Key Takeaway
- สังคมไทยมักมองการทำแท้งด้วยทัศนคติที่ผสมผสานระหว่างความเชื่อทางศีลธรรมและวัฒนธรรม ทำให้ผู้หญิงที่ทำแท้งมักถูกตีตราและประณาม ซึ่งส่งผลกระทบทางจิตใจและสังคมอย่างมาก
- การทำแท้งคือการยุติการตั้งครรภ์โดยเจตนา มีทั้งวิธีการทำแท้งทางการแพทย์ด้วยยาและการทำแท้งด้วยวิธีศัลยกรรม เช่น การดูดมดลูกหรือขูดมดลูก เพื่อขับเนื้อเยื่อการตั้งครรภ์ออก
- กฎหมายการทำแท้งในประเทศไทยฉบับล่าสุดอนุญาตให้ทำแท้งได้โดยไม่ผิดกฎหมายในกรณีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ และในบางกรณีที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์จนถึง 20 สัปดาห์ โดยต้องดำเนินการในสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาต
- การเข้าถึงบริการทำแท้งอย่างปลอดภัยต้องผ่านสถานพยาบาลรัฐหรือเอกชนที่ได้รับอนุญาตและมีมาตรฐาน พร้อมกระบวนการให้คำปรึกษาและตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อคุ้มครองสิทธิและสุขภาพของผู้หญิง
“สิทธิในการเลือกทำแท้ง… เมื่อสังคมไทยยังคงตีตราผู้หญิง”
การทำแท้งเกิดจากเหตุผลที่หลากหลาย ทั้งความไม่พร้อม ปัญหาสุขภาพ หรือสถานการณ์ชีวิตที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ต้องการความเข้าใจ แต่ในสังคมไทย การทำแท้งยังคงถูกตีตราว่าผิดศีลธรรม ทำให้ผู้หญิงต้องเผชิญกับความเจ็บปวดทางสภาพจิตใจอย่างแสนสาหัส ผิดกับหลายประเทศที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้าถึงการทำแท้งเสรีที่ปลอดภัยได้อย่างถูกกฎหมาย เพื่อให้ผู้หญิงมีสิทธิเลือกอย่างแท้จริง การสนับสนุนความรู้ การเข้าถึงบริการที่ปลอดภัย และการลดอคติทางสังคมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ความสนใจมากๆ
การทำแท้งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องคิดอย่างรอบด้าน บทความนี้จะพามาอัปเดตการทำแท้งอย่างปลอดภัยภายใต้กรอบกฎหมายไทย พร้อมทำความเข้าใจ เพื่อลดอคติต่อผู้ที่ทำแท้ง
การทำแท้งคืออะไร มีกี่ประเภท?
การทำแท้ง คือการยุติการตั้งครรภ์อย่างจงใจ โดยนำทารกในครรภ์ออกจากมดลูกก่อนที่ทารกจะสามารถมีชีวิตรอดได้ ในทางตรงกันข้าม การแท้งธรรมชาติ หรือที่เรียกว่าการแท้งเอง คือการสิ้นสุดการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งมักมีสาเหตุมาจากความผิดปกติหรือปัญหาสุขภาพของทั้งแม่และทารก
ประเภทของการทำแท้ง หรือวิธีการทำแท้ง มีดังนี้
- การทำแท้งทางการแพทย์ (Medical Abortion) เป็นวิธีทำแท้งโดยการใช้ยา เช่น ไมเฟพริสโตน (Mifepristone) ร่วมกับโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandins) เพื่อกระตุ้นให้มดลูกหดตัวและขับเอาเนื้อเยื่อการตั้งครรภ์ออกมา โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด วิธีนี้มักใช้ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์และมีประสิทธิภาพสูง
- การทำแท้งด้วยวิธีการทางศัลยกรรม (Surgical Abortion) เป็นวิธีทำแท้งโดยการทำหัตถการทางการแพทย์โดยตรง เช่น การดูดสุญญากาศผ่านช่องคลอดเพื่อนำชิ้นส่วนการตั้งครรภ์ออกจากมดลูก วิธีนี้มักใช้เมื่อการทำแท้งด้วยยาไม่สำเร็จหรือในช่วงอายุครรภ์ที่มากขึ้น มีความรวดเร็วและทราบผลแน่นอนหลังทำ
กฎหมายการทำแท้งในประเทศไทย ฉบับอัปเดต พ.ร.บ. ล่าสุด!
พัฒนาการทางกฎหมายการทำแท้งในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 28) พ.ศ. 2564 ที่ทำให้หญิงที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้โดยไม่ถือเป็นความผิดทางอาญา และต่อมาในปี 2565 กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศแนวทางการตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกสำหรับหญิงที่มีอายุครรภ์เกิน 12 แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ เพื่อให้การทำแท้งในช่วงนี้เป็นไปตามกฎหมายและมีความปลอดภัยมากขึ้น
ตามกฎหมายการทำแท้งปัจจุบัน หญิงที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ สามารถทำแท้งลูกถูกกฎหมายได้ หากดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ส่วนหญิงที่อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้โดยไม่ผิดกฎหมายเช่นกัน แต่ต้องผ่านกระบวนการตรวจและรับคำปรึกษาจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพอื่นตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เพื่อให้ได้รับข้อมูลครบถ้วนก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ กฎหมายยังอนุญาตให้ทำแท้งได้ในกรณีที่อาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพกายหรือจิตใจของหญิงตั้งครรภ์ หรือทารกในครรภ์มีความผิดปกติรุนแรง
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการทำแท้งเสรีในไทยคือ แม้จะมีการผ่อนปรนกฎหมายให้หญิงสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ในช่วงอายุครรภ์ที่กำหนด แต่การเข้าถึงบริการยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องผ่านกระบวนการให้คำปรึกษาทางเลือกที่ไม่ตีตราหรือบังคับ และต้องดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพที่ได้รับการอบรมตามข้อบังคับแพทยสภา นอกจากนี้ ยังมีหน่วยบริการที่ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือทั้งในรูปแบบสายด่วนและคลินิกต่างๆ เพื่อสนับสนุนหญิงตั้งครรภ์ในการตัดสินใจอย่างรอบด้านและปลอดภัย การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนความพยายามในการเคารพสิทธิของผู้หญิงและลดการตีตราในสังคมไทย
การเข้าถึงบริการการทำแท้งอย่างปลอดภัย
การเข้าถึงบริการทำแท้งลูกถูกกฎหมายอย่างปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันอันตรายและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับผู้หญิง โดยบริการการทำแท้งในประเทศไทยต้องดำเนินการในสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
สถานพยาบาลที่ให้บริการทำแท้ง
สถานพยาบาลที่ให้บริการทำแท้งในประเทศไทย ได้แก่ โรงพยาบาลของรัฐที่เข้าร่วมโครงการ “คลินิกให้คำปรึกษาทางเลือก” ซึ่งมีหน่วยบริการครอบคลุมทั้ง 63 จังหวัด
โรงพยาบาลและคลินิกเอกชนที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข ตัวอย่างหน่วยบริการเครือข่ายอาสา RSA ที่ให้คำปรึกษาและบริการทำแท้งปลอดภัย สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ www.rsathai.org หรือสายด่วน 1663 ซึ่งเป็นสายด่วนปรึกษาปัญหาท้องไม่พร้อมและยุติการตั้งครรภ์
นอกจากนี้ คลินิกเวชกรรม สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน (PDA) เชียงใหม่ ให้บริการยุติการตั้งครรภ์ในอายุครรภ์ต่ำกว่า 12 สัปดาห์ โทร. 053-277-805 ถึง 6 และพักใจคลินิกที่ให้บริการทำแท้งปลอดภัยและคำปรึกษาออนไลน์ทั่วไทย
กระบวนการเข้ารับบริการ
ก่อนเข้ารับบริการทำแท้ง ควรทราบกระบวนการดังนี้
- ติดต่อสายด่วน 1663 หรือหน่วยบริการที่ได้รับอนุญาตเพื่อขอคำปรึกษาและประเมินอายุครรภ์
- เข้ารับการตรวจวินิจฉัยและประเมินอายุครรภ์โดยบุคลากรทางการแพทย์ตามข้อบังคับแพทยสภา
- รับคำปรึกษาทางเลือกอย่างละเอียด โดยไม่มีการตีตราหรือบังคับ ให้ข้อมูลครบถ้วนเพื่อประกอบการตัดสินใจ
- หากตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ จะได้รับบริการทำแท้งโดยวิธีทำแท้งทางการแพทย์หรือศัลยกรรมตามความเหมาะสม
- หลังทำแท้งได้รับการดูแลและคำแนะนำเรื่องการคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำ
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
ค่าใช้จ่ายในการทำแท้งในประเทศไทยขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลและอายุครรภ์ โดยทั่วไป
- การทำแท้งในโรงพยาบาลรัฐที่เข้าร่วมโครงการและผ่านกระบวนการตามกฎหมาย อาจได้รับบริการฟรีหรือมีค่าใช้จ่ายต่ำ
- คลินิกเอกชนจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 บาทขึ้นไป เช่น คลินิก PDA เชียงใหม่
- สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์ตามเกณฑ์ของรัฐ เช่น ผู้มีบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า อาจได้รับบริการทำแท้งฟรีในโรงพยาบาลรัฐ
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรซื้อยาทำแท้งเองหรือใช้บริการคลินิกเถื่อน เพราะเสี่ยงต่ออันตรายและผิดกฎหมาย การเข้าถึงบริการทำแท้งอย่างปลอดภัยและถูกกฎหมายจึงต้องผ่านหน่วยบริการที่ได้รับอนุญาตและมีมาตรฐาน เพื่อคุ้มครองสิทธิและสุขภาพของผู้หญิงอย่างแท้จริง
สรุป
การทำแท้งในประเทศไทยมีพัฒนาการทางกฎหมายที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัยและถูกกฎหมายการทำแท้งในช่วงอายุครรภ์ที่กำหนด แม้จะยังมีข้อจำกัดและการตีตราทางสังคมอยู่บ้าง แต่การเข้าถึงบริการทำแท้งที่ปลอดภัยและได้รับคำปรึกษาอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและสุขภาพของผู้หญิงอย่างแท้จริง การสนับสนุนสิทธิในการเลือกของผู้หญิงและการให้ความรู้แก่สังคมจะช่วยลดอคติและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำแท้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Cheewid เป็นศูนย์กลางระหว่างผู้ให้บริจาคกับผู้รับบริจาค ผ่านองค์กรช่วยเหลือสตรีและเด็ก โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจและสนับสนุนการเข้าถึงบริการการทำแท้งที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมและมีศักดิ์ศรี
References
- พญ. ศรพิณ อามาตย์ทัศน์. การแท้งบุตร แท้งลูก (Miscarriage). medparkhospital.com. Retrieved 30 May 2025.
- Praewpan Sirilurt. สธ. ประกาศ ‘ทำแท้งได้ ’ ไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ อายุครรภ์ 12 – 20 สัปดาห์ เพื่อคุ้มครองสิทธิแม่และชีวิตของทารกในครรภ์. sdgmove.com. Published 3 October 2022. Retrieved 30 May 2025.
- เจาะลึกระบบสุขภาพ. กรมอนามัย ย้ำ! ตั้งครรภ์ไม่พร้อม โทร. 1663 อย่าซื้อยาเอง-ไม่ใช้บริการคลินิกเถื่อน . hfocus.org. Published 18 July 2024. Retrieved 30 May 2025.
- ไทยรัฐ. ท้องไม่พร้อม เปิดช่องทางรับคำปรึกษา ข้อควรรู้ ก่อนยุติตั้งครรภ์ถูกกฎหมาย. thairath.co.th. Published 27 October 2022. Retrieved 30 May 2025.