เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จัก ปัญหาทางเท้าที่คนไทยต้องเจอ ทั้งฟุตบาทไม่ทนทาน รถจักรยานยนต์ ร้านค้าบนทางเท้า การออกแบบที่ไม่คิดถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ มาสร้างทางเท้าให้ดี เพื่อชีวิตที่ดีกัน!

ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข
ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักปัญหาว่างงานในมิติทางสังคมและเศรษฐกิจส่งผลกระทบในวงกว้าง ควรมีทางออกเพื่อเสริมพลังและสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยกลับมายืนหยัดและมีชีวิตที่ดีได้อย่างเข้มแข็ง

Key Takeaway นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คือโครงการจากรัฐบาลที่กำหนดให้ประชาชนเดินทางในเส้นทางรถไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการได้ในราคาเดียวเพียง 20 บาทตลอดสาย เป้าหมายของโครงการคือสร้างความเท่าเทียม ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสให้คนเมืองทุกกลุ่มเข้าถึงการเดินทางอย่างสะดวก ลดปัญหารถติดและมลพิษ ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาชุมชนเมือง โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของรัฐบาล กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการผลักดันจากผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่มีวิสัยทัศน์ด้านระบบขนส่งมวลชน เชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้าในราคาคงที่ ช่วยให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ความท้าทายของนโยบายนี้ คือความยั่งยืนทางการเงิน ที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลชดเชยผู้ประกอบการ และปัญหาการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า ทุกวันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าทีก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เพราะค่าโดยสารที่สะสมไปแต่ละวันไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่ลองคิดดูว่า… ถ้าเราเดินทางไกลแค่ไหนก็จ่ายเพียง 20 บาท จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากขนาดไหน? ประชาชนได้ประโยชน์เต็มๆ! บทความนี้พามาเจาะลึกนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน เรื่องนี้จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันของผู้คน ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา หรือแม่ค้าพ่อค้า ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางทุกวันแน่นอน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คืออะไร? โครงการค่าโดยสาร 20 บาท คือความตั้งใจง่ายๆ ที่อยากให้การเดินทางสาธารณะเป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงาน หรือผู้สูงอายุ เรื่องนี้เริ่มต้นจากคำถามว่า “ทำไมคนต้องจ่ายค่าโดยสารแพงหลายระดับ บางทีแค่ไปทำงานหรือไปเรียนใกล้ๆ ก็ต้องจ่ายราคาเต็ม?” แนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวจึงเกิดขึ้น เพื่อช่วยลดภาระและทำให้ทุกคนได้รับสิทธิ์เดินทางในราคาเท่ากัน ในปี 2567 ได้เริ่มทำโครงการนำร่องในสายสีแดงและสายสีม่วงแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากเลย ส่วนเรื่องการหาเงินมาจ่ายนั้น รัฐบาลไม่ได้แค่รับภาระทั้งหมดเอง แต่มีการแบ่งงบและจัดสรรเงินมาใช้ชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ให้บริการยังสามารถดำเนินธุรกิจได้และไม่ขาดทุน กลไกนี้ช่วยให้ความมั่นคงในการเดินรถยังดำเนินไปได้ โดยรัฐจะพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้บริการจริงและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนเป็นธรรมและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจว่าจะทำให้คมนาคมสาธารณะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเดินทางและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวที่คนทุกวัยทุกกลุ่มเข้าถึงได้จริง ทำไมนโยบายนี้ถึงสำคัญกับคนเมือง? ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกวัน การเดินทางในเมืองใหญ่จึงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน การมีนโยบายที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางจึงเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามองและหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาได้จริง ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดค่าใช้จ่ายรายวันได้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนและคนที่ต้องเดินทางประจำ การกำหนดราคาเดียวช่วยให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเดินทางไกล เพิ่มโอกาสในการเดินทางและใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นโยบายยังช่วยกระตุ้นให้เกิดชุมชนและธุรกิจใหม่ในเขตชานเมือง เพิ่มความสะดวกและคุณภาพชีวิตในเมืองอย่างยั่งยืน ลดปัญหารถติดและมลพิษ นโยบายนี้ไม่ได้แค่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เมื่อประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ปริมาณรถติดก็ลดลงตามไปด้วย ช่วยลดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน การใช้รถไฟฟ้ายังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ที่สำคัญคือทำให้เมืองน่าอยู่ สะอาด และเดินทางได้คล่องตัวมากขึ้นสำหรับทุกคน สร้างเมืองที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน นโยบายนี้ไม่ได้แค่ทำให้ค่าโดยสารถูกลงเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างเมืองที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นักเรียน หรือผู้สูงอายุ ช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้า สร้างระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมและเป็นธรรม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการเดินทาง และทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นคนทุกกลุ่ม เป้าหมายของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท นโยบายนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยลดภาระค่าเดินทางของคนในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน พร้อมส่งเสริมให้คนใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น สร้างความสะดวกและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ความเท่าเทียมในการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยสร้างความเท่าเทียมในการเดินทาง เพราะไม่ว่าคนจะขึ้นรถไฟฟ้ากี่สายหรือต้องเดินทางไกลเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหนก็จ่ายค่าโดยสารราคาเดียว ทำให้ทุกคนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือรัฐบาลช่วยชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรักษาคุณภาพบริการและทำให้นโยบายนี้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ นโยบายนี้ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพราะราคาค่าโดยสารที่ถูกลงทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่าย ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยังร่วมมือกับกรุงเทพฯ ในการพัฒนาระบบตั๋วร่วมและฟีดเดอร์ระบบขนส่ง เช่น รถเมล์ที่เชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งานระบบได้ครบวงจรขึ้น แก้ปัญหารถติด นโยบายนี้เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ได้ เมื่อค่าโดยสารถูกลง ผู้คนจะหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น ลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวที่วิ่งบนถนนในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน นอกจากจะช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร ยังช่วยลดเวลาการเดินทางและความเครียดของผู้ใช้ถนนด้วย ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบขนส่งของเมือง ทำให้การเดินทางสะดวกและราบรื่นขึ้นโดยรวมในระยะยาว เชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมือง นโยบายนี้เป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจและชุมชนเมืองเติบโตเป็นระบบ การลดค่าเดินทางช่วยเพิ่มกำลังซื้อและโอกาสทางธุรกิจในชุมชนต่างๆ เนื่องจากผู้คนสามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้สะดวกและบ่อยขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าหลายสายยังช่วยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานและสินค้ารวดเร็ว ทำให้ชุมชนต่างๆ มีโอกาสพัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนและลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เบื้องหลังการผลักดันนโยบาย โครงการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นผลลัพธ์ของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลและกรุงเทพฯ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมทำหน้าที่วางแนวนโยบายและจัดสรรงบประมาณ ในขณะที่กรุงเทพฯ นำโดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผลักดันให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น นโยบายรถไฟฟ้ากับชัชชาติในฐานะผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เป็นหัวใจของชีวิตคนเมือง ร่วมกับการส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและมลพิษ พร้อมผลักดันให้โครงการได้ผลจริงในเชิงปฏิบัติ เช่น การเชื่อมโยงเส้นทางและเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและติดตามผล ทำให้นโยบายนี้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองจริงๆ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท… ความท้าทายและคำถามที่ยังคงอยู่ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้จะได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยลดภาระค่าโดยสารของประชาชน แต่ก็ยังเผชิญความท้าทายด้านความยั่งยืนทางการเงินหลักๆ เพราะรัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ แต่จากการศึกษาพบว่า… ต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าสายหลักอยู่ที่ประมาณ 11 บาทต่อเที่ยว ทำให้นโยบายนี้เป็นไปได้ถ้าบริหารจัดการดีและมีแหล่งเงินทุนสนับสนุนที่มั่นคง เช่น การใช้รายได้ภาษีจากภาคขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการบริหารจัดการรายได้และผลประโยชน์ของภาคเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนและการดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ปัญหานี้ยังเป็นอุปสรรคที่ต้องเจรจาและหาข้อตกลงร่วมที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทางเลือกและข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนานโยบายในอนาคต ได้แก่ การผลักดันกฎหมายตั๋วร่วมเพื่อให้ใช้บริการได้ด้วยบัตรเดียวทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทให้เชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะมีความมั่นคงและเข้าถึงได้ง่ายในระยะยาว สรุป นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนเมือง ทำให้การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องง่ายและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ช่วยเชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมืองอย่างทั่วถึง พร้อมแก้ไขปัญหารถติดและมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตคนเมืองอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกรุงเทพฯ และภาคประชาสังคม ซึ่งบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วมและติดตามนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคง FAQ – คำถามที่พบบ่อย โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทครอบคลุมทุกสายไหม? โครงการนี้ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สายสีน้ำเงิน (MRT) สายสีเหลือง สายสีชมพู และ Airport Rail Link (ARL) รวมรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงที่ทำไปแล้วทั้งหมด 8 สาย รวม 13 เส้นทางและกว่า 194 สถานีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางในราคาคงที่เพียง 20 บาทตลอดสาย แม้ต้องเปลี่ยนสายก็จะไม่เกินราคานี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ส่งผลต่อปัญหารถติดในกรุงเทพฯ อย่างไร? นโยบายนี้ช่วยลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เพราะราคาค่าโดยสารถูกลง คุณภาพชีวิตและการเดินทางจึงดีขึ้น ลดความหนาแน่นของการจราจรในช่วงเร่งด่วนได้ ประชาชนมีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายนี้ได้อย่างไร? ประชาชนสามารถร่วมลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และใช้บัตร EMV Contactless หรือบัตร Rabbit แบบ ABT เพื่อยืนยันตัวตน ร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการของระบบขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้นต่อไป
อนาคตเข้าถึงได้! นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท โครงการเปลี่ยนชีวิตคนเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามาเจาะลึกกับนโยบายรถไฟฟ้า20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน

ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน
ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักจากเสียงประชาชนสู่การแก้ไขจริง! Traffy Fondue คือระบบร้องเรียนของ กทม. นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ไขปัญหา เพิ่มคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวกรุงให้ดีขึ้น

ปัญหาเด็กด้อยโอกาส กับความเหลื่อมล้ำที่ต้องเร่งแก้ไข

บทความนี้ CHEEWID จะพามาดูว่าปัญหาเด็กด้อยโอกาสเกิดจากอะไร แล้วจะต้องทำอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหานี้ไปพร้อมกัน
ปัญหาเด็กด้อยโอกาส กับความเหลื่อมล้ำที่ต้องเร่งแก้ไข
Table of Contents

ปัญหาเด็กด้อยโอกาส เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอมาอย่างยาวนานในสังคมไทย หากแต่ปัญหาดังกล่าวกลับไม่สามารถแก้ไขให้หมดสิ้นไปได้ เนื่องการเป็นผู้ด้อยโอกาสนั้นมาคู่กับความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในสังคม ดังนั้นการศึกษาจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเข้ามาปรับปรุงและเพิ่มโอกาสในการดำเนินชีวิตให้หลุดพ้นจากความจนได้

แต่โอกาสในการเข้าถึงสิทธิทางด้านต่างๆ ยังคงถูกจำกัดสำหรับเด็กบางกลุ่มเช่นกัน เด็กและเยาวชนหลายๆ คนกลายเป็นเด็กด้อยโอกาส ทำให้ขาดโอกาสในการมีคุณภาพชีวิตที่ดี

นิยามของเด็กด้อยโอกาส คืออะไร

นิยามของเด็กด้อยโอกาส คืออะไร

เด็กด้อยโอกาส คือ เด็กที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากมาตั้งแต่เกิด ไม่ได้รับการพัฒนาและเสริมสร้างชีวิตเหมือนกับเด็กและเยาวชนคนอื่นๆ ในสังคม มีชีวิตความเป็นอยู่หรือมีต้นทุนชีวิตที่ด้อยกว่าเด็กที่มาจากครอบครัวอื่นๆ จึงส่งผลให้เด็กเหล่านี้ไร้โอกาส ไร้ซึ่งหนทางในการจะมีชีวิตที่ดี เพื่อที่จะเติบโตไปเป็นประชากรที่มีคุณภาพในอนาคต 

เด็กด้อยโอกาสในสังคมไทย

การเปลี่ยนแปลงสภาพเศรษฐกิจและสังคม เป็นจุดพลิกผันที่ทำให้สังคมไทยต้องพบกับปัญหาเด็กด้อยโอกาสที่สูงขึ้น เนื่องจากความเหลื่อมล้ำในสังคมที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสวัสดิการขั้นพื้นฐานต่างๆ ของรัฐ จึงทำให้เด็กเหล่านี้ไม่ได้รับสิทธิที่ตนควรจะได้รับเพื่อนำไปพัฒนาตนเอง

จากการสำรวจพบข้อมูลว่าจำนวนเด็กด้อยโอกาสในสังคมไทยมีมากถึง 1 ใน 3 ของจำนวนเด็กและเยาวชน ซึ่งไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคนทั่วประเทศ เด็กนักเรียนจำนวนกว่า 4,892,063 คนเป็นเด็กด้อยโอกาส ที่มาจากครอบครัวยากไร้

กลุ่มเด็กด้อยโอกาส สามารถแยกออกมาได้ทั้งหมด 4 ประเภท 

  1. กลุ่มเด็กด้อยโอกาสที่มีความเปราะบางในด้านระบบเศรษฐกิจ เป็นเด็กยากจนจำนวนประมาณ 4,585,207 คน หรือเด็กที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลประมาณ 160,000 คน
  2. กลุ่มเด็กที่ต้องการการเรียนรู้แบบพิเศษ คิดเป็นราวๆ 2 ล้าน คน ที่มีการเรียนรู้และระบบพัฒนาการที่บกพร่อง 
  3. กลุ่มเปราะบางทางสังคมรวมไปถึงกลุ่มเด็กใช้สารเสพติด ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเด็กกำพร้าราวๆ 88,730 คน 
  4. กลุ่มที่พบปัญหาเฉพาะพิเศษ เช่น ไร้สัญชาติราวๆ 200,000-300,000 คน กลุ่มเด็กเร่ร่อน ประมาณ 30,000 คน กลุ่มเด็กติดเชื้อเอดส์ 50,000 คน กลุ่มแรงงานเด็ก 189,633 คน และกลุ่มเด็กถูกบังคับให้ค้าประเวณี ราวๆ 25,00 คน โดยเด็กด้อยโอกาสเหล่านี้มักเป็นเด็กที่อาศัยอยู่ตามสลัม ชุมชนแออัด หรือในพื้นที่ห่างไกล ตามเขตชายแดน 

 

เด็กด้อยโอกาส วัฎจักรปัญหาที่ไม่เคยสิ้นสุด

เด็กด้อยโอกาส วัฎจักรปัญหาที่ไม่เคยสิ้นสุด

ปัญหาเด็กด้อยโอกาสเป็นปัญหาที่ยังคงไม่สามารถแก้ไขให้หมดไปได้ แม้จะพบปัญหานี้มาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังและถูกวิธี ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ปัญหายังคงเกิดซ้ำไปมา ได้แก่ 

ปัญหาพ่อแม่วัยใส

ปัญหาพ่อแม่วัยรุ่นหรือพ่อแม่วัยใส ส่งผลทำให้เด็กที่เกิดมาอาจไม่ได้รับการดูแลและการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสมต่อพัฒนาการตามช่วงวัยของเด็ก อีกทั้งด้วยสภาพของความไม่พร้อมในการมีบุตร จึงอาจทำให้เด็กที่เกิดมากลายเป็นลูกกำพร้าได้ โดยพ่อแม่วัยใส จากการสำรวจในปี 2555 พบว่ามีสตรีที่อายุต่ำกว่า 20 ปีให้การคลอดบุตร ถึง 133,027 คน และพบว่าเป็นคุณแม่วัยใสที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ถึง 3,707 คน 

ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว

เด็กด้อยโอกาสบางคนต้องเผชิญกับการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว ทั้งการทะเลาะ การทำร้ายร่างกา่ย การหย่าร้างของพ่อแม่ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบทางตรงอย่างรุนแรงต่อจิตใจเด็ก จนทำให้เด็กๆ เหล่านี้รับมือไม่ไหว จนอาจหนีออกจากบ้าน  กลายเป็นเด็กด้อยโอกาสและเร่ร่อนในที่สุด

ปัญหาเศรษฐกิจ

ปัญหาเศรษฐกิจส่งผลกระทบไม่น้อยต่อการดำเนินชีวิตของครอบครัว จนกระทบมาสู่เด็กในครอบครัวด้วยเช่นกัน เนื่องจากเด็กด้อยโอกาสต่างมากจากครอบครัวที่มีฐานะยากไร้ จึงทำให้ขาดโอกาสทางการศึกษาและขาดกำลังทรัพย์ สำหรับการดำเนินชีวิตและการพัฒนาตนเองอย่างมีคุณภาพ

ปัญหาเด็กพิการ

กลุ่มเด็กพิการเป็นกลุ่มเด็กที่เสี่ยงต่อการกลายเป็นกลุ่มเด็กด้อยโอกาส เนื่องจากการดูแลและเลี้ยงดูเด็กที่มีความบกพร่อมทางร่างกาย หรือมีสติปัญญาและพัฒนาการที่บกพร่อง จึงจำเป็นต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูที่สูงกว่าเด็กทั่วไป อีกทั้งยังต้องการการรักษาที่พิเศษและการเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด ทำให้เด็กพิการที่เกิดมาในครอบครัวยากไร้ ยิ่งขาดโอกาสในการดำเนินชีวิต ขาดโอกาสในการศึกษา และถึงแม้ว่าจะเกิดในครอบครัวที่ไม่ได้มีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตามสภาพสังคมและระบบการศึกษากลับไม่รองรับหรือมีพื้นที่ให้กับกลุ่มเด็กพิการมากเท่าที่ควร 

ทำไมการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสจึงสำคัญ

ทำไมการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสจึงสำคัญ

การช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสให้พวกเขาได้กลับมามีชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตหรือพัฒนาศักยภาพ เป็นสิ่งหนึ่งที่เราควรตระหนัก เนื่องจากปัญหาเหล่านี้สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความผิดพลาดหลายๆ อย่างในสังคม เช่น ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาด้านการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ หรือปัญหาครอบครัวด้วยเช่นกัน การที่เรายื่นมือเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เหล่าเด็กด้อยโอกาสให้ได้กลับมามีชีวิตที่สดใสเหมือนกับเด็กๆ ทั่วไปอีกครั้ง ช่วยให้เขาได้มีโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของตน ซึ่งนี่ไม่ได้ส่งผลแค่ตัวของเด็กและเยาวชนเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่ออนาคตของประเทศชาติด้วย

เด็กด้อยโอกาสกับหนทางในการช่วยเหลือ

เด็กด้อยโอกาสกับหนทางในการช่วยเหลือ

ปัจจุบันมีหลากหลายองค์กรและหน่วยงานที่ได้ทำงานเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเด็กด้อยโอกาสในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของตน และเพื่อมอบโอกาสใหม่ให้แก่กลุ่มเด็กและเยาวชน โดยองค์กรต่างๆ ที่เปิดช่องทางการบริจาคเพื่อเด็กยากไร้ มีดังนี้ 

1. มูลนิธินิมิตใหม่เพื่อชีวิต

โรงเรียนคริสต์เตียนศึกษาสงเคราะห์นิมิตใหม่เพื่อชีวิต ก่อตั้งโดยมูลนิธินิมิตใหม่เพื่อชีวิต เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มเด็กด้อยโอกาสสามารถเข้าถึงระบบการศึกษาได้ โดยมีทั้งการสนับสนุนด้านการศึกษา ที่พักอาศัย และอาหาร  เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนให้กลุ่มเด็กด้อยโอกาสที่โดนทำร้ายจากสังคมได้มีโอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

2. มูลนิธิสันติสุข

การดูแลเด็กให้เติบโตแข็งแรงคือสิ่งสำคัญในสังคม มูลนิธิสันติสุขได้จัดทำโครงการซื้อนมผงและนมกล่องให้กับเด็ก เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับพวกเขา เนื่องด้วยสถานกาณ์โควิดทำให้หลายครอบครัวต้องเผชิญกับปัญหาทางด้านการเงิน ขาดรายได้ในการเลี้ยงดูบุตร และด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงสำหรับการเลี้ยงดูจึงทำให้เด็กหลายคนต้องขาดสารอาหาร โครงการนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะมอบนมให้แก่เด็กและครอบครัวเพื่อช่วยให้เด็กได้ดื่มนมเพื่อสารอาหารที่ครบถ้วนและเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ครอบครัวได้ด้วยเช่นกัน 

3. มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย

มูลนิธิศุภนิมิต เป็นองค์กรคริสเตียนที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเหลือเด็กและครอบครัว โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเด็กเปราะบางและเด็กด้อยโอกาส เพื่อบรรเทาความยากลำบาก ซึ่งโครงการภายในมูลนิธิมีทั้งการสนับสนุนให้เด็กๆ ได้มีครอบครัวอุปการะเพื่อดูแลเด็กๆ ด้วยความรัก ให้การส่งเสริมชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเด็กและเยาวชน สนับสนุนให้เด็กๆ ได้มีการพัฒนาตนเองและทักษะในการดำรงชีวิต รวมทั้งช่วยเหลือด้านสิทธิที่เด็กและเยาวชนควรจะได้รับ 

4. มูลนิธิกระจกเงา

มูลนิธิกระจกเงา นอกจากจะเป็นมูลนิธิที่คอยช่วยเหลือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสแล้วยังช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสด้วยเช่นกัน โดยมีทั้งโครงการที่ให้ความช่วยเหลือในการสนับสนุนอุปกรณ์การเรียนและชุดนักเรียน การดูแลด้านการศึกษาให้แก่เด็กยากไร้ นอกจากนี้ยังมีโครงการที่คอยสนับสนุนให้โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลได้มีอุปกรณ์เพื่อการศึกษาที่เพียงพอ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในระบบการศึกษา

5. มูลนิธิธรรมรักษ์

มูลนิธิธรรมรักษ์ เป็นโครงการโดยวัดพระบาทน้ำพุที่จัดทำโครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือและดูแลผู้ป่วยเอดส์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ด้อยโอกาสที่ต้องพบกับความยากลำบากในการดำเนินชีวิตและการเข้าสังคม นอกจากนี้แล้วยังมีการให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ต้องเผชิญกับปัญหาโรคเอดส์ทั้งจากครอบครัวและจากการติดต่อจากพ่อและแม่มาสู่เด็ก โดยโครงการจะเข้าช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ให้รู้สึกว่าตนถูกทอดทิ้งไปจากสังคม  

สรุป

เด็กด้อยโอกาสคือเด็กที่ต้องเผชิญกับปัญหาในการดำเนินชีวิต ไม่ได้รับการดูแล การเลี้ยงดู หรือไม่ได้รับสิทธิต่างๆ ที่เด็กและเยาวชนพึงได้รับอย่างเท่าเทียม โดยส่วนมากแล้วกลุ่มเด็กยากไร้มักเป็นเด็กที่เกิดมาในครอบครัวยากจน ขาดทุนทรัพย์ในการดำเนินชีวิตและการพัฒนาตนเอง ซึ่งมาจากความเหลื่อมล้ำในสังคมที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ค่อนข้างยาก และยังคงไม่หมดสิ้นไปจากสังคม แต่อย่างไรก็ตามการที่เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเด็กด้อยโอกาสได้มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ก็เป็นสิ่งดีที่จะส่งผลกระทบด้านบวกต่อสังคมโดยรวม

โดย Cheewid เองเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนและส่งเสริมให้กลุ่มเด็กด้อยโอกาสได้มีชีวิตที่ดีขึ้น สามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐานได้อย่าเท่าเทียม โดยการร่วมมือกับองค์กรและหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ผู้คนในสังคมได้ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ และเพื่อแก้ไขปัญหาด็กด้อยโอกาสให้ดีขึ้นได้  

 

Reference: 

  1. ไทยโพสต์. เด็กด้อยโอกาสในสังคมไทย. thaipost.net. Published on 25 June 2018. Retrieved 1 April 2024.
  2. สถาบันวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา. ‘เด็กกำพร้า’ ผู้ด้อยโอกาสในระบบการศึกษาที่รัฐต้องเร่งเยียวยา. .research.eef.or.th. Published on 18 October 2021. Retrieved 1 April 2024.
  3. อมรวิชช์ นาครทรรพ. เด็กด้อยโอกาส จุดพลิกผันอนาคตของชาติ. dol.thaihealth.or.th. Retrieved 1 April 2024.
  4. Daniel Neiditch Charitable Foundation. Why We Should Care About Underprivileged Children.  danneiditch.org.  Published on 15 January 2016. Retrieved 1 April 2024.
  5. Our Father’s House. Underprivileged Children: What Can We Do For Them?. ofhsoupkitchen.org. Published on 26 July 2021.  Retrieved 1 April 2024.

องค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

banner - กสศ
logo - กสศ

กสศ. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา

เราสนับสนุนช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา เสริมสร้าง พัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครู
logo - มูลนิธิไทยรัฐ

มูลนิธิไทยรัฐ

เราเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการศึกษา และช่วยเหลือกิจกรรมเกี่ยวกับการศึกษาแก่นักเรียนที่ยากจนและนักเรียนดีเด่นทั่วไป ส่งเสริมการศึกษา และค้นคว้าวิจัยงานหนังสือพิมพ์ร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์เพื่อเด็กๆ

banner - sos เด็กโสสะ

มูลนิธิโสสะแห่งประเทศไทยฯ

เราช่วยเหลือเด็กที่สูญเสียบิดามารดา ขาดญาติมิตร ในรูปแบบของครอบครัวทดแทนถาวรระยะยาว เพื่อให้เด็กสามารถประกอบอาชีพและเลี้ยงดูตัวเองได้ไม่เป็นภาระต่อสังคม