เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จัก ปัญหาทางเท้าที่คนไทยต้องเจอ ทั้งฟุตบาทไม่ทนทาน รถจักรยานยนต์ ร้านค้าบนทางเท้า การออกแบบที่ไม่คิดถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ มาสร้างทางเท้าให้ดี เพื่อชีวิตที่ดีกัน!

ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข
ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักปัญหาว่างงานในมิติทางสังคมและเศรษฐกิจส่งผลกระทบในวงกว้าง ควรมีทางออกเพื่อเสริมพลังและสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยกลับมายืนหยัดและมีชีวิตที่ดีได้อย่างเข้มแข็ง

Key Takeaway นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คือโครงการจากรัฐบาลที่กำหนดให้ประชาชนเดินทางในเส้นทางรถไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการได้ในราคาเดียวเพียง 20 บาทตลอดสาย เป้าหมายของโครงการคือสร้างความเท่าเทียม ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสให้คนเมืองทุกกลุ่มเข้าถึงการเดินทางอย่างสะดวก ลดปัญหารถติดและมลพิษ ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาชุมชนเมือง โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของรัฐบาล กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการผลักดันจากผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่มีวิสัยทัศน์ด้านระบบขนส่งมวลชน เชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้าในราคาคงที่ ช่วยให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ความท้าทายของนโยบายนี้ คือความยั่งยืนทางการเงิน ที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลชดเชยผู้ประกอบการ และปัญหาการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า ทุกวันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าทีก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เพราะค่าโดยสารที่สะสมไปแต่ละวันไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่ลองคิดดูว่า… ถ้าเราเดินทางไกลแค่ไหนก็จ่ายเพียง 20 บาท จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากขนาดไหน? ประชาชนได้ประโยชน์เต็มๆ! บทความนี้พามาเจาะลึกนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน เรื่องนี้จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันของผู้คน ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา หรือแม่ค้าพ่อค้า ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางทุกวันแน่นอน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คืออะไร? โครงการค่าโดยสาร 20 บาท คือความตั้งใจง่ายๆ ที่อยากให้การเดินทางสาธารณะเป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงาน หรือผู้สูงอายุ เรื่องนี้เริ่มต้นจากคำถามว่า “ทำไมคนต้องจ่ายค่าโดยสารแพงหลายระดับ บางทีแค่ไปทำงานหรือไปเรียนใกล้ๆ ก็ต้องจ่ายราคาเต็ม?” แนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวจึงเกิดขึ้น เพื่อช่วยลดภาระและทำให้ทุกคนได้รับสิทธิ์เดินทางในราคาเท่ากัน ในปี 2567 ได้เริ่มทำโครงการนำร่องในสายสีแดงและสายสีม่วงแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากเลย ส่วนเรื่องการหาเงินมาจ่ายนั้น รัฐบาลไม่ได้แค่รับภาระทั้งหมดเอง แต่มีการแบ่งงบและจัดสรรเงินมาใช้ชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ให้บริการยังสามารถดำเนินธุรกิจได้และไม่ขาดทุน กลไกนี้ช่วยให้ความมั่นคงในการเดินรถยังดำเนินไปได้ โดยรัฐจะพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้บริการจริงและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนเป็นธรรมและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจว่าจะทำให้คมนาคมสาธารณะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเดินทางและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวที่คนทุกวัยทุกกลุ่มเข้าถึงได้จริง ทำไมนโยบายนี้ถึงสำคัญกับคนเมือง? ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกวัน การเดินทางในเมืองใหญ่จึงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน การมีนโยบายที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางจึงเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามองและหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาได้จริง ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดค่าใช้จ่ายรายวันได้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนและคนที่ต้องเดินทางประจำ การกำหนดราคาเดียวช่วยให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเดินทางไกล เพิ่มโอกาสในการเดินทางและใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นโยบายยังช่วยกระตุ้นให้เกิดชุมชนและธุรกิจใหม่ในเขตชานเมือง เพิ่มความสะดวกและคุณภาพชีวิตในเมืองอย่างยั่งยืน ลดปัญหารถติดและมลพิษ นโยบายนี้ไม่ได้แค่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เมื่อประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ปริมาณรถติดก็ลดลงตามไปด้วย ช่วยลดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน การใช้รถไฟฟ้ายังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ที่สำคัญคือทำให้เมืองน่าอยู่ สะอาด และเดินทางได้คล่องตัวมากขึ้นสำหรับทุกคน สร้างเมืองที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน นโยบายนี้ไม่ได้แค่ทำให้ค่าโดยสารถูกลงเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างเมืองที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นักเรียน หรือผู้สูงอายุ ช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้า สร้างระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมและเป็นธรรม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการเดินทาง และทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นคนทุกกลุ่ม เป้าหมายของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท นโยบายนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยลดภาระค่าเดินทางของคนในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน พร้อมส่งเสริมให้คนใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น สร้างความสะดวกและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ความเท่าเทียมในการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยสร้างความเท่าเทียมในการเดินทาง เพราะไม่ว่าคนจะขึ้นรถไฟฟ้ากี่สายหรือต้องเดินทางไกลเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหนก็จ่ายค่าโดยสารราคาเดียว ทำให้ทุกคนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือรัฐบาลช่วยชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรักษาคุณภาพบริการและทำให้นโยบายนี้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ นโยบายนี้ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพราะราคาค่าโดยสารที่ถูกลงทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่าย ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยังร่วมมือกับกรุงเทพฯ ในการพัฒนาระบบตั๋วร่วมและฟีดเดอร์ระบบขนส่ง เช่น รถเมล์ที่เชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งานระบบได้ครบวงจรขึ้น แก้ปัญหารถติด นโยบายนี้เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ได้ เมื่อค่าโดยสารถูกลง ผู้คนจะหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น ลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวที่วิ่งบนถนนในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน นอกจากจะช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร ยังช่วยลดเวลาการเดินทางและความเครียดของผู้ใช้ถนนด้วย ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบขนส่งของเมือง ทำให้การเดินทางสะดวกและราบรื่นขึ้นโดยรวมในระยะยาว เชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมือง นโยบายนี้เป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจและชุมชนเมืองเติบโตเป็นระบบ การลดค่าเดินทางช่วยเพิ่มกำลังซื้อและโอกาสทางธุรกิจในชุมชนต่างๆ เนื่องจากผู้คนสามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้สะดวกและบ่อยขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าหลายสายยังช่วยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานและสินค้ารวดเร็ว ทำให้ชุมชนต่างๆ มีโอกาสพัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนและลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เบื้องหลังการผลักดันนโยบาย โครงการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นผลลัพธ์ของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลและกรุงเทพฯ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมทำหน้าที่วางแนวนโยบายและจัดสรรงบประมาณ ในขณะที่กรุงเทพฯ นำโดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผลักดันให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น นโยบายรถไฟฟ้ากับชัชชาติในฐานะผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เป็นหัวใจของชีวิตคนเมือง ร่วมกับการส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและมลพิษ พร้อมผลักดันให้โครงการได้ผลจริงในเชิงปฏิบัติ เช่น การเชื่อมโยงเส้นทางและเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและติดตามผล ทำให้นโยบายนี้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองจริงๆ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท… ความท้าทายและคำถามที่ยังคงอยู่ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้จะได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยลดภาระค่าโดยสารของประชาชน แต่ก็ยังเผชิญความท้าทายด้านความยั่งยืนทางการเงินหลักๆ เพราะรัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ แต่จากการศึกษาพบว่า… ต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าสายหลักอยู่ที่ประมาณ 11 บาทต่อเที่ยว ทำให้นโยบายนี้เป็นไปได้ถ้าบริหารจัดการดีและมีแหล่งเงินทุนสนับสนุนที่มั่นคง เช่น การใช้รายได้ภาษีจากภาคขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการบริหารจัดการรายได้และผลประโยชน์ของภาคเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนและการดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ปัญหานี้ยังเป็นอุปสรรคที่ต้องเจรจาและหาข้อตกลงร่วมที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทางเลือกและข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนานโยบายในอนาคต ได้แก่ การผลักดันกฎหมายตั๋วร่วมเพื่อให้ใช้บริการได้ด้วยบัตรเดียวทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทให้เชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะมีความมั่นคงและเข้าถึงได้ง่ายในระยะยาว สรุป นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนเมือง ทำให้การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องง่ายและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ช่วยเชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมืองอย่างทั่วถึง พร้อมแก้ไขปัญหารถติดและมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตคนเมืองอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกรุงเทพฯ และภาคประชาสังคม ซึ่งบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วมและติดตามนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคง FAQ – คำถามที่พบบ่อย โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทครอบคลุมทุกสายไหม? โครงการนี้ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สายสีน้ำเงิน (MRT) สายสีเหลือง สายสีชมพู และ Airport Rail Link (ARL) รวมรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงที่ทำไปแล้วทั้งหมด 8 สาย รวม 13 เส้นทางและกว่า 194 สถานีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางในราคาคงที่เพียง 20 บาทตลอดสาย แม้ต้องเปลี่ยนสายก็จะไม่เกินราคานี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ส่งผลต่อปัญหารถติดในกรุงเทพฯ อย่างไร? นโยบายนี้ช่วยลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เพราะราคาค่าโดยสารถูกลง คุณภาพชีวิตและการเดินทางจึงดีขึ้น ลดความหนาแน่นของการจราจรในช่วงเร่งด่วนได้ ประชาชนมีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายนี้ได้อย่างไร? ประชาชนสามารถร่วมลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และใช้บัตร EMV Contactless หรือบัตร Rabbit แบบ ABT เพื่อยืนยันตัวตน ร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการของระบบขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้นต่อไป
อนาคตเข้าถึงได้! นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท โครงการเปลี่ยนชีวิตคนเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามาเจาะลึกกับนโยบายรถไฟฟ้า20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน

ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน
ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักจากเสียงประชาชนสู่การแก้ไขจริง! Traffy Fondue คือระบบร้องเรียนของ กทม. นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ไขปัญหา เพิ่มคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวกรุงให้ดีขึ้น

Gentrification การเปลี่ยนแปลงในเมืองที่สร้างความแตกต่างในสังคม

บทความนี้ CHEEWID พาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Gentrification คือการพัฒนาพื้นที่ที่มีรายได้ต่ำ โดยดึงดูดกลุ่มคนรายได้สูง สร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมและเศรษฐกิจ อาจทำให้ผู้อยู่อาศัยเดิมต้องเผชิญกับความไม่เท่าเทียม
Gentrification การเปลี่ยนแปลงในเมืองที่สร้างความแตกต่างในสังคม
Table of Contents

 

Key Takeaway

  • Gentrification คือ การกลายเป็นเมืองผู้ดี เปลี่ยนให้พื้นที่ไร้การพัฒนาของคนรายได้ต่ำ ถูกยกระดับให้เป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจใหม่ที่ได้รับการพัฒนา และถูกแทนที่ด้วยกลุ่มคนผู้มีรายได้สูง 
  • Gentrification ทำให้พื้นที่ถูกนำไปปรับปรุงและสามารถใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้สูงสุด และส่งเสริมให้พื้นที่มีความก้าวหน้า พัฒนาและปลอดภัย ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้ 
  • ผลจาก Gentrification ทำให้พื้นที่เมืองกลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจ เพิ่มมูลค่าที่ดิน การค้าและการลงทุน แต่ก็เป็นการผลักให้คนท้องถิ่นเดิมต้องออกจากพื้นที่ เนื่องจากทุกอย่างมีมูลค่าสูงมากขึ้นจนไม่สามารถครอบครองได้
  • การทำ Gentrification แบบเป็นธรรม จะต้องมีการวางแผน คาดการณ์แนวโน้มของพื้นที่ให้แน่ชัด และจะต้องมีการดูแล เยียวยาคนท้องถิ่นเดิมที่อาจได้รับผลกระทบ เพื่อให้คนท้องถิ่นสามารถอยู่ร่วมกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างกลมกลืน 

 

Gentrification คือ การพัฒนาเมืองที่เคยเป็นพื้นที่เสื่อมโทรม ไม่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ให้กลายเป็นเมืองโฉมใหม่ที่ได้รับการพัฒนา มูลค่าพื้นที่และการลงทุนในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันการพัฒนาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อชุมชนอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือด้านลบ ดังนั้นการพัฒนาพื้นที่จึงควรทำอย่างรอบคอบและมีการวางแผน เพื่อทำให้การพัฒนาเป็นผลดีต่อทุกคนในสังคม และไม่ก่อให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบและความเหลื่อมล้ำตามมา

 

Gentrification ในเมืองใหญ่ คืออะไร?

 

Gentrification ในเมืองใหญ่ คืออะไร?

Gentrification คือ “การทำให้เมืองกลายเป็นย่านผู้ดี” ตามการให้ความหมายโดยอาจารย์บุญเลิศ วิเศษปรีชา จากคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้คนมีฐานะ หรือคนรวย กลุ่มรายได้มากในสังคมหลั่งไหลและย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของคนชายขอบ เนื่องจากในพื้นที่เดิมเคยเป็นที่เสื่อมโทรมไม่ได้รับการพัฒนาเป็นพื้นที่ที่มีที่ดินและค่าเช่าราคาถูก จึงค่อยๆ ดึงดูดให้กลุ่มนักศึกษา ศิลปิน หรือหลายๆ คนย้ายเข้าไปอยู่

ในขณะเดียวกันพื้นที่ก็ค่อยๆ เกิดการพัฒนาเพราะคนกลุ่มใหม่เหล่านี้ และด้วยเมืองที่ค่อยๆ พัฒนาให้น่าอยู่ กลับกลายเป็นถูกพัฒนามากยิ่งขึ้นจนที่ดินในเมืองมีราคาพุ่งสูงขึ้น ส่งผลทำให้กลุ่มศิลปินหรือนักศึกษา รวมทั้งคนกลุ่มเดิมที่เคยอาศัยไม่สามารถทนต่อราคาได้จึงต้องย้ายออกไป และถูกแทนที่ด้วยคนชนชั้นนำ กลุ่มผู้มีรายได้ในสังคมเข้ามาแทนที่ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงสถานภาพทางเศรษฐกิจ และพัฒนากลายเป็นเมืองหรูของคนร่ำรวย เกิดการลงทุนและมีนักลงทุนจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก

 

 

ปรากฏการณ์ Gentrification ในทั่วโลก

ปรากฏการณ์ Gentrification เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ตัวอย่างเช่น ในย่านบุกชน ประเทศเกาหลีใต้ ที่มีแต่บ้านโบราณเก่าแก่ อยู่ท่ามกลางตึกสูงของกรุงโซล สะท้อนให้เห็นถึงการกลายเป็นเมือง ถูกพัฒนาเป็นย่านเศรษฐกิจและการลงทุน บ้านโบราณบางหลังถูกปรับปรุงให้เหมาะสม เป็นภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยว เพราะกลุ่มคนที่มีรายได้ยังคงสามารถดูแลบ้านได้ ในขณะที่บ้านบางหลังกลายเป็นบ้านรกร้าง เพราะกลุ่มผู้อยู่อาศัยเดิมบางส่วนไม่สามารถต่อสู้กับความพัฒนาและค่าครองชีพที่สูงขึ้นได้

ในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกก็ประสบกับภาวะการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน อาทิ มหานครนิวยอร์ก ย่านแมนฮัตตัน บรุกลิน ควีนส์ หรือในลอนดอน ก็เกิดปรากฏการณ์ในลักษณะของการกลายเป็นเมืองหรู ย่านคนรวยด้วยเช่นกัน ซึ่งเกิดจากการที่ย่านแบ็ตเทิลซีที่เคยเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าถ่านหินถูกเปลี่ยนให้เป็นย่านของคนมีรายได้ เมื่อเวลาเปลี่ยนไป

 

ทำไมต้องใช้ Gentrification ในการปรับปรุงพื้นที่เมือง?

 

ทำไมต้องใช้ Gentrification ในการปรับปรุงพื้นที่เมือง?

Gentrification ได้เปลี่ยนให้เมืองหรือพื้นที่ที่เคยเป็นแหล่งเสื่อมโทรม ไม่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ กลับกลายเป็นเมืองที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น ซึ่งผลดีของ Gentrification คือ สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดของพื้นที่เพื่อการค้า การลงทุนทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น สามารถสร้างรายได้จากพื้นที่ได้มากขึ้น ทำให้เมืองมีความน่าอยู่อาศัยมากกว่าเก่า มีการปรับปรุงและพัฒนาให้ก้าวหน้า ช่วยลดความเสื่อมโทรมของชุมชน ซึ่งส่งผลให้อาชญากรรมค่อยๆ ลดลงตามไปเช่นกัน อีกทั้งระบบสาธารณูปโภค ระบบขนส่ง และคุณภาพชีวิตของผู้คนในชุมชนก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย

 

ผลกระทบของ Gentrification ต่อชุมชนดั้งเดิมและวิถีชีวิต

ผลกระทบของ Gentrification ต่อชุมชนดั้งเดิมและวิถีชีวิต

Gentrification หรือการทำให้เมืองเป็นย่านผู้ดี มีทั้งด้านดีและด้านลบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเมืองในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป มีดังนี้

ผลักไสผู้คนในชุมชนดั้งเดิม

Gentrification เปรียบเสมือนกับการผลักให้คนในชุมชนดั้งเดิมจะต้องย้ายออกจากถิ่นฐานของตน จากการที่พื้นที่ถูกปรับให้กลายเป็นย่านผู้ดี คนท้องถิ่นที่เคยอาศัยต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นตามมา ค่าเช่าพื้นที่สูงขึ้น จึงทำให้คนในชุมชนดั้งเดิมไม่มีความสามารถมากพอในการอยู่อาศัยแบบเก่า และต้องสูญเสียที่อยู่ของตนให้กับกลุ่มคนรวย และนักลงทุนเข้ามาแทนที่ 

ความเหลื่อมล้ำในที่อยู่อาศัย

การที่พื้นที่ถูกพัฒนา มีความเจริญ และการลงทุนเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มูลค่าของที่ดินและที่อยู่อาศัยมีราคาแพงตามไป ดังนั้นการเป็นเจ้าของหรือครอบครองที่อยู่อาศัยจึงเป็นไปได้ยากสำหรับกลุ่มคนจนเมือง หรือผู้มีรายได้ต่ำ พื้นที่เดิมที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยก็มีราคาแพงขึ้นจนไม่สามารถครอบครองได้ ก็ต้องตกไปเป็นของกลุ่มผู้มีอำนาจ และมีรายได้เข้ามาแทนที่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ที่ยังคงผลักให้คนรายได้น้อยไม่มีโอกาสเข้าถึงการพัฒนาและความเจริญ และไม่มีโอกาสยกระดับคุณภาพชีวิตเลย

 

 

เมืองมีชีวิตชีวาขึ้น

ในขณะเดียวกันแม้ Gentrification จะดูเหมือนเป็นปรากฏการณ์ร้ายในสังคม แต่ในทางตรงกันข้ามก็ยังส่งผลดีต่อสังคมในด้านการปรับปรุงพื้นที่ให้กลายเป็นพื้นที่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมให้มีการพัฒนาซึ่งนำไปสู่ความเจริญเพิ่มมากยิ่งขึ้นของพื้นที่ จากพื้นที่เสื่อมโทรมจะถูกปรับทัศนียภาพให้ดูน่าอยู่อาศัย กลายเป็นพื้นที่สร้างสีสันและคืนชีวิตชีวาให้กับเมือง และสร้างความปลอดภัยให้กับผู้คนที่อาศัยโดยรอบได้ 

เพิ่มมูลค่าทางทรัพย์สิน

เนื่องด้วยความเจริญก้าวหน้าและการพัฒนาเมืองที่มาพร้อมกับปรากฏการณ์ Gentrification ส่งผลโดยตรงต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจของพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น เศรษฐกิจเติบโตก้าวหน้า ดึงดูดให้นักลงทุนมากมายอยากเข้ามาทำธุรกิจและลงทุนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น จึงเรียกได้ว่า Gentrification เป็นปรากฏการณ์ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับที่ดินและเมืองได้ไม่น้อยเลย

 

แนวทางการพัฒนาเมืองเพื่อความเสมอภาคทางสังคม

 

แนวทางการพัฒนาเมืองเพื่อความเสมอภาคทางสังคม

เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำหรือละทิ้งใครไว้ข้างหลังจากการพัฒนา Gentrification มีแนวทางในการพัฒนาเมืองพร้อมกับสร้างความเสมอภาคทางสังคม ดังนี้ 

ระบุพื้นที่ที่จะถูก Gentrification

ต้องมีการระบุอย่างชัดเจนว่าพื้นที่ใดบ้างที่จะถูกทำให้เป็น Gentrification พื้นที่ใดที่กำลังได้รับการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนระบุพื้นที่ที่ในอนาคตมีแนวโน้มจะพัฒนากลายเป็น Gentrification อีกทั้งต้องระบุให้แน่ชัดถึงประชากรกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบต้องเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่จากการเปลี่ยนแปลง 

ดำเนินการไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม

ก่อนการดำเนินการเพื่อการพัฒนาโครงการพัฒนาเศรษฐกิจ หรือการลงทุนทางพื้นที่ใดๆ จะต้องมีการศึกษาพื้นที่โดยรอบและระบบเศรษฐกิจของพื้นที่ให้แน่ชัด เพื่อให้ผู้คนสามารถรับมือเมื่อกลายเป็น Gentrification ได้ เพื่อเตรียมแผนการในการเยียวยาและบรรเทาความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลง 

วางแผนประกันอนาคตของผู้มีรายได้ต่ำ

เตรียมแผนการวางแผนประกันแก่คนกลุ่มเปราะบาง ผู้มีรายได้น้อย ให้ยังคงได้รับประโยชน์และสามารถเข้าถึงย่าน Gentrification ที่ตนอยู่อาศัยได้ อีกทั้งการกลายเป็นเมืองผู้ดีนั้นจะต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อการพัฒนาและดำเนินการควบคู่ไปกับการรักษาอัตลักษณ์เดิมของพื้นที่ ตามแนว Green Gentrification เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยเดิมและผู้อยู่อาศัยใหม่สามารถอยู่อาศัยได้โดยไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรง 

คุ้มครองสิทธิของผู้อยู่อาศัยเดิม

การกลายเป็น Gentrification จะต้องมีการคำนึงถึงและคุ้มครองสิทธิ์ให้แก่ผู้อยู่อาศัยเดิมในพื้นที่ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว กลุ่มผู้อาศัยเดิมเหล่านี้จะยังคงอาศัยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ 

สร้างที่อยู่อาศัยให้ประชาชน

เมื่อดำเนินการเพื่อการเป็น Gentrification แล้ว รัฐบาลจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อรับผิดชอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมูลค่าที่ดินสูงขึ้น โดยอาจดำเนินการสร้างที่อยู่อาศัย ที่พักในพื้นที่เดิม  ให้ประชากรกลุ่มเดิมยังสามารถเช่าที่พัก หรือซื้อที่พัก เพื่อให้อยู่อาศัยในพื้นที่นั้นๆ ได้ 

อุดหนุนงบประมาณที่อยู่อาศัย

รัฐบาลอาจจะออกนโยบายหรือช่วยสนับสนุน เพื่อการอุดหนุนงบประมาณที่อยู่อาศัยแก่กลุ่มคนที่อยากจะมีบ้าน กลุ่มผู้เริ่มต้นเพิ่งมีรายได้ ช่วงวัย 18-28 ปี เพื่อให้ประชาชนสามารถมีบ้านและที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ 

ตั้งราคาและค่าเช่าที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม

จะต้องมีการควบคุมและดูแลอัตราราคาเช่า – ขายที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม เพื่อให้ประชาชนยังสามารถเป็นเจ้าของ หรือครอบครองที่พักอาศัยของตนได้ 

ควบคุมอัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัย

มีการสนับสนุน ดูแล และควบคุมอัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัย ให้เป็นไปในอัตราที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดิน

 

สรุป

Gentrification เป็นปรากฏการณ์ของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมรูปแบบหนึ่ง ที่เปลี่ยนให้พื้นที่ที่เคยเสื่อมโทรม ไร้ซึ่งการพัฒนาที่มีเจ้าของเป็นคนท้องถิ่นเดิมผู้มีรายได้น้อย ถูกแทนที่ด้วยคนกลุ่มใหม่ที่เป็นประชากรผู้มีรายได้สูง กลุ่มนักลงทุน จนที่ดินกลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจอันรุ่งเรือง ซึ่ง Gentrification ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ส่งผลเสียต่อคนจน ทำให้ผู้คนที่มีรายได้ต่ำถูกผลักออกจากที่อยู่อาศัยเดิมไปโดยปริยาย เนื่องจากมูลค่าที่ดินที่สูงขึ้น แต่ในทางตรงกันข้ามกลับเป็นผลดีต่อกลุ่มผู้มีรายได้มาก และกลายเป็นพื้นที่ที่น่าลงทุนสำหรับกลุ่มนักลงทุน และทำให้ Gentrification เป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำอย่างมากมายต่อสังคม 

Cheewid ได้รวบรวมและสนับสนุนมูลนิธิและองค์กรมากมายที่มีส่วนช่วยในการรณรงค์เพื่อรักษาความเท่าเทียมของสังคม ช่วยให้คนที่สนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาความเสมอภาคสามารถเข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิต่างๆ ได้ Cheewid ขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ทุกคนในสังคมสามารถเดินก้าวหน้าอย่างมั่นคงไปพร้อมกัน โดยจะต้องไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

 

Reference: 

  1. โตมร ศุขปรีชา. Gentrification: เรื่องของเมืองงามกับความเสื่อมทรามของประชาธิปไตย. the101.world. Published on 9 February 2024.  Retrieved 28 February 2025.
  2.  นฤภรกมล แมงกะพรุน. Gentrificatiom เมื่อทุนนิยมเปลี่ยนเมืองให้กลายเป็นย่านผู้ดี เบียดขับผู้คนออกจากพื้นที่. waymagazine. Published on 25 July 2023.  Retrieved 28 February 2025.
  3. อัญชัญ อันชัยศรี. การพัฒนาเมืองไม่เคยยุติธรรมกับคนจน. theactive. Published on 18 August 2023.  Retrieved 28 February 2025.
  4. อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ, ฟงศ์ปรีดา ลิ้มวัฒนกุล. มองเมืองต่างมุม : Gentrification แปลงพื้นที่เพื่อเปลี่ยนชนชั้น (ย่านผู้ดี). bangkokbiznews. Published on 2 June 2024.  Retrieved 28 February 2025

องค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

banner - green dot
logo - green dot

Green Dot.

เราเป็นแอปพลิเคชั่นที่ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมกับภาครัฐในการดูแลต้นไม้สาธารณะ มีการออกแบบและสร้างกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชน ภาคธุรกิจและราชการ เพื่อมุ่งให้เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกเมืองสีเขียวที่เพียงพอต่อประชาชน ที่ส่งผลต่อการสนับสนุนพฤติกรรมอันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของประชาชนที่สอดคล้องกับบริบทเมือง

บริษัท บางกอก รูฟท๊อป ฟาร์มมิ่ง จำกัด

เราพัฒนาโมเดลการสร้างฟาร์มสมัยใหม่ในเมือง (Urban Modern Farm) โดยต่อยอดพัฒนาจากโมเดลธุรกิจด้วยหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน ธุรกิจฟาร์มบนดาดฟ้า จากโครงการ “นครนวัตกรรมสีเขียวแห่งการแปลงเศษอาหารเป็นฟาร์มผักกลางเมือง” ผ่านการริเริ่มสร้างชุมชนเมืองสีเขียวในอาคาร

banner - สวนผักคนเมือง

สวนผักคนเมือง

เราช่วยพัฒนาเมืองให้มีระบบอาหารที่ยั่งยืนและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในเมืองให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อรับมือกับปัญหาเรื่องความมั่นคงด้านอาหารและความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

banner - we park
logo - we park

We Park

เราป็นแพลตฟอร์มสร้างพื้นที่สีเขียว ที่เชื่อมโยงผู้คนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้มีส่วนร่วมในการออกแบบ สร้างสรรค์ และค้นหากลไกดูแลพื้นที่สาธารณะสีเขียวขนาดเล็ก ที่จะกระจายไปในพื้นที่เมืองที่หนาแน่นของกรุงเทพมหานคร

ิbanner - สวนผักคนเมืองเชียงใหม่
logo - สวนผักคนเมืองเชียงใหม่

สวนผักคนเมืองเชียงใหม่

เราเป็นพื้นที่สาธารณะและแหล่งเรียนรู้ให้คนเมือง หลังการเกิดขึ้นของสวนผักผลิตผลจากสวนได้ช่วยเป็นแหล่งอาหารแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย เป็นพื้นที่เรียนรู้การเกษตรของนักเรียนจากโรงเรียนและพื้นที่อื่นๆ ในละแวกเดียวกัน เป็นพื้นที่สาธารณะสีเขียวที่เข้าถึงง่ายของชาวเมืองเชียงใหม่