เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
เส้นทางและพัฒนาการของเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทย
เส้นทางเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทย รสชาติสุดเอกลักษณ์จากไร่สู่ตลาดโลก

บทความนี้ CHEEWID จะพามรู้จักเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยกำลังเป็นที่จับตามองในตลาดสากล ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเกษตรกรไทย เจาะลึกที่มา ทิศทางอนาคตในตลาดโลกไปพร้อมกันในบทความนี้!

เที่ยวแบบไม่ต้องห่วงน้อง! 15 สถานที่ Pet Friendly ที่ไม่ควรพลาด
เที่ยวแบบไม่ต้องห่วงน้อง! 15 สถานที่ Pet Friendly ที่ไม่ควรพลาด

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักรวม 15 สถานที่ที่สาย Pet Friendly พาน้องๆ ออกเที่ยวได้แบบไร้กังวล ทั้งคาเฟ่ โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง บรรยากาศดี สะดวกสบาย ไร้กังวล

Sustainability คืออะไร? แนวทางในการจัดการทรัพยากรเพื่อความยั่งยืน
Sustainability คืออะไร? แนวทางในการจัดการทรัพยากรเพื่อความยั่งยืน

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จัก Sustainability คือแนวทางในการพัฒนาและจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายสภาพแวดล้อมและไม่สร้างผลกระทบในระยะยาว เพื่อสร้างสมดุลโลกที่ยั่งยืน

การบริจาคเตียงผู้ป่วยเพื่อให้การรักษาดีขึ้น ช่วยเหลือผู้ป่วยในยามวิกฤต
การบริจาคเตียงผู้ป่วยเพื่อให้การรักษาดีขึ้น ช่วยเหลือผู้ป่วยในยามวิกฤต

บทความนี้ื CHEEWID จะพามารู้จักการบริจาคเตียงผู้ป่วยช่วยสนับสนุนการรักษาในยามวิกฤต ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถรองรับผู้ป่วยได้มากขึ้น และลดภาระเจ้าหน้าที่ ทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่มีคุณภาพ

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทิ้งอย่างไรไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

บทความนี้ CHEEWID จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจกับเกี่ยวกับขยะอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมวิธีที่ทิ้งอย่างถูกวิธีเพื่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่ดี เพราะขยะอิเล็กทรอนิกส์มีสารพิษที่อาจทำลายดินและน้ำ การกำจัดอย่างถูกวิธีจะช่วยลดผลกระทบได้
ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทิ้งอย่างไรไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
Table of Contents

 

Key Takeaway

  • ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) คือ ซากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่หมดอายุการใช้งาน ซึ่งมีสารพิษอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
  • ตัวอย่างประเภทของขยะอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และแบตเตอรี่
  • ผลกระทบของขยะอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ การปนเปื้อนสารพิษในดินและน้ำ ซึ่งอาจทำลายระบบนิเวศ สุขภาพมนุษย์ และเพิ่มความเสี่ยงจากโรคมะเร็งและพิษตะกั่ว
  • วิธีกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ การรีไซเคิลผ่านโรงงานที่มีเทคโนโลยีเหมาะสม การบริจาคอุปกรณ์ที่ยังใช้งานได้ และการนำไปกำจัดที่สถานที่ที่มีการจัดการอย่างถูกต้อง

 

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) คือปัญหาที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน การทิ้งหรือกำจัดขยะเหล่านี้ไม่ถูกวิธีสามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพได้ ดังนั้นการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกต้องและปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การกำจัดขยะนี้เป็นไปอย่างยั่งยืน ไม่ส่งผลเสียต่อโลกและผู้คนในระยะยาว

 

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ คืออะไร? มีอะไรบ้าง?

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ คืออะไร? มีอะไรบ้าง?

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Waste หรือ E-Waste) หรือที่เรียกว่า WEEE (Waste from Electrical and Electronic Equipment) คือ ซากเครื่องใช้หรืออุปกรณ์ที่ใช้กระแสไฟฟ้าหรือสนามแม่เหล็กในการทำงาน ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐาน (Off-spec) หรือหมดอายุการใช้งานและล้าสมัย

อุปกรณ์ขยะอิเล็กทรอนิกส์มักประกอบด้วยชิ้นส่วนที่ไม่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้และมีสารประกอบที่เป็นพิษ เมื่ออุปกรณ์เหล่านี้ถูกทิ้งหรือส่งต่อไปยังร้านรับซื้อของเก่าหรือรถรับซื้อของเก่า ชิ้นส่วนจะถูกคัดแยกและนำไปกำจัดต่อไป ซึ่งขยะอิเล็กทรอนิกส์มีอะไรบ้าง สามารถแบ่งประเภทของขยะเหล่านี้ออกตามลักษณะของอุปกรณ์ ดังนี้

  • ขยะอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ เตาอบไมโครเวฟ และโทรทัศน์
  • ขยะอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต เครื่องคิดเลข และเครื่องพิมพ์
  • อุปกรณ์โทรคมนาคม เช่น โทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์เครือข่าย
  • เครื่องมือทางการแพทย์ เช่น เครื่องเอกซเรย์ เครื่องวัดชีพจร และอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ
  • ขยะอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เช่น ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่ หลอดไฟ และแผงวงจร

ผลกระทบของขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

ผลกระทบของขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ 

ขยะอิเล็กทรอนิกส์มีผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ ดังนี้

ผลกระทบและอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

  • การกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ด้วยวิธีฝังกลบอาจทำให้สารพิษปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม โดยสารเหล่านี้จะตกค้างในดินและแหล่งน้ำ จากนั้นแทรกซึมเข้าสู่ระบบนิเวศและห่วงโซ่อาหาร
  • การกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ด้วยวิธีการเผาอาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นไหม้และปล่อยก๊าซอันตราย เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ สารไดออกซิน และฟูแรน ซึ่งเป็นสารที่ก่อมะเร็ง
  • ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสารทำความเย็นจากซาก E-Waste สามารถทำลายชั้นโอโซนและมีส่วนในการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน 

ผลกระทบและอันตรายต่อสุขภาพ

ขยะอิเล็กทรอนิกส์มีสารพิษที่อันตราย ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ โดยสารเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายและทำลายระบบต่างๆ เช่น

  • ตะกั่วสามารถทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ และหากสะสมในร่างกายอาจก่อให้เกิดโรคพิษตะกั่ว ซึ่งมีพิษทำลายระบบประสาท ระบบเลือด การทำงานของไต และระบบสืบพันธุ์
  • สารปรอทสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง รวมถึงอาการอาเจียน ท้องร่วง และความจำเสื่อม อีกทั้งยังทำให้หัวใจเต้นอ่อนลง และมีผลกระทบต่อระบบประสาท สมอง ไต และปอด
  • แคดเมียมสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง อาการท้องร่วง และอาเจียน รวมถึงส่งผลกระทบต่อไต กระดูก และปอด
  • โครเมียมเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง
  • สารทำความเย็นสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจและตา รวมถึงอาการปวดศีรษะ และหัวใจเต้นเร็ว
  • สารหน่วงไฟสามารถมีผลกระทบต่อฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตและพัฒนาการ รวมถึงระบบสืบพันธุ์ และอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง

 

สถานการณ์ขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย

สถานการณ์ขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากปริมาณ E-Waste ในไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี หากไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี ภายใน 5 – 10 ปี ประเทศไทยอาจเผชิญกับ “วิกฤตขยะอิเล็กทรอนิกส์” ที่ล้นเมือง ในขณะที่อัตราการรีไซเคิลในประเทศไทยยังคงต่ำเพียงแค่ 15% เท่านั้น

การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยมีแนวทางในการนำกฎหมายและแนวคิดต่างๆ เช่น หลัก 3R หลัก EPR และแรงจูงใจทางเศรษฐกิจมาบูรณาการใช้งานเพื่อแก้ไขปัญหา ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ยังไม่ได้บังคับใช้ หากมีผลบังคับใช้ จะช่วยปกป้องประชาชนและสิ่งแวดล้อมจากอันตรายของโลหะหนักได้

 

แนวทางกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธีและปลอดภัย

แนวทางกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธีและปลอดภัย

มีวิธีกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์และแนวทางที่เลือกทำได้หลายวิธี เพื่อให้การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัย ดังนี้

ลดปริมาณการใช้

ลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยเริ่มต้นจากการลดการบริโภคตั้งแต่ต้นทาง ควรหลีกเลี่ยงการซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่จำเป็น โดยก่อนตัดสินใจซื้อควรพิจารณาความจำเป็นและการใช้งานของผลิตภัณฑ์นั้นๆ อย่างรอบคอบ

สำหรับการซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความทนทาน เพื่อยืดอายุการใช้งานและลดความต้องการในการทิ้งขยะ

นำมาใช้ซ้ำ

ซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ที่ชำรุดเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยการซ่อมแซมให้ผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ประโยชน์ได้เหมือนเดิม แทนที่จะทิ้งไป

บริจาคขยะอิเล็กทรอนิกส์

บริจาคหรือส่งต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว แต่ยังสามารถใช้งานได้ เป็นวิธีที่ช่วยลดขยะและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

หากอุปกรณ์ยังสามารถใช้งานได้ดีและไม่มีปัญหา เราสามารถบริจาคให้กับบุคคลที่ต้องการหรือองค์กรที่มีการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานต่อไป หรือรีไซเคิลอย่างเหมาะสม

 

 

รีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์

หากเรามีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เสียแล้ว ไม่จำเป็นต้องทิ้งทันที แต่สามารถพิจารณานำไปรีไซเคิลที่โรงงานที่มีเทคโนโลยีและเครื่องมือที่เหมาะสม สำหรับการแยกชิ้นส่วน รีไซเคิล และกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้การรีไซเคิลยังช่วยลดปริมาณขยะและรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้ยั่งยืน

คัดแยกจากขยะทั่วไป

การคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นสิ่งสำคัญ เราควรแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ออกจากขยะทั่วไป และนำไปทิ้งในสถานที่ที่มีการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถนำไปกำจัดอย่างปลอดภัย โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ไม่แกะหรือแยกชิ้นส่วนขยะอิเล็กทรอนิกส์

ไม่ควรแกะหรือแยกชิ้นส่วนซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงแบตเตอรี่มือถือและแบตเตอรี่รถยนต์ เพราะอาจทำให้สารอันตรายรั่วไหลออกมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้

สรุป

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) คือ ซากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่หมดอายุการใช้งาน เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ หรือทีวี ขยะเหล่านี้มีสารพิษที่อันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งอาจทำลายระบบประสาท ระบบเลือด และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย หากกำจัดไม่ถูกวิธี ตอนนี้ในประเทศไทยปริมาณ E-Waste มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี แต่การรีไซเคิลยังคงต่ำเพียง 15% ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

โดยหลายองค์กรการกุศลมีการแก้ไขปัญหาผ่านการเปิดรับบริจาคอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ยังใช้งานได้ เพื่อนำไปซ่อมแซมและแจกจ่ายให้ผู้ด้อยโอกาส หรือรีไซเคิลอย่างถูกวิธี หากต้องการบริจาคหรือขายขยะอิเล็กทรอนิกส์ สามารถค้นหาองค์กรหรือมูลนิธิที่รับได้ผ่านทาง Cheewid เช่น ฮีโร่รีไซเคิล by Green2Get Wake Up Waste Recycle Day Thailand และ WASTE BUY Delivery เป็นต้น

องค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

banner-WASTE BUY Delivery

WASTE BUY Delivery

WASTE BUY Delivery ช่วยตอบสนองปัญหากลุ่มคนบางส่วนที่ไม่สามารถเข้าถึงจุดจำหน่ายขยะได้ เนื่องจากมีการคัดแยกแต่ไม่มีที่เก็บ และไม่ทราบสถานที่รับซื้อขยะ สนับสนุนให้เปลี่ยนขยะในบ้านให้กลายเป็นเงิน เปลี่ยนของเสียเป็นของดี เปลี่ยนรายจ่ายเป็นรายรับ เพื่อสร้างสิ่งที่ดีให้กับชุมชนและเมือง

banner-Recycle Day Thailand
logo-Recycle Day Thailand

Recycle Day Thailand

Recycle Day Thailand เป็นระบบเรียกรถจัดการขยะแบบครบวงจรที่มีคู่มือสอนการแยกขยะอย่างง่าย มีแอปพลิเคชั่นให้เรากดเรียกรถมารับขยะถึงบ้าน นอกจากนี้ยังมีจุดทิ้งขยะใกล้ๆ ให้เราไปส่ง ในแอปพลิเคชั่นจะบันทึกว่าเราแยกขยะไปแล้วเท่าไหร่ ซึ่งขยะเหล่านั้นได้พอยต์สำหรับแลกของรางวัลหรือได้เงินคืน

banner-Wake Up Waste
logo-Wake Up Waste

Wake Up Waste

Wake Up Waste คือแพลตฟอร์มบริหารจัดการซื้อขายขยะรีไซเคิล และรถบีบอัดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง ที่จะช่วยให้กระบวนการตั้งแต่ต้นทางไปจนสู่การรีไซเคิลครบวงจร ในแอปพลิเคชั่น Wake Up Waste ร้อมออกใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ และสรุปรายงานภาพรวม (Summary Report) รวมถึงสามารถสะสมคะแนนเพื่อแลกแต้มเป็นเงินหรือเป็นสินค้าได้

ฮีโร่รีไซเคิล by Green2Get

ฮีโร่รีไซเคิล by Green2Get เป็นแอปพลิเคชั่นที่ตอบโจทย์ทุกด้านของธุรกิจรีไซเคิล ตั้งแต่การเชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขายวัสดุประเภทต่างๆ เข้าด้วยกัน และเชื่อมโยงกับโรงงานรีไซเคิลทุกประเภท ตั้งแต่ ซาเล้งรายย่อย จนถึง โรงงานรีไซเคิล ฮีโร่รีไซเคิล จะเชื่อมโยงทุกคนเข้าด้วยกันด้วยระบบที่สามารถกำหนดได้เอง เป็นศูนย์รวมเครื่องมือประกอบธุรกิจ