เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จัก ปัญหาทางเท้าที่คนไทยต้องเจอ ทั้งฟุตบาทไม่ทนทาน รถจักรยานยนต์ ร้านค้าบนทางเท้า การออกแบบที่ไม่คิดถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ มาสร้างทางเท้าให้ดี เพื่อชีวิตที่ดีกัน!

ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข
ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักปัญหาว่างงานในมิติทางสังคมและเศรษฐกิจส่งผลกระทบในวงกว้าง ควรมีทางออกเพื่อเสริมพลังและสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยกลับมายืนหยัดและมีชีวิตที่ดีได้อย่างเข้มแข็ง

Key Takeaway นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คือโครงการจากรัฐบาลที่กำหนดให้ประชาชนเดินทางในเส้นทางรถไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการได้ในราคาเดียวเพียง 20 บาทตลอดสาย เป้าหมายของโครงการคือสร้างความเท่าเทียม ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสให้คนเมืองทุกกลุ่มเข้าถึงการเดินทางอย่างสะดวก ลดปัญหารถติดและมลพิษ ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาชุมชนเมือง โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของรัฐบาล กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการผลักดันจากผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่มีวิสัยทัศน์ด้านระบบขนส่งมวลชน เชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้าในราคาคงที่ ช่วยให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ความท้าทายของนโยบายนี้ คือความยั่งยืนทางการเงิน ที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลชดเชยผู้ประกอบการ และปัญหาการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า ทุกวันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าทีก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เพราะค่าโดยสารที่สะสมไปแต่ละวันไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่ลองคิดดูว่า… ถ้าเราเดินทางไกลแค่ไหนก็จ่ายเพียง 20 บาท จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากขนาดไหน? ประชาชนได้ประโยชน์เต็มๆ! บทความนี้พามาเจาะลึกนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน เรื่องนี้จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันของผู้คน ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา หรือแม่ค้าพ่อค้า ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางทุกวันแน่นอน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คืออะไร? โครงการค่าโดยสาร 20 บาท คือความตั้งใจง่ายๆ ที่อยากให้การเดินทางสาธารณะเป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงาน หรือผู้สูงอายุ เรื่องนี้เริ่มต้นจากคำถามว่า “ทำไมคนต้องจ่ายค่าโดยสารแพงหลายระดับ บางทีแค่ไปทำงานหรือไปเรียนใกล้ๆ ก็ต้องจ่ายราคาเต็ม?” แนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวจึงเกิดขึ้น เพื่อช่วยลดภาระและทำให้ทุกคนได้รับสิทธิ์เดินทางในราคาเท่ากัน ในปี 2567 ได้เริ่มทำโครงการนำร่องในสายสีแดงและสายสีม่วงแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากเลย ส่วนเรื่องการหาเงินมาจ่ายนั้น รัฐบาลไม่ได้แค่รับภาระทั้งหมดเอง แต่มีการแบ่งงบและจัดสรรเงินมาใช้ชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ให้บริการยังสามารถดำเนินธุรกิจได้และไม่ขาดทุน กลไกนี้ช่วยให้ความมั่นคงในการเดินรถยังดำเนินไปได้ โดยรัฐจะพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้บริการจริงและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนเป็นธรรมและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจว่าจะทำให้คมนาคมสาธารณะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเดินทางและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวที่คนทุกวัยทุกกลุ่มเข้าถึงได้จริง ทำไมนโยบายนี้ถึงสำคัญกับคนเมือง? ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกวัน การเดินทางในเมืองใหญ่จึงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน การมีนโยบายที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางจึงเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามองและหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาได้จริง ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดค่าใช้จ่ายรายวันได้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนและคนที่ต้องเดินทางประจำ การกำหนดราคาเดียวช่วยให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเดินทางไกล เพิ่มโอกาสในการเดินทางและใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นโยบายยังช่วยกระตุ้นให้เกิดชุมชนและธุรกิจใหม่ในเขตชานเมือง เพิ่มความสะดวกและคุณภาพชีวิตในเมืองอย่างยั่งยืน ลดปัญหารถติดและมลพิษ นโยบายนี้ไม่ได้แค่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เมื่อประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ปริมาณรถติดก็ลดลงตามไปด้วย ช่วยลดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน การใช้รถไฟฟ้ายังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ที่สำคัญคือทำให้เมืองน่าอยู่ สะอาด และเดินทางได้คล่องตัวมากขึ้นสำหรับทุกคน สร้างเมืองที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน นโยบายนี้ไม่ได้แค่ทำให้ค่าโดยสารถูกลงเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างเมืองที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นักเรียน หรือผู้สูงอายุ ช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้า สร้างระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมและเป็นธรรม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการเดินทาง และทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นคนทุกกลุ่ม เป้าหมายของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท นโยบายนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยลดภาระค่าเดินทางของคนในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน พร้อมส่งเสริมให้คนใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น สร้างความสะดวกและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ความเท่าเทียมในการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยสร้างความเท่าเทียมในการเดินทาง เพราะไม่ว่าคนจะขึ้นรถไฟฟ้ากี่สายหรือต้องเดินทางไกลเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหนก็จ่ายค่าโดยสารราคาเดียว ทำให้ทุกคนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือรัฐบาลช่วยชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรักษาคุณภาพบริการและทำให้นโยบายนี้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ นโยบายนี้ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพราะราคาค่าโดยสารที่ถูกลงทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่าย ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยังร่วมมือกับกรุงเทพฯ ในการพัฒนาระบบตั๋วร่วมและฟีดเดอร์ระบบขนส่ง เช่น รถเมล์ที่เชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งานระบบได้ครบวงจรขึ้น แก้ปัญหารถติด นโยบายนี้เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ได้ เมื่อค่าโดยสารถูกลง ผู้คนจะหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น ลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวที่วิ่งบนถนนในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน นอกจากจะช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร ยังช่วยลดเวลาการเดินทางและความเครียดของผู้ใช้ถนนด้วย ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบขนส่งของเมือง ทำให้การเดินทางสะดวกและราบรื่นขึ้นโดยรวมในระยะยาว เชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมือง นโยบายนี้เป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจและชุมชนเมืองเติบโตเป็นระบบ การลดค่าเดินทางช่วยเพิ่มกำลังซื้อและโอกาสทางธุรกิจในชุมชนต่างๆ เนื่องจากผู้คนสามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้สะดวกและบ่อยขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าหลายสายยังช่วยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานและสินค้ารวดเร็ว ทำให้ชุมชนต่างๆ มีโอกาสพัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนและลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เบื้องหลังการผลักดันนโยบาย โครงการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นผลลัพธ์ของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลและกรุงเทพฯ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมทำหน้าที่วางแนวนโยบายและจัดสรรงบประมาณ ในขณะที่กรุงเทพฯ นำโดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผลักดันให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น นโยบายรถไฟฟ้ากับชัชชาติในฐานะผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เป็นหัวใจของชีวิตคนเมือง ร่วมกับการส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและมลพิษ พร้อมผลักดันให้โครงการได้ผลจริงในเชิงปฏิบัติ เช่น การเชื่อมโยงเส้นทางและเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและติดตามผล ทำให้นโยบายนี้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองจริงๆ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท… ความท้าทายและคำถามที่ยังคงอยู่ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้จะได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยลดภาระค่าโดยสารของประชาชน แต่ก็ยังเผชิญความท้าทายด้านความยั่งยืนทางการเงินหลักๆ เพราะรัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ แต่จากการศึกษาพบว่า… ต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าสายหลักอยู่ที่ประมาณ 11 บาทต่อเที่ยว ทำให้นโยบายนี้เป็นไปได้ถ้าบริหารจัดการดีและมีแหล่งเงินทุนสนับสนุนที่มั่นคง เช่น การใช้รายได้ภาษีจากภาคขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการบริหารจัดการรายได้และผลประโยชน์ของภาคเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนและการดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ปัญหานี้ยังเป็นอุปสรรคที่ต้องเจรจาและหาข้อตกลงร่วมที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทางเลือกและข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนานโยบายในอนาคต ได้แก่ การผลักดันกฎหมายตั๋วร่วมเพื่อให้ใช้บริการได้ด้วยบัตรเดียวทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทให้เชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะมีความมั่นคงและเข้าถึงได้ง่ายในระยะยาว สรุป นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนเมือง ทำให้การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องง่ายและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ช่วยเชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมืองอย่างทั่วถึง พร้อมแก้ไขปัญหารถติดและมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตคนเมืองอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกรุงเทพฯ และภาคประชาสังคม ซึ่งบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วมและติดตามนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคง FAQ – คำถามที่พบบ่อย โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทครอบคลุมทุกสายไหม? โครงการนี้ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สายสีน้ำเงิน (MRT) สายสีเหลือง สายสีชมพู และ Airport Rail Link (ARL) รวมรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงที่ทำไปแล้วทั้งหมด 8 สาย รวม 13 เส้นทางและกว่า 194 สถานีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางในราคาคงที่เพียง 20 บาทตลอดสาย แม้ต้องเปลี่ยนสายก็จะไม่เกินราคานี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ส่งผลต่อปัญหารถติดในกรุงเทพฯ อย่างไร? นโยบายนี้ช่วยลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เพราะราคาค่าโดยสารถูกลง คุณภาพชีวิตและการเดินทางจึงดีขึ้น ลดความหนาแน่นของการจราจรในช่วงเร่งด่วนได้ ประชาชนมีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายนี้ได้อย่างไร? ประชาชนสามารถร่วมลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และใช้บัตร EMV Contactless หรือบัตร Rabbit แบบ ABT เพื่อยืนยันตัวตน ร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการของระบบขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้นต่อไป
อนาคตเข้าถึงได้! นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท โครงการเปลี่ยนชีวิตคนเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามาเจาะลึกกับนโยบายรถไฟฟ้า20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน

ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน
ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักจากเสียงประชาชนสู่การแก้ไขจริง! Traffy Fondue คือระบบร้องเรียนของ กทม. นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ไขปัญหา เพิ่มคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวกรุงให้ดีขึ้น

เปิดโลก! ประโยชน์ของดนตรี การฟังเพลงที่มากกว่าแค่ความเพลิดเพลิน

บทความนี้ CHEEWID จะพาทุกคนมารู้จัก ดนตรีคือยาวิเศษ! ประโยชน์ของดนตรีคือช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น เพิ่มสมาธิ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ให้รู้สึกมีพลังในการใช้ชีวิต
เปิดโลก! ประโยชน์ของดนตรี การฟังเพลงที่มากกว่าแค่ความเพลิดเพลิน

Table of Contents

Key Takeaway

  • ประโยชน์ของดนตรี คือช่วยในการผ่อนคลายสุขภาพจิตใจ เมื่อเราฟังเพลงสมองจะถูกกระตุ้นให้หลั่งสารเอ็นโดรฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ช่วยให้เราสามารถจัดการกับความเครียดและสถานการณ์กดดันได้ดีขึ้น
  • การฟังเพลงมีประโยชน์อย่างไร? ช่วยลดความเครียด นอนหลับง่ายขึ้น กระตุ้นความทรงจำ ช่วยเพิ่มสมาธิในการทำงานหรือการเรียน ลดอาการซึมเศร้า กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ เป็นต้น
  • ดนตรียังให้คุณค่าทางสังคมและส่งอิทธิพล เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตมนุษย์ในการสื่อสารทางอารมณ์และความหมายที่สะท้อนคุณค่าทางสังคมและวัฒนธรรมของดนตรี เชื่อมโยงกับผู้คน องค์กร ชุมชน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม

 

ดนตรีเป็นความบันเทิงรูปแบบหนึ่งที่เปรียบเสมือนยาวิเศษ ไม่ว่าจะเหนื่อยล้าหรือหมดแรง หากได้ฟังเพลงที่ชอบ ก็ช่วยเยียวยาจิตใจ คลายความเครียดและวิตกกังวล ช่วยให้หลับสบายขึ้น เพิ่มสมาธิในการทำงาน กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ทำให้รู้สึกสดชื่น มีพลังในการใช้ชีวิตมากขึ้น ดนตรีจึงไม่เป็นเพียงแค่ความบันเทิง แต่เป็นตัวช่วยในการเยียวยาจิตใจ เติมเต็มแรงบันดาลใจ และยังมีประโยชน์อื่นๆ มากมาย มาดูกันว่าดนตรีมีอิทธิพลต่อจิตใจของมนุษย์อย่างไรในบทความนี้!

 

ประโยชน์ของดนตรี กับการผ่อนคลายสุขภาพจิตใจ

หลายคนสงสัยว่าการฟังเพลงมีประโยชน์อย่างไร? เมื่อเราฟังเพลงสมองจะถูกกระตุ้นให้หลั่งสารเอ็นโดรฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ดนตรีจึงมีประโยชน์ในการช่วยลดความเครียดและผ่อนคลายจิตใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์กดดัน เช่น การสอบ หรือการสัมภาษณ์งาน ทำให้ดนตรีสามารถจัดการกับความวิตกกังวลและช่วยเรื่องการผ่อนคลายความเครียดได้ดี

แล้วดนตรีมีอิทธิพลต่อจิตใจของมนุษย์อย่างไร? ดนตรีมีอิทธิพลทั้งในด้านอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรม ทั้งเสียงเพลงช้าๆ และเสียงเพลงที่มีจังหวะสม่ำเสมอ ช่วยให้รู้สึกสงบ เยือกเย็น และผ่อนคลาย ส่วนเพลงที่มีจังหวะเร็วหรือเสียงดังช่วยกระตุ้นให้รู้สึกตื่นเต้นหรือมีพลังมากขึ้น

ในปัจจุบันมีสิ่งที่เรียกว่า “ดนตรีบำบัด (Music Therapy)” คือการนำดนตรีมาใช้เป็นเครื่องมือในการฟื้นฟูสุขภาพของผู้ที่มีปัญหาทางร่างกาย จิตใจ หรืออารมณ์ โดยมีนักดนตรีบำบัดจัดการและดูแลอย่างเหมาะสมเป็นรายบุคคล สามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลักๆ คือการบำบัดทางกายภาพที่เน้นกระตุ้นการเคลื่อนไหวผ่านกิจกรรม และการบำบัดทางจิตใจ โดยเน้นการฟังเพลงเพื่อผ่อนคลายจิตใจ 

 

ประโยชน์ของการฟังเพลง 10 ข้อที่ควรรู้!

ประโยชน์ของการฟังเพลง 10 ข้อที่ควรรู้!

หากสงสัยว่าการฟังเพลงมีประโยชน์อย่างไร? มาดูประโยชน์ของการฟังเพลง 10 ข้อที่เราควรรู้กัน! 

1. ลดความเครียดและความวิตกกังวล

ประโยชน์ของดนตรีช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เนื่องจากเสียงสูง-ต่ำในดนตรีมีผลต่อการทำงานของสมองโดยตรง จังหวะและโทนเสียงที่เหมาะสมจะช่วยกระตุ้นสมองให้เข้าสู่ภาวะสมดุล รู้สึกสงบ ลดความตึงเครียดและคลายกังวลลงได้ ทั้งยังช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น 

2. ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น

ประโยชน์ของดนตรีส่งผลต่อการนอนหลับและการผ่อนคลาย โดยสาเหตุที่ทำให้เรานอนไม่หลับมาจากร่างกายไม่ได้อยู่ในสภาวะผ่อนคลาย ถึงแม้สมองจะสั่งการให้ต้องนอนหลับ แต่ถ้าหากร่างกายยังคงตึงเครียดก็ไม่สามารถนอนหลับได้สนิท หรือถึงขั้นนอนไม่หลับได้ ดนตรีเป็นตัวช่วยในการนอนหลับได้ดี โดยดนตรีจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น จนสามารถนอนหลับได้เร็วขึ้นและหลับสนิทตลอดคืน

3. ช่วยกระตุ้นความทรงจำ

หลายคนอาจเคยได้ยินเพลงบางเพลงแล้วความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นมา ความรู้สึกนี้มาจากสมองส่วนที่ประมวลผลเสียงดนตรีมีการเชื่อมโยงกับสมองส่วนจัดเก็บความทรงจำ นอกจากนี้ เพลงก็เป็นเครื่องมือช่วยจำที่มีประสิทธิภาพ เช่น เพลง ABC ช่วยให้สามารถจดจำข้อมูลได้ง่ายและสนุกยิ่งขึ้น จึงเป็นประโยชน์ของดนตรีที่ช่วยกระตุ้นความทรงจำได้ดี

4. เพิ่มสมาธิในการทำงานหรือการเรียน

ดนตรีกับจังหวะไม่เป็นเพียงเครื่องมือช่วยในการผ่อนคลาย แต่ยังช่วยเพิ่มสมาธิในการทำงานหรือการเรียนได้เช่นกัน โดยเฉพาะการเปิดเพลงเบาๆ ที่ไม่มีเนื้อร้อง เช่น ดนตรีคลาสสิก เพลงแนว Instrumental, Lo-fi, Hip-hop หรือ Ambient Music รวมถึงเพลงที่มีจังหวะสม่ำเสมอและโทนเสียงเรียบช่วยให้สมองเข้าสู่โหมดโฟกัส ประโยชน์ของการฟังเพลงขณะทำงานทำให้สามารถตั้งใจอยู่กับสิ่งที่ทำตรงหน้าได้มากขึ้น และสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมกับการจดจ่อในการทำงานได้เป็นอย่างดี

5. ช่วยลดอาการซึมเศร้า

การฟังเพลงช่วยในการบำบัดและบรรเทาอาการเครียด รวมถึงภาวะซึมเศร้าได้ เพราะองค์ประกอบในดนตรีทั้งจังหวะ ทำนอง และโทนเสียง ล้วนส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์และความรู้สึก หากเราฟังเพลงที่มีจังหวะเร็วๆ จะช่วยกระตุ้นให้รู้สึกสดชื่น สนุกสนาน และกระปรี้กระเปร่า ในขณะที่ดนตรีจังหวะช้าจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด ช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบได้ เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่เราต้องการพักใจได้ดีเลย

 

กระตุ้นให้รู้สึกกระฉับกระเฉงและมีพลัง

6. กระตุ้นให้รู้สึกกระฉับกระเฉงและมีพลัง

บางครั้งการได้ฟังเพลงที่มีจังหวะเร็วๆ สนุกๆ ระหว่างออกกำลังกายหรือกำลังทำอย่างอื่นอยู่ ทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น เหนื่อยน้อยลง มีพลัง และอยากขยับตัวต่อไปเรื่อยๆ เป็นเพราะจังหวะของเพลง (Tempo) มีประโยชน์โดยตรงต่อการเคลื่อนไหว ช่วยให้ร่างกายออกแรงตามจังหวะของดนตรีได้ดีขึ้น และยังเบี่ยงเบนความสนใจจากความเหนื่อยล้าหรือความน่าเบื่อได้ ดังนั้น การเลือก Playlist ให้เหมาะกับกิจกรรมที่ทำจะช่วยเสริมสร้างพลังใจ ทำให้เรารู้สึกกระฉับกระเฉงและมีพลังยิ่งขึ้น

7. ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี

ประโยชน์ของการฟังเพลงช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีได้ เพลงสามารถเปลี่ยนอารมณ์และความรู้สึกของคนฟังได้ทันที ทำให้บรรยากาศรอบตัวดูอบอุ่น สนุกสนาน หรือผ่อนคลายขึ้นตามประเภทของเพลงที่เลือกฟัง หากเราฟังเพลงช้าจะช่วยให้บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการพักผ่อนหรือทำสมาธิ 

ในขณะที่เพลงจังหวะเร็ว สนุกสนาน จะช่วยกระตุ้นความรู้สึกตื่นตัวและเพิ่มความมีชีวิตชีวาในงานสังสรรค์หรือกิจกรรมต่างๆ รวมถึงช่วยสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงและความสามัคคีกับผู้คน ทำให้เปิดใจกันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดบรรยากาศที่ดีและน่าจดจำได้

8. กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์

หากเบื่อเพลงแนวเดิมๆ ลองฟังดนตรี เพลงแนวใหม่ๆ ที่เราไม่คุ้นเคย หรือเพลงที่ไม่มีโครงสร้างชัดเจน ประโยชน์ของการฟังดนตรีที่ไม่เคยฟังมาก่อนช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองในด้านจินตนาการและการคิดสร้างสรรค์ เสียงดนตรีที่ไม่จำกัดรูปแบบเหมือนการเปิดประตูบานใหม่ ทำให้สมองพร้อมรับไอเดียใหม่ๆ และมองเห็นสิ่งเดิมในมุมที่แตกต่างได้

9. ช่วยลดความรู้สึกเจ็บปวด

ในทางการแพทย์มีการนำดนตรีบำบัดมาใช้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจ เสียงดนตรีสามารถเบี่ยงเบนความสนใจจากความเจ็บปวดโดยตรง พร้อมกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข หรือสารเอ็นโดรฟิน ที่ช่วยลดความเจ็บปวดและเพิ่มความรู้สึกสบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

10. เสริมสร้างความรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง

ประโยชน์ของการฟังดนตรีช่วยเสริมสร้างความรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง เพราะแต่ละคนมีสไตล์และความชอบที่ต่างกัน จึงส่งอิทธิพลถึงแนวเพลงที่ฟังได้ เช่น หากเป็นคนเปิดเผย ร่าเริง ชอบเข้าสังคม ส่วนใหญ่มักชอบเพลงจังหวะเร็ว สดใส ส่วนคนช่างคิด ชอบค้นคว้า มีโลกส่วนตัวสูง มักโฟกัสได้ดีเมื่อมีดนตรีแจ๊ซ คลาสสิก หรือเพลงไม่มีเนื้อร้องคลอเบาๆ และหากเป็นคนที่มีบุคลิกหัวขบถ ไม่ตามกระแส ก็อาจเป็นคนที่หลงใหลแนวเพลงฮิปฮอป พังก์ หรือเฮฟวีเมทัล ที่สามารถสะท้อนตัวตนได้อย่างชัดเจน

 

คุณค่าทางสังคมและอิทธิพลของดนตรี

คุณค่าทางสังคมและอิทธิพลของดนตรี

ประโยชน์ของดนตรี นอกจากให้ความบันเทิง เยียวยาจิตใจ สร้างบรรยากาศในการทำงาน และสะท้อนตัวตนแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตมนุษย์ในการสื่อสารทางอารมณ์และความหมายที่สะท้อนคุณค่าทางสังคมและวัฒนธรรมของดนตรี ดังนี้

ดนตรีกับการเชื่อมโยงผู้คน

ดนตรีทำหน้าที่เป็นสื่อกลางที่เชื่อมโยงผู้คนจากหลากหลายวัฒนธรรม หลากหลายทางชาติพันธุ์เข้าด้วยกัน ผ่านการฟัง ร้อง หรือเล่นดนตรีร่วมกัน ช่วยสร้างความรู้สึกความเป็นหนึ่งเดียวกันของชุมชนและความผูกพันทางสังคม ประโยชน์ของดนตรีเป็นตัวช่วยให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเดียวกัน แม้จะมาจากต่างถิ่นกัน เช่น งานเทศกาลดนตรีที่มีผู้คนจากหลากหลายพื้นที่มาร่วมสนุกด้วยกัน

ดนตรีกับองค์กรและชุมชน

ดนตรีมีคุณค่าต่อองค์กรและชุมชนในการส่งเสริมความร่วมมือและความสามัคคี ในการจัดกิจกรรมดนตรี เช่น การร้องเพลงประสานเสียง หรืองานเลี้ยงที่จัดขึ้นภายในองค์กร ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีและเพิ่มแรงจูงใจให้สมาชิกอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และทักษะทางสังคมให้เด็กและเยาวชนอีกด้วย

ดนตรีกับการเปลี่ยนแปลงสังคม

คุณค่าของดนตรีที่สำคัญในการเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เพลงที่มีเนื้อหาสะท้อนปัญหาสังคมหรือเรียกร้องความยุติธรรม สามารถกระตุ้นให้คนตระหนักและร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ซึ่งช่วยสร้างแรงบันดาลใจและรวมพลังให้กับผู้คนในการต่อสู้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในด้านต่างๆ 

สรุป

คุณประโยชน์ของดนตรีนั้นมีหลากหลาย ทั้งลดความเครียด กระตุ้นให้สมองหลั่งสารแห่งความสุข เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข นอนหลับง่าย สร้างบรรยากาศที่ดี ช่วยให้โฟกัสได้ดีขึ้น กระตุ้นความจำ ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงการนำองค์ประกอบของดนตรีมาปรับใช้เป็นศาสตร์ดนตรีบำบัด เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการฟื้นฟูสุขภาพของผู้ที่มีปัญหาทางร่างกาย จิตใจ หรืออารมณ์ นอกจากนี้ ดนตรียังมีคุณค่าทางสังคมและอิทธิพลกับการเชื่อมโยงถึงผู้คน องค์กร ชุมชน และส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอีกด้วย

 

ดนตรีเป็นสื่อกลางที่ไม่ว่าคุณจะพูดภาษาใด มีวัฒนธรรมที่ต่างกันอย่างไร ก็สามารถเข้าใจและสนุกร่วมกันได้ แต่อย่าลืมอนุรักษ์ดนตรีท้องถิ่นที่มีความสนุกสนาน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละพื้นที่ ด้วยการผลักดัน Your Hometown Music Media – TEMPO.wav เพื่อให้มีพื้นที่ปลดปล่อย ฟังเพลง ฟังดนตรีง่ายๆ ให้ดนตรีเป็นมากกว่าความบันเทิง และเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความทรงจำและความผูกพันของชุมชน

 

Reference

  1. ห้างดนตรีย่งเส็ง. 10 ประโยชน์ของการเล่นดนตรี ที่ไม่ได้มีดีแค่ความบันเทิง! – yongsengmusical. yongsengmusical.com. Published 22 May 2022. Retrieved 29 May 2025.
  2. เสาวนีย์ สังฆโสภณ. ดนตรีเพื่อสุขภาพ (ตอนที่ 1). si.mahidol.ac.th. Published 6 October 2010. Retrieved 29 May 2025.
  3. AP. พลังแห่งเสียงดนตรีบำบัดจิตใจ. apthai.com. Published 2 June 2023. Retrieved 29 May 2025.
  4. MedPark Hospital. ดนตรีบำบัด (Music Therapy) มีประโยชน์อย่างไร ใครที่ควรบำบัดด้วยดนตรี | MedPark Hospital. medparkhospital.com. Published 31 July 2023. Retrieved 29 May 2025.
  5. Hiromi Kurihara. นอนไม่หลับ สมองคิดตลอดเวลา ฟังเลยตอนนี้ ! 5 เสียงดนตรีที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลาย นอนหลับได้ง่ายขึ้น – Kenko Shop. kenkoshop.co.th. Published 21 February 2022. Retrieved 29 May 2025.
  6. Isuper. การฟังเพลงเป็นประจำ ช่วยอะไรได้บ้าง แค่เราเปิดใจ. isuper.co.th. Published 19 April 2025. Retrieved 29 May 2025.
  7. Cheewajitmedia. 7 ข้อดีของการ ฟังเพลง ได้มากกว่าคำว่าเพลิดเพลิน – Cheewajit. cheewajit.com. Published 5 September 2017. Retrieved 29 May 2025.
  8. วิทชัย สุขเพราะนา. บทบาทของดนตรีที่มีต่อสังคม. artsandculture.mju.ac.th. Retrieved 30 May 2025.
  9. พีรพล สดทรัพย์. ถ้าจะใช้ความคิด ให้เลี่ยงเพลงที่เราร้องได้ ผลวิจัยเผยคนที่เปิดเพลงตอนทำงานจะทำงานได้ดีขึ้นจริง!. creativetalkconference.com. Published 18 November 2023. Retrieved 30 May 2025.
  10. Praornpit Katchwattana. รู้ไว้ดีต่องาน งานวิจัยชี้ฟังเพลงอย่างไร เพิ่มประสิทธิภาพให้การทำงาน – salika. salika.co. Published 28 April 2018. Retrieved 30 May 2025.
  11. Nirvana Beyond. 5 ประโยชน์ของดนตรีบำบัด สร้างพลัง เติมความสุขให้ชีวิต. nirvanadevelopment.co.th. Published 4 August 2017. Retrieved 30 May 2025.

องค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

banner - psycholism
logo - psycholism

Psycholism

พื้นที่สำหรับนักสำรวจความคิด จิตใจ พฤติกรรม และปรากฏการณ์ทางสังคมผ่านมุมมองเชิงจิตวิทยา เราสร้างความตระหนักและความเข้าใจด้วยการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และส่งเสริมความรู้
logo - hear & found

Hear & Found

นักออกแบบสื่อและประสบการณ์ โดยใช้เสียง ดนตรีพื้นบ้านและเรื่องราววัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นองค์ประกอบหลัก เพื่อสร้างการเข้าถึงและสร้างความเข้าใจให้ได้เห็นถึงคุณค่าและความหลากหลายทางวัฒนธรรม