เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จัก ปัญหาทางเท้าที่คนไทยต้องเจอ ทั้งฟุตบาทไม่ทนทาน รถจักรยานยนต์ ร้านค้าบนทางเท้า การออกแบบที่ไม่คิดถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ มาสร้างทางเท้าให้ดี เพื่อชีวิตที่ดีกัน!

ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข
ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักปัญหาว่างงานในมิติทางสังคมและเศรษฐกิจส่งผลกระทบในวงกว้าง ควรมีทางออกเพื่อเสริมพลังและสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยกลับมายืนหยัดและมีชีวิตที่ดีได้อย่างเข้มแข็ง

Key Takeaway นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คือโครงการจากรัฐบาลที่กำหนดให้ประชาชนเดินทางในเส้นทางรถไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการได้ในราคาเดียวเพียง 20 บาทตลอดสาย เป้าหมายของโครงการคือสร้างความเท่าเทียม ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสให้คนเมืองทุกกลุ่มเข้าถึงการเดินทางอย่างสะดวก ลดปัญหารถติดและมลพิษ ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาชุมชนเมือง โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของรัฐบาล กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการผลักดันจากผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่มีวิสัยทัศน์ด้านระบบขนส่งมวลชน เชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้าในราคาคงที่ ช่วยให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ความท้าทายของนโยบายนี้ คือความยั่งยืนทางการเงิน ที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลชดเชยผู้ประกอบการ และปัญหาการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า ทุกวันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าทีก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เพราะค่าโดยสารที่สะสมไปแต่ละวันไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่ลองคิดดูว่า… ถ้าเราเดินทางไกลแค่ไหนก็จ่ายเพียง 20 บาท จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากขนาดไหน? ประชาชนได้ประโยชน์เต็มๆ! บทความนี้พามาเจาะลึกนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน เรื่องนี้จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันของผู้คน ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา หรือแม่ค้าพ่อค้า ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางทุกวันแน่นอน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คืออะไร? โครงการค่าโดยสาร 20 บาท คือความตั้งใจง่ายๆ ที่อยากให้การเดินทางสาธารณะเป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงาน หรือผู้สูงอายุ เรื่องนี้เริ่มต้นจากคำถามว่า “ทำไมคนต้องจ่ายค่าโดยสารแพงหลายระดับ บางทีแค่ไปทำงานหรือไปเรียนใกล้ๆ ก็ต้องจ่ายราคาเต็ม?” แนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวจึงเกิดขึ้น เพื่อช่วยลดภาระและทำให้ทุกคนได้รับสิทธิ์เดินทางในราคาเท่ากัน ในปี 2567 ได้เริ่มทำโครงการนำร่องในสายสีแดงและสายสีม่วงแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากเลย ส่วนเรื่องการหาเงินมาจ่ายนั้น รัฐบาลไม่ได้แค่รับภาระทั้งหมดเอง แต่มีการแบ่งงบและจัดสรรเงินมาใช้ชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ให้บริการยังสามารถดำเนินธุรกิจได้และไม่ขาดทุน กลไกนี้ช่วยให้ความมั่นคงในการเดินรถยังดำเนินไปได้ โดยรัฐจะพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้บริการจริงและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนเป็นธรรมและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจว่าจะทำให้คมนาคมสาธารณะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเดินทางและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวที่คนทุกวัยทุกกลุ่มเข้าถึงได้จริง ทำไมนโยบายนี้ถึงสำคัญกับคนเมือง? ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกวัน การเดินทางในเมืองใหญ่จึงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน การมีนโยบายที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางจึงเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามองและหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาได้จริง ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดค่าใช้จ่ายรายวันได้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนและคนที่ต้องเดินทางประจำ การกำหนดราคาเดียวช่วยให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเดินทางไกล เพิ่มโอกาสในการเดินทางและใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นโยบายยังช่วยกระตุ้นให้เกิดชุมชนและธุรกิจใหม่ในเขตชานเมือง เพิ่มความสะดวกและคุณภาพชีวิตในเมืองอย่างยั่งยืน ลดปัญหารถติดและมลพิษ นโยบายนี้ไม่ได้แค่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เมื่อประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ปริมาณรถติดก็ลดลงตามไปด้วย ช่วยลดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน การใช้รถไฟฟ้ายังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ที่สำคัญคือทำให้เมืองน่าอยู่ สะอาด และเดินทางได้คล่องตัวมากขึ้นสำหรับทุกคน สร้างเมืองที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน นโยบายนี้ไม่ได้แค่ทำให้ค่าโดยสารถูกลงเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างเมืองที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นักเรียน หรือผู้สูงอายุ ช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้า สร้างระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมและเป็นธรรม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการเดินทาง และทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นคนทุกกลุ่ม เป้าหมายของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท นโยบายนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยลดภาระค่าเดินทางของคนในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน พร้อมส่งเสริมให้คนใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น สร้างความสะดวกและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ความเท่าเทียมในการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยสร้างความเท่าเทียมในการเดินทาง เพราะไม่ว่าคนจะขึ้นรถไฟฟ้ากี่สายหรือต้องเดินทางไกลเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหนก็จ่ายค่าโดยสารราคาเดียว ทำให้ทุกคนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือรัฐบาลช่วยชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรักษาคุณภาพบริการและทำให้นโยบายนี้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ นโยบายนี้ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพราะราคาค่าโดยสารที่ถูกลงทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่าย ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยังร่วมมือกับกรุงเทพฯ ในการพัฒนาระบบตั๋วร่วมและฟีดเดอร์ระบบขนส่ง เช่น รถเมล์ที่เชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งานระบบได้ครบวงจรขึ้น แก้ปัญหารถติด นโยบายนี้เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ได้ เมื่อค่าโดยสารถูกลง ผู้คนจะหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น ลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวที่วิ่งบนถนนในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน นอกจากจะช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร ยังช่วยลดเวลาการเดินทางและความเครียดของผู้ใช้ถนนด้วย ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบขนส่งของเมือง ทำให้การเดินทางสะดวกและราบรื่นขึ้นโดยรวมในระยะยาว เชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมือง นโยบายนี้เป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจและชุมชนเมืองเติบโตเป็นระบบ การลดค่าเดินทางช่วยเพิ่มกำลังซื้อและโอกาสทางธุรกิจในชุมชนต่างๆ เนื่องจากผู้คนสามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้สะดวกและบ่อยขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าหลายสายยังช่วยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานและสินค้ารวดเร็ว ทำให้ชุมชนต่างๆ มีโอกาสพัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนและลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เบื้องหลังการผลักดันนโยบาย โครงการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นผลลัพธ์ของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลและกรุงเทพฯ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมทำหน้าที่วางแนวนโยบายและจัดสรรงบประมาณ ในขณะที่กรุงเทพฯ นำโดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผลักดันให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น นโยบายรถไฟฟ้ากับชัชชาติในฐานะผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เป็นหัวใจของชีวิตคนเมือง ร่วมกับการส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและมลพิษ พร้อมผลักดันให้โครงการได้ผลจริงในเชิงปฏิบัติ เช่น การเชื่อมโยงเส้นทางและเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและติดตามผล ทำให้นโยบายนี้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองจริงๆ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท… ความท้าทายและคำถามที่ยังคงอยู่ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้จะได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยลดภาระค่าโดยสารของประชาชน แต่ก็ยังเผชิญความท้าทายด้านความยั่งยืนทางการเงินหลักๆ เพราะรัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ แต่จากการศึกษาพบว่า… ต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าสายหลักอยู่ที่ประมาณ 11 บาทต่อเที่ยว ทำให้นโยบายนี้เป็นไปได้ถ้าบริหารจัดการดีและมีแหล่งเงินทุนสนับสนุนที่มั่นคง เช่น การใช้รายได้ภาษีจากภาคขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการบริหารจัดการรายได้และผลประโยชน์ของภาคเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนและการดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ปัญหานี้ยังเป็นอุปสรรคที่ต้องเจรจาและหาข้อตกลงร่วมที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทางเลือกและข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนานโยบายในอนาคต ได้แก่ การผลักดันกฎหมายตั๋วร่วมเพื่อให้ใช้บริการได้ด้วยบัตรเดียวทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทให้เชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะมีความมั่นคงและเข้าถึงได้ง่ายในระยะยาว สรุป นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนเมือง ทำให้การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องง่ายและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ช่วยเชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมืองอย่างทั่วถึง พร้อมแก้ไขปัญหารถติดและมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตคนเมืองอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกรุงเทพฯ และภาคประชาสังคม ซึ่งบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วมและติดตามนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคง FAQ – คำถามที่พบบ่อย โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทครอบคลุมทุกสายไหม? โครงการนี้ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สายสีน้ำเงิน (MRT) สายสีเหลือง สายสีชมพู และ Airport Rail Link (ARL) รวมรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงที่ทำไปแล้วทั้งหมด 8 สาย รวม 13 เส้นทางและกว่า 194 สถานีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางในราคาคงที่เพียง 20 บาทตลอดสาย แม้ต้องเปลี่ยนสายก็จะไม่เกินราคานี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ส่งผลต่อปัญหารถติดในกรุงเทพฯ อย่างไร? นโยบายนี้ช่วยลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เพราะราคาค่าโดยสารถูกลง คุณภาพชีวิตและการเดินทางจึงดีขึ้น ลดความหนาแน่นของการจราจรในช่วงเร่งด่วนได้ ประชาชนมีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายนี้ได้อย่างไร? ประชาชนสามารถร่วมลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และใช้บัตร EMV Contactless หรือบัตร Rabbit แบบ ABT เพื่อยืนยันตัวตน ร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการของระบบขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้นต่อไป
อนาคตเข้าถึงได้! นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท โครงการเปลี่ยนชีวิตคนเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามาเจาะลึกกับนโยบายรถไฟฟ้า20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน

ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน
ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักจากเสียงประชาชนสู่การแก้ไขจริง! Traffy Fondue คือระบบร้องเรียนของ กทม. นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ไขปัญหา เพิ่มคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวกรุงให้ดีขึ้น

เจาะลึกถึงปัญหาภาวะโลกร้อนและวิธีแก้ไข เพื่อทุกชีวิตที่ดีขึ้น

ปัจจุบันปัญหาภาวะโลกร้อน ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเรากันทุกคน ดังนั้น CHEEWID จึงนำสาเหตุและวิธีแก้ปัญหาโลกร้อนมาให้ศึกษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน
เจาะลึกถึงปัญหาภาวะโลกร้อนและวิธีแก้ไข เพื่อทุกชีวิตที่ดีขึ้น สาเหตุ ที่ เกิด ภาวะ โลก ร้อน
Table of Contents

ปัจจุบันปัญหาภาวะโลกร้อน เป็นปัญหาที่ได้รับการกล่าวถึงบ่อยที่สุด ซึ่งผลกระทบของภาวะโลกร้อนมีอิทธิพลสูงมากต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และการใช้ชีวิตของเรา  Cheewid จึงอยากมานำเสนอสาเหตุที่แท้จริงของการทำให้เกิดปัญหา รวมไปถึงวิธีแก้ปัญหาโลกร้อนมาให้ศึกษากัน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกชีวิต 

ปัญหาภาวะโลกร้อน คืออะไร ปัจจัยที่ทำให้เกิด โลกร้อนและ ก๊าซเรือนกระจก

ปัญหาภาวะโลกร้อน คืออะไร

ปัญหาภาวะโลกร้อน คือปัญหาที่มาจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของพื้นผิวโลกในระยะยาว จนทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง โดยส่วนใหญ่ ปัญหาโลกร้อนเกิดมาจากการกระทำของมนุษย์ที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก อันเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้โลกไม่สามารถระบายความร้อนที่ได้รับจากรังสีดวงอาทิตย์ออกไปได้อย่างปกติ

ปัจจัยที่ทำให้เกิด ก๊าซเรือนกระจก

ก๊าซเรือนกระจกเกิดมาจากการทำกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ รวมไปถึงกระบวนการทางธรรมชาติ ซึ่งมีปัจจัยบางประการ ที่ทำให้เกิดการปลดปล่อย และทำให้เกิดการสะสมของก๊าซเรือนกระจก โดยเป็นสาเหตุที่เกิดภาวะโลกร้อนได้ ดังนี้

1. การเผาไหม้เชื้อเพลิง

การเผาไหม้เชื้อเพลิง คือปฏิกิริยาเคมีระหว่างเชื้อเพลิง และออกซิเจน โดยจะมีการให้พลังความร้อน และแสงสว่างออกมา อาทิ การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานในโรงงาน ภาคการขนส่ง หรือเพื่อนำมาผลิตไฟฟ้า จนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกชนิด คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)

2. การตัดไม้ทำลายป่า

การตัดไม้ทำลายป่า เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากไม้ และต้องการอาณาเขต เพื่อขยายพื้นที่ของตัวเมือง หรือเพิ่มพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งการตัดไม้ทำลายป่า ส่งผลให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกสู่ชั้นบรรยากาศ จึงเป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก

เกษตรกรรมที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก

3. เกษตรกรรม

การใช้ดินเพื่อเพาะปลูกพืชต่างๆ รวมไปถึงการประมง การเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ โดยเฉพาะการเพาะปลูกพืชต่างๆ ก็จะมีการใช้ปุ๋ยมูลสัตว์ที่ย่อยสลาย เพื่อให้พืชเจริญเติบโต เหตุผลการทำเกษตรกรรมก็เพื่อดำรงชีพ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) และก๊าซมีเทน (CH4)

4. กระบวนการทางอุตสาหกรรม

การใช้เครื่องจักร และสารสังเคราะห์ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้ามาเป็นตัวช่วยในการผลิต ประกอบไปด้วย คาร์บอน (C) คลอรีน (CI) และฟลูออรีน (F) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่นำมาใช้ในกระบวนการทางอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความเย็น พลาสติก สารดับเพลิง โฟม กระป๋องสเปรย์ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้เกิดก๊าซคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFCs)

การจัดการของเสียที่ไม่เหมาะสม สาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน

5. การจัดการของเสียที่ไม่เหมาะสม

การจัดการของเสีย คือการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพ หรือทางเคมีของ ของเสีย รวมไปถึงสารพิษที่มีการเจือปนอยู่ในของเสีย เพื่อต้องการลดปริมาณให้น้อยลง และหมดความเป็นพิษ หรือมีความเป็นพิษน้อยลง จะต้องกำจัดอย่างเหมาะสมให้อยู่ในลักษณะที่ไม่สามารถแสดงความเป็นพิษออกมาได้ หากมีการจัดการของเสียที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะก่อให้เกิดอันตราย และจะทำให้เกิดก๊าซมีเทน (CH4 ) สาเหตุการเกิดภาวะโลกร้อน

6. การใช้พลังงานในที่อยู่อาศัย และเชิงพาณิชย์

การใช้พลังงานที่อยู่อาศัย และเชิงพาณิชย์ คือ การใช้พลังงานต่างๆ สำหรับการดำรงชีวิตประจำวัน เพื่อความสะดวกสบาย เพื่อการเดินทาง อาทิ การใช้เครื่องปรับอากาศในบ้าน หรือในสำนักงาน เป็นต้น ซึ่งการใช้พลังงานดังกล่าว จะทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกชนิดใดไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (HFCs) ซึ่งเป็นก๊าซที่นำมาใช้ประโยชน์เป็นตัวทำความเย็น แม้จะถูกปล่อยมาในปริมาณที่น้อย แต่สร้างผลกระทบที่สูงมาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก

วิธีลดก๊าซเรือนกระจก แก้ปัญหาภาวะโลกร้อน

วิธีลดก๊าซเรือนกระจก แก้ปัญหาภาวะโลกร้อน

เมื่อได้ทราบถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก สาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อนกันไปแล้ว บทความนี้ก็ไม่พลาดที่จะรวบรวมวิธีลดก๊าซเรือนกระจก ชวนทุกคนมาแก้ไขปัญหาโลกร้อนได้ดังนี้

  • การเปลี่ยนไปสู่แหล่งพลังงานหมุนเวียน

เปลี่ยนแหล่งพลังงานในบ้าน สู่แหล่งพลังงานหมุนเวียน ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด โดยใช้พลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ลม พลังน้ำ ชีวมวล หรือติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา เพื่อผลิตพลังงานให้บ้าน ก็จะลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในเวลาต่อมา

  • เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอุตสาหกรรม อาคาร และการขนส่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำได้ด้วยฉนวนที่ดีขึ้น เช่น เลือกใช้ก๊าซธรรมชาติแทนถ่านหิน ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ หรือการใช้รถร่วมกัน เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และลดการเดินทางด้วยเครื่องบินน้อยลง เนื่องจากเครื่องบินจะมีการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างมหาศาล และมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมาก เปลี่ยนมาเป็นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าหรือนัดพบคุยผ่านทางระบบออนไลน์ เป็นต้น

  • การทำเกษตรอินทรีย์

เกษตรกรรม เป็นบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนมากที่สุด โดยเฉพาะในดินจะเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจก ดังนั้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการทำเกษตรอินทรีย์ หรือการส่งเสริมเทคนิคการทำฟาร์มแบบยั่งยืน จะส่งผลให้สามารถกักเก็บก๊าซคาร์บอนเป็นอย่างดี 

  • สนับสนุนการปลูกป่า

การรักษาและฟื้นฟูสภาพป่าที่เสื่อมโทรม ซึ่งการปลูกป่าสามารถเพิ่มอากาศสะอาดและช่วยดูดซับก๊าซ CO2 ที่เป็นสาเหตุของการภาวะโลกร้อนได้ได้ดีด้วย เนื่องจากต้นไม้มีการดูดซับเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศมาเป็นอาหารต้นไม้ ซึ่งต้นไม้จำนวน 1 ต้น จะมีการเก็บก๊าซคาร์บอนอยู่ในเนื้อไม้ประมาณ 50% กันเลยทีเดียว

  • ปรับปรุงการจัดการของเสีย

การใช้ระบบการจัดการของเสียที่มีประสิทธิภาพ เริ่มต้นด้วยการให้ความสำคัญกับการรีไซเคิล การทำปุ๋ยหมัก และการลดการเกิดของเสีย ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนในขั้นตอนของการฝังกลบได้เป็นอย่างดี ลดระยะสำหรับการขนส่งขยะที่ต้องใช้เชื้อเพลิง นอกจากนี้ก็ยังสามารถแยกขยะอินทรีย์ ออกจากขยะประเภทอื่นๆ หรือหากนำเอาเศษขยะอินทรีย์ไปทำปุ๋ยสำหรับต้นไม้ เป็นการแก้ไขปัญหาแบบหมุนเวียนและได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น

  • เปลี่ยนยานพาหนะในการเดินทาง

การใช้ระบบขนส่งสาธารณะ การปั่นจักรยาน ขับรถยนต์ไฟฟ้า หรือการเดินเท้า แทนการขับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน  สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสามารถลดการปล่อยมลพิษ ได้เป็นอย่างดี 

  • สร้างความตระหนักรู้และให้ความรู้

เป็นกระบอกเสียง รวมถึงการชักชวนผู้อื่นให้มาร่วมลงมือด้วย เริ่มจากสร้างความตระหนักรู้ และให้ความรู้แก่คนทั่วไป เกี่ยวกับความสำคัญของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อาทิ การลดขยะจากอาหาร การลดพลังงาน รวมไปถึงการสนับสนุนแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน เพื่อเป็นการร่วมสร้างจิตสำนึกทางสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้น เรียกได้ว่าเป็นวิธีลดปัญหาโลกร้อนที่รวดเร็วที่สุด และมีประสิทธิภาพที่สุดในการเปลี่ยนแปลง

เราจะสามารถหยุดภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของโลกได้จริงหรือ

เราจะสามารถหยุดภาวะโลกร้อนได้จริงหรือ

ปัญหาโลกร้อนเกิดจากการกระทำต่างๆ ของมนุษย์ ที่เพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจกในอากาศมากจนเกินไป การที่โลกกลับมาอยู่ในภาวะสมดุลก็จะต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานกว่า ต้องอาศัยความพยายามร่วมกันจากบุคคล ชุมชน รัฐบาล และภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเปลี่ยนไปใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน การส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้แนวทางปฏิบัติทางการเกษตรแบบยั่งยืน การปกป้องป่า และการดำเนินนโยบายด้านสภาพอากาศ ด้วยการใช้มาตรการเชิงรุกและสร้างความตระหนัก เราสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและทำงานเพื่อลดภาวะโลกร้อนได้ 

สรุป

ปัญหาภาวะโลกร้อน ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากโลกไม่สามารถระบายความร้อน ที่ได้รับจากรังสีดวงอาทิตย์ได้อย่างปกติ จึงส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้น ซึ่งในประเทศไทยก็เป็นปัญหามาอย่างยาวนาน สำหรับการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนเริ่มได้จากตัวเรา โดยการนำวิธีลดก๊าซเรือนกระจกแก้ไขปัญหาโลกร้อนในเบื้องต้นนำปรับไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่อย่างไรก็ตามแล้ว การลดปัญหาภาวะโลกร้อนก็จะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง Cheewid รวบรวมองค์กรที่มีวัตถุประสงค์ของการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน ไม่ว่าจะเป็นทางน้ำ หรือทางบก แบบไม่แสวงหาผลประโยชน์ 

องค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

banner - feed thailand
logo - feed thailand

มูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ประเทศไทย)

เราส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมด้านอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยและกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยกระบวนการสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

banner - scholars of sustenance
logo - scholar of sustenance

Scholars of Sustenance Foundation

มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ ต้องการสร้างความเท่าเทียมด้านอาหาร เรามีภารกิจหลักในการจัดการอาหารส่วนเกิน (surplus food) ด้วยการอาสารับอาหารส่วนเกินที่คุณภาพดีนำไปแจกให้กับกลุ่มผู้เปราะบางในสังคม

logo - green style

Green Style

เราส่งเสริมการลดโลกร้อนอย่างเป็นรูปธรรมด้วยความเชี่ยวชาญในฐานะที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับรองให้เป็นผู้ตรวจประเมินสำนักงานสีเขียว และที่ปรึกษาการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้องค์กร