เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
SET ESG Ratings เครื่องมือประเมินความยั่งยืนเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไทย
SET ESG Ratings เครื่องมือประเมินความยั่งยืนเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไทย

บทความนี้ CHEEWID พาทุกคนไปทำความรู้จักกับ SET ESG Ratings การประเมินด้านความยั่งยืนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บทความนี้จะมาเจาะลึก

วาฬบรูด้า ยักษ์ใหญ่ใจดี สัตว์สงวนใกล้สูญพันธุ์แห่งท้องทะเลไทย
วาฬบรูด้า ยักษ์ใหญ่ใจดี สัตว์สงวนใกล้สูญพันธุ์แห่งท้องทะเลไทย

CHEEWID ชวนทุกคนมารู้จักกับวาฬบรูด้า สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ยักษ์ใหญ่ใจดีใกล้สูญพันธุ์แห่งท้องทะเลในไทย และแนวทางการอนุรักษ์ เพื่อรับมือกับปัญหาสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศทางทะเล

ปัญหามลพิษทางทะเล วิกฤตสิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบมากกว่าที่คิด
ปัญหามลพิษทางทะเล วิกฤตสิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบมากกว่าที่คิด

บทความนี้ CHEEWID จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจกับ ปัญหามลพิษทางทะเลส่งผลร้ายแรงกับหลายชีวิต สาเหตุปัญหาสิ่งแวดล้อมทางทะเลมีอะไรบ้าง ส่งผลกระทบมากน้อยแค่ไหน มีแนวทางการแก้ไขและป้องกันอย่างไร ไปดูกัน!

11 องค์กรช่วยเหลือสตรีและเด็กในไทย เพื่อคุ้มครองสิทธิที่ควรได้รับ
11 องค์กรช่วยเหลือสตรีและเด็กในไทย เพื่อคุ้มครองสิทธิที่ควรได้รับ

CHEEWID พาทุกคนมาทำความเข้าใจกับปัญหาความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศ เป็นปัญหาที่ผู้หญิงและเด็กพบเจอมาตลอด จึงเกิดองค์กรหรือมูลนิธิ เพื่อช่วยเหลือเด็กและสตรีในไทย ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ชวนรู้จัก LGBTQIA+ ค้นหาความหมาย ภายใต้ความหลากหลายทางเพศ

CHEEWID ชวนทุกคนมาทำความรู้จักความหมายของ LGBTQIA+ ที่ถูกนำมาใช้เพื่อเป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยแต่ละตัวว่าคืออะไร หาคำตอบกันได้ในบทความนี้!
ชวนรู้จัก LGBTQIA+ ค้นหาความหมาย ภายใต้ความหลากหลายทางเพศ
Table of Contents

 

Key Takeaway

  • ทางชีววิทยาแบ่งเพศออกเป็นชาย และหญิง ตามลักษณะทางกายภาพ แต่อัตลักษณ์ทางเพศมีความซับซ้อน และมีหลากหลายมากกว่านั้น คำว่า LGBTQIA+ จึงถูกนำมาใช้เพื่อเป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ
  • L หมายถึงผู้หญิงที่มีความสนใจต่อเพศเดียวกัน G หมายถึงผู้ชายที่มีความสนใจต่อเพศเดียวกัน B คนที่มีความสนใจต่อเพศชายและเพศหญิง T คนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศไม่ตรงกับเพศที่ถูกกำหนดตอนแรกเกิด Q คนที่ไม่ได้ถือว่าตัวเองเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือคนที่รักคนต่างเพศ 
  • I คือบุคคลมีลักษณะทางเพศของทั้งชาย และหญิงในร่างเดียวกัน A คนที่ไม่มีความต้องการ หรือแรงดึงดูดทางเพศ และ + ที่สื่อถึงความเป็นไปได้อันหลากหลาย และไม่มีที่สิ้นสุดของอัตลักษณ์ทางเพศ
  • ความเท่าเทียมทางเพศ เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ตามปฏิญญาสากล ที่ระบุว่า “ทุกคนมีสิทธิ และเสรีภาพ โดยปราศจากการแบ่งแยกใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ สีผิว เพศ ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง พื้นเพทางสังคม ทรัพย์สิน ถิ่นกำเนิด หรือสถานะอื่นใด”

 

วิวัฒนาการของมนุษย์หลายต่อหลายรุ่น มีกลุ่มหลากหลายทางเพศมานานจนจำไม่ได้ เพียงแต่สมัยนั้นยังไม่เปิดกว้างเท่าในปัจจุบัน ความหลากหลายทางเพศไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ยอดฮิตที่เพิ่งจะมีกันตอนนี้ แต่เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ที่ปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์มานานมากแล้ว 

ชวนมารู้จักความหมายของ LGBTQIA+ แต่ละตัวอักษรว่าคืออะไรได้ในบทความนี้! พร้อมทั้งความหมายของเพศวิถีอื่นๆ ที่ไม่ได้ปรากฎในตัวอักษรเหล่านี้ รวมถึงความเกี่ยวเนื่องระหว่างความหลากหลายทางเพศ และสิทธิมนุษยชน พร้อมทำความเข้าในกฎหมายสมรสเท่าเทียมในไทย ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้กันในเร็วๆ นี้ด้วย

 

LGBTQIA+ คืออะไร?

LGBTQIA+ คืออะไร?

แม้ว่าทางชีววิทยาจะแบ่งเพศออกเป็นชายและหญิง ตามลักษณะทางกายภาพ แต่อัตลักษณ์ทางเพศของมนุษย์นั้นมีความซับซ้อนและหลากหลายมากกว่านั้น คำว่า LGBTQIA+ ได้ถูกนำมาใช้เพื่อเป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือเพศทางเลือกเหล่านี้

ในอดีต สังคมมักมองกลุ่มคนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่ต่างไปจากบรรทัดฐาน ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร พวกเขามักถูกตีตราว่าเป็น ‘ตัวประหลาด’ และถูกกีดกันจากสังคม ในกรณีที่รุนแรง บางคนถึงขั้นถูกทำร้ายร่างกายเลยก็มี ความสัมพันธ์จึงเป็นไปอย่าง ‘ลับๆ’ 

ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ความลื่นไหลทางเพศมีมานานแล้ว อย่างเช่น ในช่วงยุค 1394 อีลีนอร์ ไรเคนอร์ ถูกจับกุมตัว หลังถูกจับได้ว่ากำลังมีความสัมพันธ์กับผู้ชาย และบางครั้งก็มีความสัมพันธ์กับผู้หญิง หรือจะในช่วง 1950 ผู้ชายชนชั้นแรงงานในยอร์กเชียร์ที่ได้แอบมีสัมพันธ์ลับๆ กับผู้ชายด้วยกันโดยไม่ให้คนในครอบครัวรู้ และในช่วง 1954 ที่มีนิตยสารที่ชื่อว่า ฟิล์มแอนด์ฟิล์มมิ่ง (Film & Filming) นำมาวางขาย โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย เป็นต้น

 

ทำไมสัญลักษณ์ LGBTQIA+ ต้องเป็นสีรุ้ง?

ทำไมสัญลักษณ์ LGBTQIA+ ต้องเป็นสีรุ้ง?

‘ธงสีรุ้ง’ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังของกลุ่ม LGBTQIA+ ทั่วโลก โดยสะท้อนถึงความหลากหลาย และความเป็นหนึ่งเดียวของกลุ่มคนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับที่สีรุ้งได้รวมสีสันต่างๆ เข้าด้วยกันให้เป็นหนึ่งเดียว 

จุดกำเนิดของธงสีรุ้งมาจากการสร้างสรรค์ของ Gilbert Baker ศิลปินชาวอเมริกัน และนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของชุมชนเกย์ในปี 1978 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธงชาติสหรัฐอเมริกาในโอกาสครบรอบ 200 ปีของประเทศ เมื่อปี 1976 ในแรกเริ่มธงจะประกอบไปด้วย 8 สี แต่ละสีมีความหมายเฉพาะ ดังนี้

  1. สีชมพูเข้ม: สื่อถึงเรื่องเพศ
  2. สีแดง: สื่อถึงตัวแทนของชีวิต
  3. สีส้ม: สื่อถึงการเยียวยา
  4. สีเหลือง: สื่อถึงแสงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง
  5. สีเขียว: สื่อถึงตัวแทนของธรรมชาติ
  6. สีฟ้าเทอร์ควอยซ์: สื่อถึงเวทมนตร์ หรือศิลปะ
  7. สีน้ำเงินม่วง: สื่อถึงความสามัคคี
  8. สีม่วง: สื่อถึงจิตวิญญาณอันแน่วแน่

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดในการผลิต ธงได้ถูกปรับให้เหลือเพียง 6 สี โดยตัดสีชมพูเข้ม และสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ออก เพราะเป็นสีที่ผลิตได้ยากในสมัยนั้น แม้จะมีการลดจำนวนสีลง แต่ความหมาย และพลังของธงยังคงอยู่ ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความหลากหลาย ความหวัง และความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIA+ เสมอ

ปัจจุบัน ธงสีรุ้งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่รู้จักกันทั่วโลก ปรากฏในงาน Pride การเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ และในชีวิตประจำวันของผู้คนมากมาย เป็นเครื่องหมายของการยอมรับ ความเท่าเทียม และการเฉลิมฉลองความหลากหลายของมนุษยชาติ ธงสีรุ้งไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม LGBTQIA+ เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของสังคมที่เปิดกว้าง และยอมรับความแตกต่างของทุกคนอีกด้วย

 

รู้จักความหมาย LGBTQIA+ แต่ละตัว

รู้จักความหมาย LGBTQIA+ แต่ละตัว

หลายๆ คนอาจสงสัยว่าตัวอักษร LGBTQIA+ แต่ละตัวหมายถึงอะไร มาทำความรู้จัก LGBTQIA+ แต่ละตัว เพื่อให้เข้าใจความหมายในเพศทางเลือกอย่างลึกซึ้งมากขึ้น

 

L — Lesbian

คำว่า ‘เลสเบี้ยน’ มีที่มาจากชื่อเกาะ ‘เลสบอส’ (Lesbos) ในประเทศกรีซ เกาะนี้เป็นบ้านเกิดของแซปโฟ (Sappho) กวีหญิงชาวกรีกโบราณ ผู้มีชื่อเสียงจากบทกวีที่แสดงถึงความรัก และความปรารถนาระหว่างผู้หญิง เนื่องจากอิทธิพลของแซปโฟ คำว่าเลสเบี้ยน จึงถูกนำมาใช้เพื่อหมายถึงผู้หญิงที่มีความสนใจทางเพศต่อเพศเดียวกัน โดยการใช้คำนี้ในความหมายดังกล่าวได้เริ่มแพร่หลายตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา

 

G — Gay

คำว่า ‘เกย์’ ในภาษาอังกฤษเดิม หมายถึงความสนุกสนาน หรือความรื่นเริง แต่ความหมายได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ในช่วงต้นถึงกลางศตวรรษที่ 20 คำว่าเกย์ เริ่มถูกใช้เพื่อหมายถึงผู้ชายที่มีความสนใจทางเพศต่อเพศเดียวกัน ต่อมาผู้หญิงที่มีความสนใจในเพศเดียวกันก็เริ่มใช้คำว่าเกย์เพื่อบ่งบอกตัวตนของตัวเองด้วย ทำให้คำนี้มีความหมายกว้างมากขึ้น

ปัจจุบัน เกย์ กลายเป็นคำที่มีความหมายครอบคลุม (Umbrella Term) สำหรับคนที่มีความสนใจทางเพศต่อเพศเดียวกัน แม้ว่าในบางบริบท คำนี้อาจยังคงถูกใช้เฉพาะสำหรับผู้ชายที่มีความสนใจในเพศเดียวกัน ขณะที่ผู้หญิงที่มีความสนใจในเพศเดียวกันมักจะใช้คำว่าเลสเบี้ยนมากกว่า

 

B — Bisexual

คำว่า ‘ไบ’ (Bi) มาจากภาษาละติน และกรีก แปลว่า ‘สอง’ ในช่วงศตวรรษที่ 19 นักวิทยาศาสตร์ และแพทย์ใช้คำว่า ไบ เพื่ออธิบายถึงคนที่มีลักษณะทางกายภาพของทั้งเพศชายและเพศหญิง ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า ‘อินเตอร์เซ็กส์’ (Intersex) ต่อมา ความหมายขยายไปถึงคนที่แสดงออกถึงความเป็นชาย (Masculine) และความเป็นหญิง (Feminine) ในคนเดียวกัน โดยไม่เกี่ยวข้องกับลักษณะทางกายภาพ

ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 สังคมเริ่มเปิดกว้างขึ้น คำว่า ‘ไบเซ็กชวล’ (Bisexual) เริ่มถูกใช้เพื่ออธิบายถึงคนที่มีความสนใจทางเพศ หรือความรู้สึกโรแมนติก ต่อทั้งเพศชาย และเพศหญิงนั่นเอง

 

T — Transgender

คำว่า ‘Transgender’ ปรากฏครั้งแรกในวงการวิชาการในทศวรรษ 1960 โดยถูกใช้ในหนังสือชื่อ ‘Sexual Hygiene and Pathology’ เพื่ออธิบายถึงคนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศต่างจากเพศกำเนิด ปัจจุบัน Transgender เป็นคำที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในการอธิบายถึงคนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศไม่ตรงกับเพศที่ถูกกำหนด ณ แรกเกิด โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการผ่าตัดแปลงเพศ หรือรักษาทางการแพทย์ใดๆ

 

Q — Queer

ในภาษาอังกฤษ คำว่า ‘Queer’ แปลว่า ‘แปลกประหลาด’ หรือ ‘ผิดปกติ’ จึงถูกใช้เป็นคำดูถูกเหยียดหยามผู้ที่มีอัตลักษณ์ทางเพศไม่เป็นไปตามบรรทัดฐานของสังคม โดยเฉพาะในสังคมที่ยึดถือระบบเพศแบบทวิลักษณ์ (ชาย-หญิง) มาเป็นเวลานาน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 20 เมื่อการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศเริ่มมีพลังมากขึ้น กลุ่ม LGBTQIA+ ได้ ‘ยึดคืน’ (Reclaim) คำว่าเควียร์ (Queer) แล้วเปลี่ยนสถานะจากคำดูถูกที่สร้างความเจ็บปวด ให้กลายเป็นคำที่ใช้ระบุอัตลักษณ์อย่างภาคภูมิใจ โดยแปลอีกอย่างว่า คือบุคคลลื่นไหลทางเพศ หรือผู้ที่ไม่ได้ถือตัวเองว่าเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือผู้ที่รักคนต่างเพศนั่นเอง

 

I — Intersex

คำว่า ‘Intersex’ มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16-17 แต่ความหมายเดิมนั้นต่างจากปัจจุบันมาก โดยความหมายแต่เดิม หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างคนต่างเพศ ต่อมาในปี 1917 ริชาร์ด โกลด์ชมิดต์ (Richard Goldschmidt) นักพันธุศาสตร์ชาวเยอรมัน ได้ให้ความหมายใหม่ว่า เป็นภาวะที่บุคคลมีลักษณะทางเพศของทั้งชาย และหญิงในร่างเดียวกัน เช่น มีอวัยวะสืบพันธุ์ที่ไม่ตรงกับเพศใดเพศหนึ่งโดยเฉพาะ และนิยามนี้ได้กลายเป็นพื้นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวทางสังคมของกลุ่มบุคคลที่มีภาวะดังกล่าวในเวลาต่อมาด้วย

 

A — Asexual

คำว่า ‘Asexual’ ถูกนิยามโดย แมกนัส เฮิร์ชเฟลด์ (Magnus Hirschfeld) นักเพศศาสตร์ชาวเยอรมัน ในช่วงปลายทศวรรษ 1890 เพื่ออธิบายถึงบุคคลที่ไม่มีความต้องการ หรือแรงดึงดูดทางเพศ ตั้งแต่นั้นมา Asexual ได้กลายเป็นศัพท์ที่ใช้กันทั่วไป ทั้งในวงการแพทย์ และสังคม โดยหมายถึงคนที่อาจรู้สึกถึงความรักในเชิงอารมณ์ แต่ไม่มีแรงดึงดูดทางเพศ หรือไม่ต้องการมีเพศสัมพันธ์กับใครหรือเพศใดก็ตาม

ในปัจจุบัน Asexual เป็นที่ยอมรับว่า เป็นอัตลักษณ์ทางเพศรูปแบบหนึ่งในสเปกตรัมความหลากหลายทางเพศ สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจที่กว้างขึ้น เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศของมนุษย์นั่นเอง

 

+ — Plus

การเคลื่อนไหวด้านสิทธิ และความเท่าเทียมทางเพศในปัจจุบัน ได้สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่งผลให้ผู้คนหันมาสำรวจ และเข้าใจอัตลักษณ์ทางเพศของตัวเองมากขึ้น ทำให้เกิดการนิยามอัตลักษณ์ทางเพศใหม่ๆ ที่นอกเหนือจาก LGBTQIA อยู่เสมอ 

เครื่องหมาย ‘+’ ที่ต่อท้ายตัวย่อเหล่านี้ จึงถูกใช้เพื่อสื่อถึงความเป็นไปได้อันหลากหลาย และไม่มีที่สิ้นสุดของอัตลักษณ์ทางเพศที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตนั่นเอง

รู้จักเพศวิถีอื่น นอกเหนือจาก LGBTQIA+

รู้จักเพศวิถีอื่น นอกเหนือจาก LGBTQIA+

ต่อมา มารู้จักเพศวิถีรูปแบบอื่นๆ ที่นอกเหนือจาก LGBTQIA+ เพื่อทำความเข้าใจในความหลากหลายของเพศทางเลือกที่แท้จริง ดังนี้

 

Non – Binary

Non-Binary คือกลุ่มคนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศนอกเหนือจากการแบ่งเพศแบบทวิลักษณ์ (Binary) ที่จำกัดเพียงชายและหญิง Non-Binary จะไม่จำกัดตัวเองว่าเป็นเพศชาย หรือเพศหญิงโดยเฉพาะ อาจรู้สึกว่าตัวเองมีลักษณะของทั้งสองเพศหรือไม่มีเพศใดเลย และมองว่าเพศเป็นสเปกตรัมที่มีความหลากหลายมากกว่าแค่สองขั้ว (ชาย-หญิง)

โดยแนวคิดนี้ เป็นการท้าทายระบบเพศแบบดั้งเดิม ที่เชื่อว่ามีเพียงสองเพศ และเรียกร้องการยอมรับในความหลากหลายของอัตลักษณ์ทางเพศที่อยู่นอกกรอบแบบเดิมด้วย 

 

Pansexual

คำว่า ‘Pan’ มาจากภาษากรีก แปลว่า ‘ทั้งหมด’ สะท้อนถึงการเปิดกว้างต่อทุกเพศสภาพ Pansexual จึงเป็นอัตลักษณ์ทางเพศ ที่หมายถึงบุคคลที่มีความสนใจทางเพศ หรือมีความรู้สึกโรแมนติกต่อผู้อื่น โดยไม่คำนึงถึงเพศสภาพ สามารถรู้สึกดึงดูดต่อคนจากทุกอัตลักษณ์ทางเพศ ไม่ว่าจะชาย หญิง นอนไบนารี และเพศสภาพอื่นๆ Pansexual มองว่าบุคลิกภาพ และคุณสมบัติของคนๆ หนึ่ง สำคัญกว่าเพศสภาพ Pansexual จึงเป็นอัตลักษณ์ที่แสดงถึงความเปิดกว้าง และการยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างไม่มีขีดจำกัดนั่นเอง

 

Two-spirit

คำว่า ‘Two-spirit’ มีรากฐานมาจากของชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกัน ที่ไว้ใช้ยกย่องผู้ที่มีบทบาทพิเศษในสังคม เช่น เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ หรือผู้ประกอบพิธีกรรมสำคัญ

ปัจจุบัน Two-spirit หมายถึง บุคคลที่มีทั้งลักษณะความเป็นชายและหญิงในคนเดียวกัน ทั้งด้านจิตวิญญาณ และการแสดงออก โดยเป็นแนวคิดที่แสดงถึงการยอมรับความหลากหลายทางเพศในวัฒนธรรมดั้งเดิมของชนพื้นเมือง เป็นอัตลักษณ์ทางเพศ และบทบาททางสังคม ที่มีความสำคัญในวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองอเมริกันหลายเผ่าในอดีตเลยทีเดียว 

 

Questioning

Questioning เป็นผู้ที่ยังไม่แน่ใจ หรือกำลังค้นหาความเข้าใจเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศ หรือเพศสภาพของตัวเอง อยู่ในกระบวนการตั้งคำถาม และสำรวจความรู้สึก ความต้องการ และการแสดงออกทางเพศของตัวเอง เป็นช่วงเวลาของการเปิดใจยอมรับความเป็นไปได้ต่างๆ เกี่ยวกับอัตลักษณ์ทางเพศ และการยอมรับว่าอัตลักษณ์ทางเพศอาจเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาได้ในอนาคต

Questioning เป็นส่วนสำคัญของการค้นพบตัวตน และเป็นกระบวนการที่ควรได้รับการเคารพ และสนับสนุน โดยไม่เร่งรัดให้ต้องนิยามตัวเองอย่างชัดเจน หรือถาวร

 

LGBTQIA+ กับสิทธิมนุษยชน

‘ความเท่าเทียมทางเพศ’ เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ตามปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ 2 ที่ระบุว่า “ทุกคนมีสิทธิ และเสรีภาพ โดยปราศจากการแบ่งแยกใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ สีผิว เพศ ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง พื้นเพทางสังคม ทรัพย์สิน ถิ่นกำเนิด หรือสถานะอื่นใด”

ในอดีต กลุ่มคนหลากหลายทางเพศ มักถูกบังคับให้ปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมดั้งเดิม เช่น การถูกให้แต่งงานกับเพศตรงข้าม เพื่อสืบทอดวงศ์ตระกูล หรือรักษาเกียรติของครอบครัว ซึ่งการกระทำเช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรงต่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออีกด้วย

อย่างไรก็ตาม สังคมในปัจจุบัน ได้เริ่มเปิดกว้าง และยอมรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจที่มากขึ้นต่อความซับซ้อนของอัตลักษณ์ทางเพศของมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศรู้สึกได้รับการยอมรับมากขึ้น แต่ยังช่วยสร้างสังคมที่เปิดกว้าง และเท่าเทียมสำหรับทุกคนอีกด้วย

 

พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ความสำเร็จครั้งใหญ่ของชาว LGBTQIA+

พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ความสำเร็จครั้งใหญ่ของชาว LGBTQIA+

พ.ร.บ. คู่ชีวิต นิยามคู่รัก LGBTQIA+ เป็น ‘คู่ชีวิต’ โดยให้สิทธิ และสวัสดิการแค่บางประการเท่านั้น ไม่ครอบคลุมทั้งหมด แต่ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม นิยามคู่รัก LGBTQIA+ เป็น ‘คู่สมรส’ ให้สิทธิ และสวัสดิการเท่าเทียมกับคู่สมรสทั่วไป โดยยึดหลักความเสมอภาค ไม่มีการแบ่งแยกใดๆ ซึ่งครอบคลุมเรื่องต่างๆ ดังนี้

  • กรณีการหมั้น ต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ (มาตรา 1435)
  • กรณีการสมรส ต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ ยกเว้นกรณีพิเศษที่ศาลอนุญาต (มาตรา 1448)
  • กรณีการจดทะเบียนสมรส ต้องแสดงความยินยอมต่อหน้านายทะเบียน (มาตรา 1458)
  • กรณีการหย่า ต้องจดทะเบียนหย่าเพื่อให้มีผลสมบูรณ์ (มาตรา 1515)
  • การจัดการทรัพย์สิน และหนี้สินร่วมกัน
  • สิทธิรับสวัสดิการจากรัฐในฐานะคู่สมรส
  • การให้ความยินยอมในการรักษาพยาบาล
  • การเป็นผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (มาตรา 1463)
  • การอุปการะเลี้ยงดูคู่สมรส (มาตรา 1598/38)
  • การรับบุตรบุญธรรมร่วมกัน

 

เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยมีผลบังคับใช้ในอีก 120 วันข้างหน้า หรือในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2568 นั่นเอง

เพราะความคิดนั้นเปลี่ยนยาก การเกิดขึ้นของ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมจึงถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากให้กับประเทศไทย เพราะขนบธรรมเนียมแบบไทยๆ ที่ขึ้นชื่อว่ายึดแต่แนวคิดเดิมๆ การที่ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมถูกยอมรับในเชิงกฎหมายจึงถือเป็นความหวังให้กับชาว LGBTQIA+ หลายๆ คน ว่าประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่อีกระดับนั่นเอง

 

สรุป

แม้ว่าในปัจจุบัน จะมีการยอมรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น แต่เราก็ยังมีภารกิจอีกมากมาย ที่ต้องทำเพื่อสร้างสังคม ให้สังคมปราศจากการเลือกปฏิบัติ หรืออคติใดๆ ต่อกลุ่ม ชาว LGBTQIA+ โดยการให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ เพื่อให้เราทุกคนมีแนวคิด และเคารพในความแตกต่างของคนอื่น เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี และเท่าเทียมนั่นเอง

Cheewid ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกลุ่มหลากหลายทางเพศ ที่เป็นช่องทางให้ทุกๆ คนได้ร่วมบริจาค เพื่อเป็นแรงสนับสนุนในการเรียกร้องสิทธิของชาว LGBTQIA+ เพื่อที่จะสร้างโลกแห่งความหลากหลาย ที่ผู้คนไม่มีอคติต่อกันและกัน 

 

Reference:

  1. Amnesty. ทำไมสัญลักษณ์ LGBTQ จึงเป็นสีรุ้ง. amnesty.or.th. Published 23 June 2021. Retrieved 30 September 2024.
  2. อธิเจต มงคลโสฬศ. LGBT+ โลกนี้มีความหลากหลายมากกว่าชาย-หญิง. thaipbs.or.th. Published 31 May 2024. Retrieved 30 September 2024.
  3. BBCNEWS. LGBT: เรื่องราวในอดีตของความหลากหลายทางเพศที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้. bbc.com. Published 4 June 2021. Retrieved 30 September 2024.
  4. CENTRALinspirer. ทำความรู้จักเทศกาล Pride Month ทำไมต้องสีรุ้ง?. central.co.th. Published 12 June 2024. Retrieved 30 September 2024.
  5. THEMOMENTUM. The ABCs of LGBTQIA+ ค้นหาความหมายภายใต้ ‘ความหลากหลาย’ ทางเพศ. themomentum.co. Published 11 June 2022. Retrieved 30 September 2024.
  6. กรุงเทพธุรกิจ. เปิดตัวย่อ “LGBTQIA+” คืออะไร มาจากไหน . central.co.th. Published 5 June 2022. Retrieved 30 September 2024.
  7. ไทยรัฐ. “สมรสเท่าเทียม” คืออะไร ประโยชน์ที่ LGBTQIA+ จะได้รับมีอะไรบ้าง?. thairath.co.th. Published 16 June 2022. Retrieved 30 September 2024.

องค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

logo - inskru

insKru ขับเคลื่อนการศึกษาไทยผ่านพลังของคุณครู

เราเปิดพื้นที่รวบรวมไอเดีย กิจกรรม สื่อ เทคนิคการสอน ที่แบ่งปันโดยคนในคอมมูนิตี้ ส่งต่อแรงบันดาลใจสนับสนุน และเติมพลังใจซึ่งกันและกัน
banner - a-chieve
logo - a-chieve

a-chieve

a-chieve อยากสร้างพื้นที่ปลอดภัยที่สนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้รู้จักตัวเองรอบด้าน ออกแบบเส้นทางชีวิต และไปต่อได้ด้วยใจที่แข็งแรง
Laline Space (บ้านละลายสี)
Laline Space

Laline Space (บ้านละลายสี)

Laline Space(บ้านละลายสี) ธุรกิจเพื่อสังคมที่สร้างพื้นที่การเรียนรู้รูปแบบใหม่ในจังหวัดนครราชสีมา โมุ่งเน้นไปที่กระบวนการศิลปะรูปแบบที่ออกแบบขึ้นเพื่อรักษาและส่งเสริมความเป็นตัวตนของผู้เข้าร่วมกิจกรรม

วิชานอกเส้น

วิชานอกเส้น

วิชานอกเส้น คือองค์กรผู้ผลิตสื่อและนวัตกรรมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ที่มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนการศึกษาให้ไร้ข้อจำกัดทุกประเภท เพราะเราเชื่อว่าการเรียนรู้ไม่มีจุดสิ้นสุด เพราะมันไม่มีเส้น

ห้องสมุดแมวหางกิ้นส์

ห้องสมุดแมวหางกิ้นส์

พื้นที่ทำกิจกรรมและจัดการเรียนรู้สำหรับเด็กเยาวชนในชุมชนจ.อุบลราชธานี ใช้วรรณกรรม ศิลปะ ธรรมชาติและอื่นๆ เป็นเครื่องมือ เราทำห้องสมุดในพื้นที่ส่วนตัวจากความฝันของคนเล็กๆ โดยไม่มีทุนสนับสนุนจากองค์ใดๆ