้นสำหรับทุกคน สร้างเมืองที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน นโยบายนี้ไม่ได้แค่ทำให้ค่าโดยสารถูกลงเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างเมืองที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นักเรียน หรือผู้สูงอายุ ช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้า สร้างระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมและเป็นธรรม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการเดินทาง และทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นคนทุกกลุ่ม เป้าหมายของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท นโยบายนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยลดภาระค่าเดินทางของคนในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน พร้อมส่งเสริมให้คนใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น สร้างความสะดวกและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ความเท่าเทียมในการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยสร้างความเท่าเทียมในการเดินทาง เพราะไม่ว่าคนจะขึ้นรถไฟฟ้ากี่สายหรือต้องเดินทางไกลเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหนก็จ่ายค่าโดยสารราคาเดียว ทำให้ทุกคนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือรัฐบาลช่วยชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรักษาคุณภาพบริการและทำให้นโยบายนี้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ นโยบายนี้ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพราะราคาค่าโดยสารที่ถูกลงทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่าย ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยังร่วมมือกับกรุงเทพฯ ในการพัฒนาระบบตั๋วร่วมและฟีดเดอร์ระบบขนส่ง เช่น รถเมล์ที่เชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งานระบบได้ครบวงจรขึ้น แก้ปัญหารถติด นโยบายนี้เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ได้ เมื่อค่าโดยสารถูกลง ผู้คนจะหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น ลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวที่วิ่งบนถนนในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน นอกจากจะช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร ยังช่วยลดเวลาการเดินทางและความเครียดของผู้ใช้ถนนด้วย ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบขนส่งของเมือง ทำให้การเดินทางสะดวกและราบรื่นขึ้นโดยรวมในระยะยาว เชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมือง นโยบายนี้เป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจและชุมชนเมืองเติบโตเป็นระบบ การลดค่าเดินทางช่วยเพิ่มกำลังซื้อและโอกาสทางธุรกิจในชุมชนต่างๆ เนื่องจากผู้คนสามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้สะดวกและบ่อยขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าหลายสายยังช่วยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานและสินค้ารวดเร็ว ทำให้ชุมชนต่างๆ มีโอกาสพัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนและลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เบื้องหลังการผลักดันนโยบาย โครงการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นผลลัพธ์ของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลและกรุงเทพฯ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมทำหน้าที่วางแนวนโยบายและจัดสรรงบประมาณ ในขณะที่กรุงเทพฯ นำโดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผลักดันให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น นโยบายรถไฟฟ้ากับชัชชาติในฐานะผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เป็นหัวใจของชีวิตคนเมือง ร่วมกับการส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและมลพิษ พร้อมผลักดันให้โครงการได้ผลจริงในเชิงปฏิบัติ เช่น การเชื่อมโยงเส้นทางและเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและติดตามผล ทำให้นโยบายนี้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองจริงๆ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท… ความท้าทายและคำถามที่ยังคงอยู่ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้จะได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยลดภาระค่าโดยสารของประชาชน แต่ก็ยังเผชิญความท้าทายด้านความยั่งยืนทางการเงินหลักๆ เพราะรัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ แต่จากการศึกษาพบว่า… ต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าสายหลักอยู่ที่ประมาณ 11 บาทต่อเที่ยว ทำให้นโยบายนี้เป็นไปได้ถ้าบริหารจัดการดีและมีแหล่งเงินทุนสนับสนุนที่มั่นคง เช่น การใช้รายได้ภาษีจากภาคขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการบริหารจัดการรายได้และผลประโยชน์ของภาคเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนและการดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ปัญหานี้ยังเป็นอุปสรรคที่ต้องเจรจาและหาข้อตกลงร่วมที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทางเลือกและข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนานโยบายในอนาคต ได้แก่ การผลักดันกฎหมายตั๋วร่วมเพื่อให้ใช้บริการได้ด้วยบัตรเดียวทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทให้เชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะมีความมั่นคงและเข้าถึงได้ง่ายในระยะยาว สรุป นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนเมือง ทำให้การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องง่ายและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ช่วยเชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมืองอย่างทั่วถึง พร้อมแก้ไขปัญหารถติดและมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตคนเมืองอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกรุงเทพฯ และภาคประชาสังคม ซึ่งบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วมและติดตามนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคง FAQ – คำถามที่พบบ่อย โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทครอบคลุมทุกสายไหม? โครงการนี้ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สายสีน้ำเงิน (MRT) สายสีเหลือง สายสีชมพู และ Airport Rail Link (ARL) รวมรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงที่ทำไปแล้วทั้งหมด 8 สาย รวม 13 เส้นทางและกว่า 194 สถานีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางในราคาคงที่เพียง 20 บาทตลอดสาย แม้ต้องเปลี่ยนสายก็จะไม่เกินราคานี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ส่งผลต่อปัญหารถติดในกรุงเทพฯ อย่างไร? นโยบายนี้ช่วยลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เพราะราคาค่าโดยสารถูกลง คุณภาพชีวิตและการเดินทางจึงดีขึ้น ลดความหนาแน่นของการจราจรในช่วงเร่งด่วนได้ ประชาชนมีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายนี้ได้อย่างไร? ประชาชนสามารถร่วมลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และใช้บัตร EMV Contactless หรือบัตร Rabbit แบบ ABT เพื่อยืนยันตัวตน ร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการของระบบขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้นต่อไป
อนาคตเข้าถึงได้! นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท โครงการเปลี่ยนชีวิตคนเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามาเจาะลึกกับนโยบายรถไฟฟ้า20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน

ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน
ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักจากเสียงประชาชนสู่การแก้ไขจริง! Traffy Fondue คือระบบร้องเรียนของ กทม. นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ไขปัญหา เพิ่มคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวกรุงให้ดีขึ้น

การใช้ประโยชน์ที่ดินตามสีผังเมือง แต่ละสีทำอะไรได้บ้าง

CHEEWID พาทุกคนมารู้จักกับการแบ่งสีผังเมืองและกำหนดการใช้ประโยชน์ตามแต่ละที่ดิน เพื่อให้บ้านเมืองมีความเป็นระเบียบ รองรับการพัฒนาของเมือง คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน
การใช้ประโยชน์ที่ดินตามสีผังเมือง แต่ละสีทำอะไรได้บ้าง
Table of Contents

ที่ดินแต่ละพื้นที่ในประเทศไทย จะมีการกำหนดสีผังเพื่อแบ่งพื้นที่ไว้สำหรับการใช้ประโยชน์ที่ดินตามกฎหมายผังเมือง ซึ่งการแบ่งผังเมืองตามสีมีจุดประสงค์เพื่อให้ง่ายต่อการนำไปตรวจสอบการใช้งานที่ดินตรงนั้น ว่าควรนำไปใช้งานในด้านใดให้ถูกต้อง

ผังเมืองคืออะไร กฎหมายผังเมืองคืออะไร

ผังเมืองคืออะไร

ผังเมือง คือ ลักษณะโครงสร้างหรือแผนผังที่ถูกจัดทำขึ้นโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อควบคุมการใช้ประโยชน์ของที่ดิน โดยแบ่งเป็นสีผังเมืองต่างๆ ว่าแต่ละพื้นที่ทำอะไรได้บ้าง และควรมีอะไรในที่ดินบ้าง เช่น ระบบคมนาคม ระบบขนส่ง สาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ตามความเหมาะสม เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น

กฎหมายผังเมืองคืออะไร

กฎหมายผังเมืองในประเทศไทย เป็นกฎหมายที่มีขึ้นเพื่อควบคุมการใช้ประโยชน์ของที่ดินต่างๆ ในประเทศ เนื่องจากแต่ละที่พื้นที่มีความเหมาะสมในการนำไปใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกัน จึงต้องมีกฎหมายผังเมือง เพื่อควบคุมให้เป็นระเบียบ

ลักษณะของกฎหมายผังเมือง คือกำหนดประเภทของการก่อสร้างตามสีผังเมืองว่า สร้างอะไรได้บ้าง ห้ามสร้างอะไรบ้าง กำหนดขนาดพื้นที่หรือกำหนดความสูงในการก่อสร้างเพื่อควบคุมให้เป็นระเบียบและสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง ซึ่งหากไม่มีการกำหนดสีผังเมืองก็จะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ เช่น พื้นที่อยู่อาศัยกลายเป็นชุมชนแออัด พื้นที่การเกษตรไม่เพียงพอ หรือสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานไม่เหมาะสมกับความต้องการที่มีอยู่

การกำหนดสีผังเมือง

การกำหนดสีผังเมือง

เขตพื้นที่ในประเทศไทยแต่ละเขตจะถูกแบ่งออกเป็นสีต่างๆ ที่เรียกว่า สีผังเมือง เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมดูแลสำหรับการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตพื้นที่นั้นๆ ซึ่งสีผังเมืองในกรุงเทพมหานคร ถูกแบ่งผังสีออกเป็น 10 สี โดยแต่ละสีจะบอกถึงศักยภาพของพื้นที่ว่าสามารถใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างหรือมีข้อห้ามอะไรบ้าง และช่วยกำหนดประเภทของสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงจัดสรรสิ่งปลูกสร้างได้ตรงความเหมาะสม

หากต้องการรู้ว่าเขตพื้นที่ไหนมีสีผังเมืองอะไร และเหมาะกับสิ่งปลูกสร้างแบบได้บ้าง ก็มีวิธีตรวจสอบหรือค้นหาว่าที่ดินแต่ละที่มีสีผังเมืองอะไรด้วยตนเองง่ายๆ ได้ที่ Landuse Plan – ระบบตรวจสอบผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน

ผังเมืองสีเหลือง

ผังเมืองสีเหลือง (รหัส ย.1-ย.4) หรือเขตพื้นที่สีเหลือง เป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยที่มีความหนาแน่นน้อยคือเขตที่มีคนอยู่อาศัยเป็นจำนวนน้อย และเป็นที่ดินอยู่แถบชานเมือง โดยพื้นที่สีเหลืองนี้จะใช้ประโยชน์ในการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาสภาพแวดล้อมของการอยู่อาศัย รองรับการขยายตัวของที่อยู่อาศัยในเขตชานเมืองให้มีสภาพแวดล้อมที่ดีและการให้บริการขนส่งมวลชน เช่น สถานศึกษา สถานสงเคราะห์รับเลี้ยงเด็ก / คนชรา / ผู้พิการ / สัตว์ โรงพยาบาล รวมถึงการสร้างที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ สำนักงาน ตลาด และโรงแรม

ผังเมืองสีส้ม

ผังเมืองสีส้ม หรือ เขตพื้นที่สีส้ม (รหัส ย.5-ย.7) เป็นประเภทที่อยู่อาศัยที่มีความหนาแน่นปานกลาง ที่ดินอยู่บริเวณพื้นที่ต่อเนื่องกับเขตเมืองชั้นใน สามารถสร้างที่อยู่อาศัยได้เหมือนกับพื้นที่สีเหลือง แต่ไม่สามารถสร้างสถานสงเคราะห์สำหรับเลี้ยงสัตว์ได้ เพราะเสียงของสัตว์จะรบกวนเขตชุมชน ซึ่งผังสีส้มจะมีการใช้ประโยชน์ที่ดิน ที่เน้นการรองรับการอยู่อาศัยและการขยายตัวของที่อยู่อาศัยที่ติดกับเขตเมืองชั้นใน ศูนย์ชุมชนชานเมือง เขตอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรม และการให้บริการขนส่งมวลชน

ผังเมืองสีน้ำตาล

ผังเมืองสีน้ำตาล (รหัส ย.8-ย.10) เป็นเขตพื้นที่สีน้ำตาล ประเภทที่อยู่อาศัยที่มีความหนาแน่นสูงคือเขตที่มีคนอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก อยู่ในเขตเมืองชั้นในใจกลางเมืองกรุงเทพ หรือย่านธุรกิจ และเป็นที่ดินที่มีมูลค่าสูง พื้นที่สีน้ำตาลจะเน้นรองรับการอยู่อาศัยในเขตการให้บริการของขนส่งมวลชน รวมถึงเขตรอยต่อเมืองชั้นในกับย่านธุรกิจด้วย ทำให้ผังสีน้ำตาลอนุญาตให้มีการใช้การใช้ประโยชน์ที่ดิน ได้ไม่เกิน 10% ของพื้นที่ เช่น โรงงาน หรือ สถานประกอบการต่างๆ เนื่องจาก เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับอยู่อาศัยมากกว่า ทั้งบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโด

ผังเมืองสีแดง

ผังเมืองสีแดง (รหัส พ.1-พ.5) เป็นเขตพื้นที่สีแดง ที่เน้นธุรกิจพาณิชยกรรม ตั้งแต่ระดับชุมชน จนถึงระดับภูมิภาค โดยผังเมืองสีแดงจะมีการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ การค้า การบริการ และการท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน รวมถึงการสร้างที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบ และสถานที่ราชการ แต่จะมีข้อจำกัดการสร้างที่อยู่อาศัยน้อยกว่าสีอื่น และผังเมืองสีแดงจะมีการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอื่น ไม่เกินร้อยละ 25% ของพื้นที่ทั้งหมด เช่น โรงงานอุตสาหกรรม คลังน้ำมันเชื้อเพลิง ปศุสัตว์ สุสาน สถานีขนส่ง และสถานที่กำจัดขยะและสิ่งปฏิกูล เพราะอาจจะเกิดความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อการอยู่อาศัยและปัญหาสุขภาพของผู้คนในชุมชน

ผังเมืองสีม่วง

ผังเมืองสีม่วง หรือ เขตพื้นที่สีม่วง (รหัส อ.1 – อ.2) คือ พื้นที่สำหรับการประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป็นหลัก โดยที่ อ.1 เน้นประเภทอุตสาหกรรมการผลิต ที่มีการปล่อยมลพิษน้อย และอ.2 เน้นประเภทนิคมอุตสาหกรรม เพื่อการผลิตและส่งออก จึงเหมาะสำหรับภาคธุรกิจ เพราะผังเมืองสีม่วงสามารถสร้างโรงงาน สร้างโกดังได้ตลอดทุกพื้นที่โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งสามารถสร้างที่อยู่อาศัย เช่น บ้าน หอพัก คอนโดขนาดเล็ก และร้านค้า นอกจากนี้พื้นที่มีสีม่วงยังมีการสนับสนุนประเภทย่อยด้วย เช่น โรงแรม สุสาน โรงพยาบาล และสถาบันการศึกษา แต่พื้นที่สีม่วงมีข้อจำกัดการสร้าง คือการใช้ที่ดินเพื่อประกอบกิจการอื่น ต้องไม่เกิน 10% ของพื้นที่ และไม่สามารถสร้างอาคารสูงกับคอนโดขนาดใหญ่ได้ เว้นแต่อาคารจะเป็นส่วนหนึ่งของโรงงาน

ผังเมืองสีม่วงอ่อน

ผังเมืองสีม่วงอ่อน หรือ เขตพื้นที่สีม่วงอ่อน (รหัส อ.3) คือ พื้นที่สำหรับคลังสินค้าโดยเฉพาะ ที่ง่ายต่อระบบขนส่งทุกรูปแบบ ในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งผังเมืองสีม่วงอ่อนจะมีการใช้ประโยชน์ที่ดิน เกี่ยวกับการบรรจุสินค้า การประกอบชิ้นส่วนต่างๆ โดยไม่มีการผลิต ทำให้ไม่มีผลพิษที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและไม่มีเสียงรบกวนต่อชุมชน ที่สำคัญพื้นที่สีม่วงอ่อนคล้ายกับพื้นที่สีม่วงด้วย คือ สามารถสร้างที่อยู่อาศัยได้ เช่น บ้าน หอพัก คอนโดขนาดเล็ก และร้านค้า แต่ไม่สามารถสร้างอาคารสูงกับคอนโดขนาดใหญ่ได้

ผังเมืองสีขาว-ลายเส้นทแยงเขียว

ผังเมืองสีขาว-ลายเส้นทแยงเขียว (รหัส ก.1 – ก.3) คือ พื้นที่สีเขียวสำหรับการอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม ซึ่งสีผังเมืองสีขาว-ลายเส้นทแยงเขียว เป็นผังสีที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย จึงส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อเกษตรกรรมหรือเกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเค็มและน้ำกร่อย สถานที่ราชการ โรงพยาบาล อีกทั้งการใช้ประโยชน์ที่ดินสำหรับกิจการอื่น สามารถใช้ได้ไม่เกินร้อยละ 5 และร้อยละ 10 ของพื้นที่ดิน

ผังเมืองสีเขียว

ผังเมืองสีเขียว หรือ พื้นที่สีเขียว (รหัส ก.4 – ก.5) คือ พื้นที่ในชนบทและเกษตรกรรม ที่คล้ายกับผังเมืองสีขาว-ลายเส้นทแยงเขียว ซึ่งพื้นที่สีเขียวสามารถสร้างอะไรได้บ้างนั้น พื้นที่สีเขียวประเภทนี้ เหมาะกับเป็นที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือเกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม และยังสามารถแบ่งที่ดินให้เป็นแปลงเล็กที่สุดขนาด 100 ตารางวา เพื่อสร้างที่อยู่อาศัย หรือสาธารณูปโภคได้อีกด้วย รวมถึง การใช้ประโยชน์ที่ดิน จะใช้ได้ไม่เกินร้อยละ 5 และร้อยละ 10 ของพื้นที่ดินเช่นเดียวกัน และพื้นที่สีเขียวนี้สามารถสร้างโรงงานได้ไหม ตอบได้เลยว่า พื้นที่สีเขียวประเภทนี้ไม่เหมาะกับการสร้างโรงงานเชื้อเพลิง โรงงานน้ำมัน และโรงงานอื่นๆ เช่นกัน

ผังเมืองสีน้ำตาลอ่อน

ผังเมืองสีน้ำตาลอ่อน หรือ พื้นที่สีน้ำตาลอ่อน (รหัส ศ.1-ศ.2) เป็นเขตพื้นที่กรุงเทพชั้นใน บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ เป็นผังสีที่มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริมเอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรมของไทย ด้านพาณิชยกรรม การท่องเที่ยวในเขตอนุรักษ์ สถานที่ราชการ และสาธารณูปโภคที่สำคัญ ทำให้พื้นที่สีน้ำตาลอ่อน ไม่สามารถสร้างหอพักได้ สามารถสร้างโรงแรมได้เท่านั้น โดยที่อาคารต้องไม่สูงหรือใหญ่เกินไป 

ผังเมืองสีน้ำเงิน

ผังเมืองสีน้ำเงิน (รหัส ส.) คือ เขตพื้นที่สีน้ำเงินที่เป็นที่ดินของรัฐ โดยเป็นสีผังเมืองที่กระจายอยู่ทุกพื้นที่ ซึ่งผังสีนี้จะมีการใช้ประโยชน์ที่ดินเกี่ยวกับสาธารณประโยชน์เท่านั้น เช่น สถานที่ราชการต่างๆ สถานศึกษา วัด โรงพยาบาล สาธารณูปโภค และสาธารณูปการ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน

จุดประสงค์ของการมีผังเมืองและสีผังเมือง

จุดประสงค์ของการมีผังเมืองและสีผังเมือง

จุดประสงค์ของการกำหนดผังเมืองและสีผังเมือง ที่แบ่งเป็นพื้นที่สีต่างๆ เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ของประเภทที่ดินได้เหมาะสม โดยการแบ่งพื้นที่นี้ จะทำให้เขตพื้นที่หรือท้องที่ต่างๆ สามารถดูแลได้ง่ายขึ้น ช่วยให้สิ่งปลูกสร้างประเภทอื่นๆ ไม่ปะปนกัน เช่น โรงงานจะไม่สามารถตั้งอยู่ในเขตชุมชนได้ หรือ พื้นที่ชนบทและพื้นที่การเกษตร ไม่สามารถสร้างโรงงานได้ เป็นต้น นอกจากนี้ การกำหนดผังเมืองและสีผังเมือง ยังสอดคล้องกับระบบคมนาคม สาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพื่อการพัฒนาผังเมืองในอนาคต ตามวัตถุประสงค์ของผังเมืองเดิมที่มีอยู่

พื้นที่สีเขียว ผังเมืองที่ควรรักษา

พื้นที่สีเขียว ผังเมืองที่ควรรักษา

ผังเมืองของแต่ละพื้นที่ต่างก็มีการนำไปใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกันตามความเหมาะสม ซึ่งผังเมืองที่เป็นพื้นที่สีเขียวก็ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในเรื่องสำคัญ อย่างในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศการดํารงชีวิต และคุณภาพชีวิตของประชาชน จึงควรมีผังเมืองที่เป็นพื้นที่สีเขียวเยอะๆ

โดยความสำคัญของการรักษาพื้นที่สีเขียวไว้ ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชนได้ในระยะสั้น อย่างเรื่องของสุขภาพ เพราะการเพิ่มพื้นที่สีเขียวช่วยส่งเสริมสุขภาพจิต ให้ผู้คนได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ช่วยผ่อนคลายความเครียด ความวิตกกังวล และสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น และสุขภาพกาย ทำให้ผู้คนได้ออกกำลังกายทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น ลดอาการเนือยนิ่ง และเสริมภูมิต้านทานร่างกายให้แข็งแรง ส่วนระยะยาวพื้นที่สีเขียวแห่งนี้ ช่วยทำสภาพแวดล้อมโดยรวมดีขึ้น ต้นไม้จะดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ช่วยลดปัญหาฝุ่นและควัน ต้นไม้และธรรมชาติโดยรอบช่วยลดไอความร้อน ทำให้ร่มรื่น ร่มเย็นมากขึ้น

สรุป

ผังเมือง คือ โครงสร้างหรือแผนผังของเมืองทั้งหมด โดยมีการกำหนดกฎหมายผังเมือง เพื่อควบคุมการใช้ประโยชน์ของที่ดินตามแต่ละสีผังเมืองให้เป็นระเบียบ เนื่องจากกรุงเทพมีการแบ่งสีผังเมือง เป็น 10 สี เพื่อจำแนกสีผังเมืองตามการใช้ประโยชน์ ให้ง่ายต่อการจัดสรรสิ่งปลูกสร้างให้เหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ โดยเฉพาะกับพื้นที่สีเขียวที่ควรรักษา เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนตั้งแต่เสริมสุขภาพของประชาชน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปถึงลดมลภาวะ โดยมีองค์กรและมูลนิธิที่ส่งเสริมพื้นที่สีเขียว เช่น บริษัท บางกอก รูฟท๊อป ฟาร์มมิ่ง จำกัด และ  มูลนิธิโลกสีเขียว หากอยากมีส่วนร่วมในการรักษาพื้นที่สีเขียว สามารถสนับสนุนผ่านทางองค์กรและมูลนิธิเหล่านี้ได้

องค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

banner - green dot
logo - green dot

Green Dot.

เราเป็นแอปพลิเคชั่นที่ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมกับภาครัฐในการดูแลต้นไม้สาธารณะ มีการออกแบบและสร้างกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชน ภาคธุรกิจและราชการ เพื่อมุ่งให้เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกเมืองสีเขียวที่เพียงพอต่อประชาชน ที่ส่งผลต่อการสนับสนุนพฤติกรรมอันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของประชาชนที่สอดคล้องกับบริบทเมือง

บริษัท บางกอก รูฟท๊อป ฟาร์มมิ่ง จำกัด

เราพัฒนาโมเดลการสร้างฟาร์มสมัยใหม่ในเมือง (Urban Modern Farm) โดยต่อยอดพัฒนาจากโมเดลธุรกิจด้วยหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน ธุรกิจฟาร์มบนดาดฟ้า จากโครงการ “นครนวัตกรรมสีเขียวแห่งการแปลงเศษอาหารเป็นฟาร์มผักกลางเมือง” ผ่านการริเริ่มสร้างชุมชนเมืองสีเขียวในอาคาร

banner - สวนผักคนเมือง

สวนผักคนเมือง

เราช่วยพัฒนาเมืองให้มีระบบอาหารที่ยั่งยืนและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในเมืองให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อรับมือกับปัญหาเรื่องความมั่นคงด้านอาหารและความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

banner - we park
logo - we park

We Park

เราป็นแพลตฟอร์มสร้างพื้นที่สีเขียว ที่เชื่อมโยงผู้คนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้มีส่วนร่วมในการออกแบบ สร้างสรรค์ และค้นหากลไกดูแลพื้นที่สาธารณะสีเขียวขนาดเล็ก ที่จะกระจายไปในพื้นที่เมืองที่หนาแน่นของกรุงเทพมหานคร

ิbanner - สวนผักคนเมืองเชียงใหม่
logo - สวนผักคนเมืองเชียงใหม่

สวนผักคนเมืองเชียงใหม่

เราเป็นพื้นที่สาธารณะและแหล่งเรียนรู้ให้คนเมือง หลังการเกิดขึ้นของสวนผักผลิตผลจากสวนได้ช่วยเป็นแหล่งอาหารแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย เป็นพื้นที่เรียนรู้การเกษตรของนักเรียนจากโรงเรียนและพื้นที่อื่นๆ ในละแวกเดียวกัน เป็นพื้นที่สาธารณะสีเขียวที่เข้าถึงง่ายของชาวเมืองเชียงใหม่