เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จัก ปัญหาทางเท้าที่คนไทยต้องเจอ ทั้งฟุตบาทไม่ทนทาน รถจักรยานยนต์ ร้านค้าบนทางเท้า การออกแบบที่ไม่คิดถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ มาสร้างทางเท้าให้ดี เพื่อชีวิตที่ดีกัน!

ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข
ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักปัญหาว่างงานในมิติทางสังคมและเศรษฐกิจส่งผลกระทบในวงกว้าง ควรมีทางออกเพื่อเสริมพลังและสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยกลับมายืนหยัดและมีชีวิตที่ดีได้อย่างเข้มแข็ง

Key Takeaway นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คือโครงการจากรัฐบาลที่กำหนดให้ประชาชนเดินทางในเส้นทางรถไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการได้ในราคาเดียวเพียง 20 บาทตลอดสาย เป้าหมายของโครงการคือสร้างความเท่าเทียม ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสให้คนเมืองทุกกลุ่มเข้าถึงการเดินทางอย่างสะดวก ลดปัญหารถติดและมลพิษ ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาชุมชนเมือง โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของรัฐบาล กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการผลักดันจากผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่มีวิสัยทัศน์ด้านระบบขนส่งมวลชน เชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้าในราคาคงที่ ช่วยให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ความท้าทายของนโยบายนี้ คือความยั่งยืนทางการเงิน ที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลชดเชยผู้ประกอบการ และปัญหาการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า ทุกวันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าทีก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เพราะค่าโดยสารที่สะสมไปแต่ละวันไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่ลองคิดดูว่า… ถ้าเราเดินทางไกลแค่ไหนก็จ่ายเพียง 20 บาท จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากขนาดไหน? ประชาชนได้ประโยชน์เต็มๆ! บทความนี้พามาเจาะลึกนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน เรื่องนี้จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันของผู้คน ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา หรือแม่ค้าพ่อค้า ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางทุกวันแน่นอน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คืออะไร? โครงการค่าโดยสาร 20 บาท คือความตั้งใจง่ายๆ ที่อยากให้การเดินทางสาธารณะเป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงาน หรือผู้สูงอายุ เรื่องนี้เริ่มต้นจากคำถามว่า “ทำไมคนต้องจ่ายค่าโดยสารแพงหลายระดับ บางทีแค่ไปทำงานหรือไปเรียนใกล้ๆ ก็ต้องจ่ายราคาเต็ม?” แนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวจึงเกิดขึ้น เพื่อช่วยลดภาระและทำให้ทุกคนได้รับสิทธิ์เดินทางในราคาเท่ากัน ในปี 2567 ได้เริ่มทำโครงการนำร่องในสายสีแดงและสายสีม่วงแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากเลย ส่วนเรื่องการหาเงินมาจ่ายนั้น รัฐบาลไม่ได้แค่รับภาระทั้งหมดเอง แต่มีการแบ่งงบและจัดสรรเงินมาใช้ชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ให้บริการยังสามารถดำเนินธุรกิจได้และไม่ขาดทุน กลไกนี้ช่วยให้ความมั่นคงในการเดินรถยังดำเนินไปได้ โดยรัฐจะพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้บริการจริงและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนเป็นธรรมและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจว่าจะทำให้คมนาคมสาธารณะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเดินทางและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวที่คนทุกวัยทุกกลุ่มเข้าถึงได้จริง ทำไมนโยบายนี้ถึงสำคัญกับคนเมือง? ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกวัน การเดินทางในเมืองใหญ่จึงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน การมีนโยบายที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางจึงเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามองและหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาได้จริง ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดค่าใช้จ่ายรายวันได้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนและคนที่ต้องเดินทางประจำ การกำหนดราคาเดียวช่วยให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเดินทางไกล เพิ่มโอกาสในการเดินทางและใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นโยบายยังช่วยกระตุ้นให้เกิดชุมชนและธุรกิจใหม่ในเขตชานเมือง เพิ่มความสะดวกและคุณภาพชีวิตในเมืองอย่างยั่งยืน ลดปัญหารถติดและมลพิษ นโยบายนี้ไม่ได้แค่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เมื่อประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ปริมาณรถติดก็ลดลงตามไปด้วย ช่วยลดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน การใช้รถไฟฟ้ายังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ที่สำคัญคือทำให้เมืองน่าอยู่ สะอาด และเดินทางได้คล่องตัวมากขึ้นสำหรับทุกคน สร้างเมืองที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน นโยบายนี้ไม่ได้แค่ทำให้ค่าโดยสารถูกลงเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างเมืองที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นักเรียน หรือผู้สูงอายุ ช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้า สร้างระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมและเป็นธรรม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการเดินทาง และทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นคนทุกกลุ่ม เป้าหมายของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท นโยบายนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยลดภาระค่าเดินทางของคนในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน พร้อมส่งเสริมให้คนใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น สร้างความสะดวกและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ความเท่าเทียมในการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยสร้างความเท่าเทียมในการเดินทาง เพราะไม่ว่าคนจะขึ้นรถไฟฟ้ากี่สายหรือต้องเดินทางไกลเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหนก็จ่ายค่าโดยสารราคาเดียว ทำให้ทุกคนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือรัฐบาลช่วยชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรักษาคุณภาพบริการและทำให้นโยบายนี้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ นโยบายนี้ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพราะราคาค่าโดยสารที่ถูกลงทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่าย ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยังร่วมมือกับกรุงเทพฯ ในการพัฒนาระบบตั๋วร่วมและฟีดเดอร์ระบบขนส่ง เช่น รถเมล์ที่เชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งานระบบได้ครบวงจรขึ้น แก้ปัญหารถติด นโยบายนี้เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ได้ เมื่อค่าโดยสารถูกลง ผู้คนจะหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น ลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวที่วิ่งบนถนนในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน นอกจากจะช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร ยังช่วยลดเวลาการเดินทางและความเครียดของผู้ใช้ถนนด้วย ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบขนส่งของเมือง ทำให้การเดินทางสะดวกและราบรื่นขึ้นโดยรวมในระยะยาว เชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมือง นโยบายนี้เป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจและชุมชนเมืองเติบโตเป็นระบบ การลดค่าเดินทางช่วยเพิ่มกำลังซื้อและโอกาสทางธุรกิจในชุมชนต่างๆ เนื่องจากผู้คนสามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้สะดวกและบ่อยขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าหลายสายยังช่วยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานและสินค้ารวดเร็ว ทำให้ชุมชนต่างๆ มีโอกาสพัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนและลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เบื้องหลังการผลักดันนโยบาย โครงการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นผลลัพธ์ของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลและกรุงเทพฯ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมทำหน้าที่วางแนวนโยบายและจัดสรรงบประมาณ ในขณะที่กรุงเทพฯ นำโดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผลักดันให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น นโยบายรถไฟฟ้ากับชัชชาติในฐานะผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เป็นหัวใจของชีวิตคนเมือง ร่วมกับการส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและมลพิษ พร้อมผลักดันให้โครงการได้ผลจริงในเชิงปฏิบัติ เช่น การเชื่อมโยงเส้นทางและเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและติดตามผล ทำให้นโยบายนี้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองจริงๆ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท… ความท้าทายและคำถามที่ยังคงอยู่ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้จะได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยลดภาระค่าโดยสารของประชาชน แต่ก็ยังเผชิญความท้าทายด้านความยั่งยืนทางการเงินหลักๆ เพราะรัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ แต่จากการศึกษาพบว่า… ต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าสายหลักอยู่ที่ประมาณ 11 บาทต่อเที่ยว ทำให้นโยบายนี้เป็นไปได้ถ้าบริหารจัดการดีและมีแหล่งเงินทุนสนับสนุนที่มั่นคง เช่น การใช้รายได้ภาษีจากภาคขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการบริหารจัดการรายได้และผลประโยชน์ของภาคเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนและการดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ปัญหานี้ยังเป็นอุปสรรคที่ต้องเจรจาและหาข้อตกลงร่วมที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทางเลือกและข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนานโยบายในอนาคต ได้แก่ การผลักดันกฎหมายตั๋วร่วมเพื่อให้ใช้บริการได้ด้วยบัตรเดียวทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทให้เชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะมีความมั่นคงและเข้าถึงได้ง่ายในระยะยาว สรุป นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนเมือง ทำให้การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องง่ายและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ช่วยเชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมืองอย่างทั่วถึง พร้อมแก้ไขปัญหารถติดและมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตคนเมืองอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกรุงเทพฯ และภาคประชาสังคม ซึ่งบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วมและติดตามนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคง FAQ – คำถามที่พบบ่อย โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทครอบคลุมทุกสายไหม? โครงการนี้ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สายสีน้ำเงิน (MRT) สายสีเหลือง สายสีชมพู และ Airport Rail Link (ARL) รวมรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงที่ทำไปแล้วทั้งหมด 8 สาย รวม 13 เส้นทางและกว่า 194 สถานีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางในราคาคงที่เพียง 20 บาทตลอดสาย แม้ต้องเปลี่ยนสายก็จะไม่เกินราคานี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ส่งผลต่อปัญหารถติดในกรุงเทพฯ อย่างไร? นโยบายนี้ช่วยลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เพราะราคาค่าโดยสารถูกลง คุณภาพชีวิตและการเดินทางจึงดีขึ้น ลดความหนาแน่นของการจราจรในช่วงเร่งด่วนได้ ประชาชนมีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายนี้ได้อย่างไร? ประชาชนสามารถร่วมลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และใช้บัตร EMV Contactless หรือบัตร Rabbit แบบ ABT เพื่อยืนยันตัวตน ร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการของระบบขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้นต่อไป
อนาคตเข้าถึงได้! นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท โครงการเปลี่ยนชีวิตคนเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามาเจาะลึกกับนโยบายรถไฟฟ้า20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน

ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน
ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักจากเสียงประชาชนสู่การแก้ไขจริง! Traffy Fondue คือระบบร้องเรียนของ กทม. นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ไขปัญหา เพิ่มคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวกรุงให้ดีขึ้น

รวมองค์กร-มูลนิธิ บริจาคอาหาร ช่วยเหลือสุนัข แมวจรจัด และสัตว์พิการ

CHEEWID ชวนทุกคนมาร่วมกันสร้างสังคมให้น่าอยู่ขึ้น ด้วยการแสดงความเมตตา ร่วมบริจาคอาหาร และเงิน เพื่อช่วยเหลือสุนัข แมว และสัตว์พิการได้โดยการสนับสนุนองค์กร หรือมูลนิธิ ที่ทำงานเพื่อสัตว์
รวมองค์กร-มูลนิธิ บริจาคอาหาร ช่วยเหลือสุนัข แมวจรจัด และสัตว์พิการ
Table of Contents

 

Key Takeaway

  • การบริจาคช่วยสัตว์จรจัด และสัตว์พิการ ช่วยให้การดูแลสุขภาพสัตว์เหล่านี้ดีขึ้น ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยมากขึ้น
  • การบริจาคช่วยสุนัข และแมวมีหลายประเภท เช่น เงินบริจาค อาหารสัตว์ ยารักษาโรค และอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการช่วยเหลืออีกทาง คือการเป็นอาสาสมัคร
  • ทุกองค์กร และมูลนิธิที่ช่วยเหลือสัตว์ มีภารกิจในการดูแล และฟื้นฟูสุขภาพของสัตว์จรจัด และสัตว์พิการ เพื่อลดจำนวนสัตว์จรจัด ผ่านโครงการทำหมัน จัดหาอาหาร หรือที่พักให้เพียงพอ และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการดูแลสัตว์อย่างมีความรับผิดชอบ

 

มาสร้างสังคมให้น่าอยู่ขึ้น ด้วยการแสดงความเมตตา และร่วมมือกัน ในการช่วยเหลือสุนัข แมว และสัตว์พิการที่ต้องการความช่วยเหลือ ด้วยการบริจาคอาหาร และเงิน เพื่อสนับสนุนองค์กร หรือมูลนิธิที่ทำงานเพื่อสัตว์ คุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง โดยการให้การสนับสนุน ที่จะช่วยให้สัตว์เหล่านี้ได้รับการดูแลที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 

การบริจาคช่วยเหลือสัตว์ สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างไร

การบริจาคช่วยเหลือสัตว์ สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างไร

การบริจาคช่วยเหลือสัตว์ มีความสำคัญในการช่วยลดปัญหาหมาแมวจรจัด จะเป็นการบริจาคช่วยลดจำนวนสัตว์จรจัด และการคลอดลูกสัตว์ใหม่ที่ไม่มีบ้าน โดยการสนับสนุนโครงการทำหมัน และควบคุมประชากรสัตว์จรจัด นอกจากนี้ ยังมีบริจาคให้สัตว์จรจัดได้รับอาหาร และการรักษาพยาบาลที่จำเป็น เช่น วัคซีน และการรักษาโรค 

สำหรับสัตว์ที่ไม่มีบ้าน การบริจาคเพื่อช่วยสร้าง หรือดูแลศูนย์พักพิงที่ให้ที่อยู่ชั่วคราว และการดูแลช่วงที่สัตว์ไม่มีที่อยู่ เพื่อเป็นการดูแลไม่ให้สัตว์ถูกทำร้าย ตามหลักพ.ร.บ. กฎหมายคุ้มครองสัตว์ อีกทั้งยังช่วยลดความต้องการซื้อสัตว์ใหม่ และขยายปัญหาสัตว์จรจัด ผ่านการสนับสนุนโครงการรณรงค์ เพื่อส่งเสริมการรับสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่แล้ว

 

ประเภทของการบริจาคช่วยสุนัขและแมว

ประเภทของการบริจาคช่วยสุนัขและแมว 

การบริจาคช่วยเหลือสัตว์สามารถทำได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับความสะดวก และความต้องการของผู้บริจาค ดังนี้

การบริจาคอาหาร

การบริจาคอาหารสัตว์เพื่อช่วยเหลือสุนัข แมว และสัตว์จรจัด ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออาหารของศูนย์พักพิง หรือองค์กรช่วยเหลือสัตว์ และช่วยให้สัตว์จรจัดได้รับอาหารที่เพียงพอ และมีคุณภาพ ซึ่งสำคัญต่อสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี 

การมีอาหารสัตว์ในสต๊อกจากการบริจาค ยังช่วยให้องค์กรสามารถวางแผนการจัดการ และดูแลสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การบริจาคยังส่งเสริมการรับรู้เกี่ยวกับปัญหาสัตว์จรจัด และกระตุ้นให้ผู้คนมีส่วนร่วมในการช่วยเหลืออีกด้วย

การบริจาคเงิน

การบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือสัตว์จรจัดอย่างสุนัข แมว และสัตว์พิการ ช่วยให้ศูนย์พักพิง และองค์กรช่วยเหลือสัตว์สามารถจัดหาอาหาร การรักษาพยาบาล และการทำหมันให้กับสัตว์จรจัดได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังช่วยตอบสนองต่อความต้องการเร่งด่วน เช่น การรักษาโรคฉุกเฉิน หรือการช่วยเหลือสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ และสามารถใช้พัฒนาโปรแกรมต่างๆ เช่น โครงการการศึกษา และการรณรงค์เพื่อลดจำนวนสัตว์จรจัด เป็นต้น

สามารถบริจาคได้หลายช่องทาง เช่น การบริจาคผ่านเว็บไซต์ขององค์กร ที่ทำงานด้านการช่วยเหลือสัตว์ การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือแพลตฟอร์มการชำระเงินออนไลน์ การบริจาคผ่านบัญชีธนาคารขององค์กร และการบริจาคโดยการเข้าร่วมกิจกรรมระดมทุน หรือการจัดงานการกุศลที่จัดโดยองค์กร ใครสนใจการบริจาคเงินลดหย่อนภาษี การบริจาคช่วยเหลือสัตว์ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

การบริจาคสิ่งของ

การบริจาคสิ่งของให้สัตว์จรจัด เช่น อาหารสัตว์ อุปกรณ์การดูแล และของเล่น ช่วยให้สัตว์ได้รับการดูแลที่ดีขึ้น ซึ่งสำคัญต่อสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี อีกทั้งยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดหาอุปกรณ์ให้กับศูนย์พักพิงอีกด้วย

การบริจาคสิ่งของ ยังสามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะของสัตว์ เช่น อุปกรณ์การแพทย์ หรือที่นอน และช่วยให้องค์กรสามารถจัดการ และดูแลสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรในระยะยาว

 

รวมองค์กร-มูลนิธิรับบริจาคอาหาร บริจาคเงิน เพื่อสุนัขและแมว

รวมองค์กร-มูลนิธิรับบริจาคอาหาร บริจาคเงิน เพื่อสุนัขและแมว 

ขอแนะนำองค์กร และมูลนิธิที่ทำงานอย่างเต็มที่ในการดูแล และช่วยเหลือสัตว์จรจัด ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว สัตว์พิการ และสัตว์อื่นๆ การบริจาคของคุณจะสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของสัตว์เหล่านี้ได้ โดยมีรายชื่อองค์กรกับมูลนิธิ ดังนี้

มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (Soi Dog Foundation)

1. มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (Soi Dog Foundation)

มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (Soi Dog Foundation) เป็นองค์กรที่มีภารกิจหลักในการช่วยเหลือสัตว์จรจัดในประเทศไทย และประเทศใกล้เคียง  โดยเฉพาะสุนัข และแมวที่ถูกทอดทิ้ง หรือได้รับบาดเจ็บ โครงการสำคัญของมูลนิธิ คือการทำหมันสัตว์จรจัด เพื่อควบคุม และป้องกันการเพิ่มประชากรสัตว์จรจัด การให้การรักษาพยาบาลสำหรับสัตว์ที่เจ็บป่วย และการหาบ้านใหม่ให้สัตว์จรจัด 

มูลนิธิยังรับบริจาคเงิน เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล การทำหมัน และการดูแลสัตว์ และรับบริจาคสิ่งของ เช่น อาหารสัตว์ อุปกรณ์การแพทย์ และสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการดูแลสัตว์ เป็นต้น

  • ที่อยู่: 167/9 หมู่ 4 ซอยไม้ขาว 10 ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 
  • เว็บไซต์: https://www.soidog.org/th 
  • ติดต่อ: 07-668-1029, 061-174-7396

 

2. มูลนิธิ The Voice (เสียงจากเรา)

มูลนิธิเดอะวอยซ์ (The Voice Foundation) เป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือ และฟื้นฟูสัตว์ที่ถูกทิ้ง สัตว์ที่เจ็บป่วย และสัตว์ที่ถูกทำร้าย ภารกิจของมูลนิธิคือการเป็นกระบอกเสียงให้กับสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของสัตว์เหล่านี้

โครงการสำคัญของมูลนิธิคือการรักษา และฟื้นฟูสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ การช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทิ้ง และหาบ้านใหม่ให้ นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่มุ่งเน้นการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการทารุณกรรมสัตว์ และส่งเสริมการรับสัตว์เลี้ยงที่มาจากการช่วยเหลือ

มูลนิธิรับบริจาคหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคเงินเพื่อช่วยในการรักษาพยาบาลสัตว์ การสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ อาหารสัตว์ ยารักษาโรค และอุปกรณ์สำหรับการดูแลสัตว์ที่มูลนิธิดูแลอยู่

  • ที่อยู่: 92/5 อาคารสาทรธานี 2 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
  • เว็บไซต์: https://www.thevoicefoundation.org/  
  • ติดต่อ: 098-878-8477

มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร

3. มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร

มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร เป็นองค์กรที่มีภารกิจหลักในการช่วยเหลือ และดูแลแมวจรจัดที่ถูกทอดทิ้ง หรือได้รับบาดเจ็บ โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของแมวจรให้ดีขึ้น และสร้างความตระหนักรู้ในสังคมเกี่ยวกับการดูแลแมว

โครงการสำคัญของมูลนิธิ ได้แก่ การทำหมันแมวจรจัดเพื่อควบคุมจำนวน การให้การรักษาพยาบาลสำหรับแมวที่ป่วย หรือได้รับบาดเจ็บ และการหาบ้านใหม่ให้กับแมวจรจัด นอกจากนี้ มูลนิธิยังมีโครงการให้ความรู้ และรณรงค์เกี่ยวกับการดูแลแมวในสังคม

สามารถบริจาคให้กับมูลนิธิได้หลากหลายประเภท เช่น เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการรักษาพยาบาล และการทำหมันแมวจร อาหารแมว ยารักษาโรค อุปกรณ์การแพทย์ และสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการดูแลแมวที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิ

  • ที่อยู่: 2007/118 ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง แขวงดินแดง กรุงเทพมหานคร
  • เว็บไซต์: https://www.rakmaw.com/  
  • ติดต่อ:

4. มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ

มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ เป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือ และดูแลสัตว์พิการที่ถูกทอดทิ้ง รวมถึงสุนัข แมว และสัตว์อื่นๆ ที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ภารกิจของมูลนิธิคือการมอบชีวิตที่มีคุณภาพ และการดูแลสัตว์พิการ เพื่อให้สัตว์เหล่านี้มีโอกาสใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และสมบูรณ์มากที่สุด

โครงการสำคัญของมูลนิธิ มีการให้ที่พักพิง และการดูแลสัตว์พิการ การให้การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือสำหรับสัตว์พิการ เช่น วีลแชร์สำหรับสุนัข นอกจากนี้ มูลนิธิยังมีโครงการเพื่อสร้างความตระหนักรู้ และการรณรงค์เพื่อสนับสนุนการดูแลสัตว์พิการในสังคม

การรับบริจาคของมูลนิธิ เช่น เงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือในด้านการรักษาพยาบาล และการดูแลสัตว์พิการ อุปกรณ์การแพทย์ ยารักษาโรค อาหารสัตว์ และสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการดูแลสัตว์ที่มีความต้องการพิเศษ

  • ที่อยู่: 15/1 หมู่ 1 ถนนติวานนท์-ปากเกร็ด 56 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
  • เว็บไซต์: https://home4animals.org/  
  • ติดต่อ: 02-584-4896

มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์

5. มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์

มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ (Watchdog Thailand Foundation) เป็นองค์กรที่มุ่งมั่นในการปกป้อง และช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ เช่น สุนัข และแมวจากการทารุณกรรม การทอดทิ้ง และการค้าสัตว์อย่างผิดกฎหมาย ภารกิจหลักของมูลนิธิคือการยุติการกระทำที่โหดร้ายต่อสัตว์ และให้ความช่วยเหลือสัตว์ที่ตกเป็นเหยื่อ รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้ในสังคมเกี่ยวกับสิทธิ และสวัสดิภาพของสัตว์ โครงการสำคัญของมูลนิธิยังรวมถึงการหาบ้านใหม่ให้กับสัตว์ที่ได้รับการช่วยเหลือ นอกจากนี้ มูลนิธิยังทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อผลักดันให้มีการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการปกป้องสัตว์อย่างเคร่งครัด

มูลนิธิรับบริจาคหลากหลายประเภท เช่น เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กร อาหารสัตว์ อุปกรณ์การแพทย์ ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ สำหรับการดูแลสัตว์ที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิ

  • ที่อยู่: 21/284 ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
  • เว็บไซต์: https://www.facebook.com/WDT.foundation/ 
  • ติดต่อ: 083-089-8384

มูลนิธิ ดิ อาร์ค (The ARK Foundation)

6. มูลนิธิ ดิ อาร์ค (The ARK Foundation)

มูลนิธิ ดิ อาร์ค (The ARK Foundation) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มุ่งเน้นสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และมีความสุขสำหรับสัตว์ทุกตัว ภารกิจหลักของมูลนิธิคือการช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง และได้รับบาดเจ็บ โดยเน้นการดูแล ฟื้นฟูสุขภาพของสัตว์เหล่านี้ และหาบ้านใหม่ที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา 

มูลนิธิยังมุ่งมั่นในการสร้างความตระหนักรู้ในสังคมเกี่ยวกับปัญหาสัตว์จรจัด และการทารุณกรรมสัตว์ เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสัตว์อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ มูลนิธิยังดำเนินโครงการทำหมัน และควบคุมประชากรสัตว์ เพื่อป้องกันการเพิ่มจำนวนสัตว์จรจัด โดยมีบริการทำหมันฟรี หรือในราคาที่เข้าถึงได้สำหรับชุมชนท้องถิ่น 

การบริจาค มีทั้งการรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล การทำหมัน และการดูแลสัตว์ในศูนย์พักพิง รวมทั้งยังรับบริจาคสิ่งของต่างๆ เช่น อาหารสัตว์ ยารักษาโรค วัสดุทางการแพทย์ และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการดูแลสัตว์ อย่างอุปกรณ์ทำความสะอาด และของใช้ในศูนย์พักพิง เช่น ที่นอนสัตว์ ของเล่น และผ้าห่ม

  • ที่อยู่: 247 หมู่ 8 บ้านวังตาล ตำบลหลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
  • เว็บไซต์: https://www.thearkth.org/  
  • ติดต่อ: 088-547-7393, 094-991-9499

WVS Thailand

7. WVS Thailand

WVS Thailand (World Veterinary Service Thailand) เป็นองค์กรที่มุ่งมั่นในการพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์ และส่งเสริมการดูแลสุขภาพสัตว์อย่างยั่งยืน ภารกิจหลักขององค์กรคือการสนับสนุน และส่งเสริมการดูแลสุขภาพสัตว์ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ขาดแคลน และต้องการความช่วยเหลือ

โครงการสำคัญ และโครงการที่ทำอยู่ของ WVS Thailand เช่น โครงการทำหมัน และการควบคุมประชากรสัตว์อย่างสุนัข และแมว เพื่อลดจำนวนสัตว์จรจัด โครงการการศึกษา และฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ด้านสัตว์ และโครงการสุขภาพสัตว์ ที่ให้การดูแลสุขภาพสัตว์อย่างครบวงจร รวมถึงการรักษาโรค การฉีดวัคซีน และการให้ยา

การบริจาคจะเป็นการรับบริจาคเงิน เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการทำหมัน การรักษาพยาบาล และโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รับบริจาคสิ่งของ และอุปกรณ์ เช่น อาหารสัตว์ ยารักษาโรค และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับการดูแลสัตว์ และยังรับสมัครอาสาสมัคร เพื่อช่วยในกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย

  • ที่อยู่: 12 หมู่ 11 บ้านเวียงดง ตำบลน้ำแพร่ อำเภอหางดง เชียงใหม่
  • เว็บไซต์: https://wvsthailand.org/th/  
  • ติดต่อ: 086-913-8701, 090-320-7317

 

8. มูลนิธิไทยเลิฟแอนนิมอล (Thai Love Animal Foundation) 

มูลนิธิไทยเลิฟแอนนิมอล (Thai Love Animal Foundation) เป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการดูแล และช่วยเหลือสัตว์จรจัดในประเทศไทย โดยมีภารกิจหลักในการปรับปรุงชีวิตของสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง และดูแลให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม

มูลนิธิดำเนินโครงการทำหมัน และควบคุมประชากรสัตว์ เพื่อลดจำนวนสัตว์จรจัด ทั้งสุนัข และแมว ดูแลสุขภาพสัตว์ที่บาดเจ็บ หรือป่วย จัดหาอาหาร และที่พักสำหรับสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ และจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการดูแลสัตว์อย่างมีความรับผิดชอบ

มีการรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล การทำหมัน และการดูแลสัตว์ รับบริจาคสิ่งของ เช่น อาหารสัตว์ ยารักษาโรค และอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น รวมถึงการรับสมัครอาสาสมัครเพื่อช่วยในกิจกรรม และการดำเนินโครงการต่างๆ

  • ที่อยู่: 234/44 หมู่ 6 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 
  • เว็บไซต์: https://www.facebook.com/ThaiLoveAnimal/?locale=th_TH  
  • ติดต่อ: 062-646-3966

 

9. มูลนิธิสันติสุขเพื่อสุนัขและแมวจรจัด

มูลนิธิสันติสุขเพื่อสุนัข และแมวจรจัด เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือ ดูแลสุนัข และแมวจรจัด ภารกิจหลักของมูลนิธิคือการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ และลดจำนวนสัตว์จรจัดในชุมชน

โครงการสำคัญ ได้แก่ การทำหมัน และการควบคุมประชากรสัตว์ การดูแลสุขภาพสัตว์ที่บาดเจ็บ หรือป่วย การจัดหาอาหาร และที่พักสำหรับสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ การจัดกิจกรรมรณรงค์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการดูแลสัตว์ และลดการทารุณกรรมสัตว์

มูลนิธิสันติสุขเพื่อสุนัข และแมวจรจัดรับบริจาคเงิน เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการทำหมัน การรักษาพยาบาล และการดำเนินโครงการต่างๆ รับบริจาคสิ่งของ เช่น อาหารสัตว์ ยารักษาโรค อุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการดูแลสัตว์ รวมถึงรับสมัครอาสาสมัครด้วย

  • ที่อยู่: 114/281 หมู่ 1 หมู่บ้านเวียงดอย ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
  • เว็บไซต์: https://www.santisookdogandcat.org/  
  • ติดต่อ: 081-6382105, 080-0045439

 

สรุป

การบริจาคเพื่อสัตว์จรจัด และสัตว์พิการ เช่น สุนัข และแมว มีความสำคัญอย่างมากในการช่วยปรับปรุงสภาพชีวิตของสัตว์เหล่านี้ การบริจาคอาหาร และเงิน สามารถช่วยเหลือองค์กร และมูลนิธิในการดูแลสัตว์ เช่น การให้การรักษาพยาบาล การทำหมัน และการจัดหาอาหารที่จำเป็น เพื่อให้คุณภาพชีวิตของพวกเขาดีขึ้น

สำหรับใครที่อยากช่วยสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่มุ่งลดจำนวนสัตว์จรจัด และการสร้างความตระหนักรู้ในสังคม สามารถค้นหาองค์กร หรือมูลนิธิเพิ่มเติมเกี่ยวกับการช่วยเหลือสัตว์จรจัด และสัตว์พิการได้ที่ Cheewid มาร่วมรณรงค์ และช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ เพื่อสร้างสังคมที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขกันดีกว่า

 

Reference:

  1. American Humane. Ways to Give. americanhumane.org. Retrieved 30 August 2024.
  2. ASPCA. This Giving Season, Consider Donating Vital Supplies Directly to Animals in Need Across the Country. aspca.org. Published 16 November 2023. Retrieved 30 August 2024.

องค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

banner - soi dog foundation
logo - soi dog foundation

มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย

องค์กรที่ทำงานเพื่อมุ่งเน้นและส่งเสริมสวัสดิภาพสุนัขและแมวจรจัดในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย ร่วมสนับสนุนและบริจาคจากผู้ที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตสัตว์จรจัด ยุติธุรกิจการค้าเนื้อสุนัขและแมว ช่วยเหลือและอุปการะสุนัข
banner - thevoicefoundation
logo - the voice foundation

THEVOICEFOUNDATION

“เดอะวอยซ์ คือตัวแทนเสียงของสรรพสัตว์ที่ไม่สามารถส่งเสียงเพื่อตัวเองได้แม้ในวันที่เจ็บปวด หากคุณเพียงเปิดใจรับฟัง”เสียงจากเรา”จึงจะมีความหมาย เพราะทุกชีวิตสำคัญเสมอกับเรา
banner - มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร
logo - มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร

มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร

มูลนิธิฯ ได้สนับสนุนน้องแมวจรที่เจ็บป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุให้ได้รักษาพยาบาล และช่วยหาบ้านให้น้องแมวจรจัด รวมไปถึงช่วยส่งเสริม สนับสนุน ภาครัฐและเอกชนให้มีการปกป้องการขยายพันธุ์ของแมวจรจัด
banner-บ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ
logo - บ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ

มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ

องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร บ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ สงเคราะห์สุนัขและแมวที่มีอาการป่วยและพิการ โดยอุปการะสุนัขและแมวพิการกว่า 400 ตัว ดูรายเอียดโครงการของมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือสุนักและแมว คลิก 
banner-watchdog มูลนิธิวอชด็อก
logo - wash dog

มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์

WatchDog Thailand เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มคนรักสัตว์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายสำหรับการป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ และเพื่อปกป้องสุนัขจากจากความรุนแรง