Key Takeaway
- ประเทศไทยมีเต่าทะเลกี่ชนิด? มีทั้งหมด 5 ชนิด ได้แก่ เต่าตนุ เต่ากระ เต่าหญ้า เต่าหัวค้อน และเต่ามะเฟือง ซึ่งแต่ละชนิดต่างมีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล
- เต่าทะเลช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศ เช่น เต่าตนุช่วยควบคุมหญ้าทะเล เต่ากระควบคุมฟองน้ำทะเล และเต่ามะเฟืองช่วยลดจำนวนแมงกะพรุน ทำให้ระบบนิเวศและห่วงโซ่อาหารในทะเลมีความสมบูรณ์
- เต่าทะเลในประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาการสูญเสียถิ่นที่อยู่ การติดเครื่องมือประมง การล่าและเก็บไข่ รวมถึงขยะทะเลและมลพิษ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนเต่าทะเลลดลงอย่างต่อเนื่อง
- แนวทางการอนุรักษ์เต่าทะเล ได้แก่ การปกป้องพื้นที่วางไข่ ลดการจับโดยบังเอิญจากเครื่องมือประมง การรณรงค์ลดขยะพลาสติกในทะเล และการให้ความรู้กับชุมชนเพื่อสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์
ท่ามกลางท้องทะเลอันกว้างใหญ่ เต่าทะเลเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเลมาก ไม่เพียงช่วยควบคุมประชากรแมงกะพรุนและรักษาสมดุลของห่วงโซ่อาหาร แต่ยังเป็นตัวชี้วัดสุขภาพของทะเลและเป็นแรงดึงดูดสำคัญทางการท่องเที่ยว
ปัจจุบันเต่าทะเลกำลังเผชิญกับภัยคุกคามรอบด้าน ทั้งจากกิจกรรมของมนุษย์ การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย การลักลอบจับและการทิ้งขยะลงสู่ทะเล ส่งผลให้เต่าทะเลในประเทศไทยตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ การอนุรักษ์เต่าทะเลจึงไม่ใช่เพียงภารกิจของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพราะทะเลไทยไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ยังเป็นบ้านของเต่าทะเล มาร่วมรักษ์โลกด้วยการอนุรักษ์เต่าทะเลที่กำลังเผชิญวิกฤต ให้สัตว์ทะเลผู้ยิ่งใหญ่คงอยู่คู่ท้องทะเลไทยของเราไปอีกนานแสนนานกัน!
ทำความรู้จัก เต่าทะเลไทยมีกี่ชนิด?
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนว่าเต่าทะเลไทยมีกี่ชนิด สายพันธุ์เต่าในไทยมีอะไรบ้าง มีลักษณะแบบไหน แล้วพบได้บริเวณไหน?
1. เต่ามะเฟือง (Leatherback turtle)
เต่ามะเฟือง (Leatherback turtle) ยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเล เต่ามะเฟืองเป็นเต่าทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีขนาดลำตัวยาวได้กว่า 2 เมตร จุดเด่นคือผิวหนังที่หนาแทนกระดอง และมีสันนูนคล้ายลูกฟูกพาดตามความยาวหลัง เต่ามะเฟืองกินแมงกะพรุนเป็นอาหารหลัก และสามารถกินได้มากถึง 200 กิโลกรัมต่อวัน
พบเห็นได้ทั่วไปในทะเลเปิดและจะอพยพข้ามมหาสมุทรเพื่อหาอาหารและผสมพันธุ์ น่าเสียดายที่เต่ามะเฟืองกำลังตกอยู่ในสถานะวิกฤต “สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์” จากการติดอวนประมงโดยไม่ได้ตั้งใจ และการเข้าใจผิดคิดว่าถุงพลาสติกเป็นอาหาร
2. เต่าตนุ (Green turtle)
สายพันธุ์เต่าในไทยอีกสายพันธุ์คือ เต่าตนุ (Green turtle) ผู้พิทักษ์หญ้าทะเลใกล้สูญพันธุ์ มีกระดองสีเขียวอมน้ำตาลอันเป็นเอกลักษณ์ เต่าตนุเป็นนักกินพืชตัวยง โดยเฉพาะหญ้าทะเล ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตของหญ้าทะเลไม่ให้หนาแน่นจนเกินไป เต่าทะเลชนิดนี้พบได้บ่อยในทะเลเขตร้อน รวมถึงบริเวณหมู่เกาะของประเทศไทย เช่น หมู่เกาะเสม็ดและสิมิลัน
น่าเศร้าที่เต่าตนุถูกคุกคามอย่างหนักจากการทำลายแหล่งทำรังและการติดอวนประมง ทำให้ปัจจุบันถูกจัดเป็นสัตว์ “ใกล้สูญพันธุ์” ที่ต้องการการอนุรักษ์อย่างเร่งด่วน
3. เต่ากระ (Hawksbill turtle)
เต่ากระ (Hawksbill turtle) ผู้พิทักษ์ปะการังผู้งดงาม เต่ากระเป็นสัตว์ทะเลที่มีความโดดเด่นด้วยลวดลายสวยงามบนกระดอง และมีปากแหลมคล้ายจะงอยปากนกอันเป็นเอกลักษณ์ มีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศแนวปะการัง โดยกินฟองน้ำทะเลเป็นอาหารหลัก ช่วยควบคุมไม่ให้ฟองน้ำขยายพันธุ์จนไปแย่งพื้นที่ของปะการัง
เป็นสายพันธุ์เต่าในไทยที่สามารถพบได้ตามแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ในทะเลไทย โดยเฉพาะที่หมู่เกาะสุรินทร์ น่าเสียดายที่เต่ากระกำลังเผชิญกับสถานการณ์วิกฤติขั้นสูงสุด เนื่องจากการถูกล่าเพื่อนำกระดองไปทำเครื่องประดับอย่างต่อเนื่อง ทำให้ “เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์” อย่างมาก
4. เต่าหญ้าหรือเต่าหัวค้อน (Loggerhead turtle)
เต่าหญ้าหรือเต่าหัวค้อน (Loggerhead turtle) ผู้ล่าแห่งท้องทะเลใกล้สูญพันธุ์ เต่าหญ้า หรือที่รู้จักกันในชื่อ เต่าหัวค้อนเป็นเต่าทะเลขนาดใหญ่ที่มีหัวใหญ่และกรามที่แข็งแรงเป็นพิเศษ ทำให้เป็นนักล่าที่เชี่ยวชาญในการกินสัตว์มีเปลือก เช่น หอยและปู
แม้จะพบเห็นได้น้อยในน่านน้ำไทย แต่เต่าชนิดนี้มักอาศัยอยู่ในทะเลเขตอบอุ่นทั่วโลก โดยมักจะขึ้นมาสร้างรังบนชายหาดทรายเปิดโล่งเพื่อวางไข่ น่าเสียดายที่เต่าหญ้ากำลังเผชิญกับการคุกคามอย่างหนักจากขยะทะเลและเครื่องมือประมงประเภทอวนลอย ส่งผลให้ถูกจัดอยู่ในสถานะ “ใกล้สูญพันธุ์” และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในการอนุรักษ์
5. เต่าแสมดำหรือเต่าริดลีย์ (Olive Ridley turtle)
เต่าริดลีย์ (Olive Ridley turtle) ผู้พิทักษ์แห่งท้องทะเลไทย เต่าริดลีย์ หรือที่รู้จักกันในชื่อเต่าแสมดำ เป็นเต่าทะเลที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาเต่าทะเลทั้งหมด ด้วยกระดองสีเทาอมเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ มักจะขึ้นมาวางไข่เป็นกลุ่มใหญ่ ที่เรียกว่า “Arribada” บริเวณชายฝั่งอันดามันและอ่าวไทยของประเทศไทย
อาหารหลักคือกุ้งและปู ซึ่งช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศทางทะเล อย่างไรก็ตาม เต่าริดลีย์กำลังเผชิญกับภัยคุกคามอย่างหนักจากการรบกวนของนักท่องเที่ยวในแหล่งวางไข่ ส่งผลให้ปัจจุบันมีสถานะเป็นสัตว์ที่ “เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์”
ทำไมเต่าทะเลถึงสำคัญต่อระบบนิเวศ?
เต่าทะเลไม่ใช่แค่สัตว์ทะเลน่ารักๆ ที่หลายคนชื่นชอบ แต่คือนักรบผู้พิทักษ์ความสมบูรณ์ของท้องทะเลอย่างแท้จริง เช่น เต่ามะเฟืองที่ช่วยควบคุมประชากรแมงกะพรุนไม่ให้มีมากเกินไป ป้องกันผลกระทบลูกโซ่ต่อสัตว์ทะเลอื่นๆ ขณะที่เต่าตนุจอมแทะเล็มทำหน้าที่เหมือนชาวสวนใต้ทะเล ด้วยการเล็มหญ้าทะเลให้เติบโตแข็งแรง ทำให้ทุ่งหญ้าทะเลกลายเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนที่อุดมสมบูรณ์
ส่วนเต่ากระก็ไม่น้อยหน้า เพราะช่วยกำจัดฟองน้ำทะเลที่อาจไปรุกรานพื้นที่ของปะการังอันเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น การที่แม่เต่าขึ้นมาวางไข่บนชายหาดก็เป็นการเติมสารอาหารให้ผืนทรายอีกด้วย ทำให้พืชและสัตว์ชายฝั่งเจริญเติบโตได้ดี ด้วยบทบาทที่หลากหลายนี้เอง เต่าทะเลจึงเป็นเหมือนเครื่องชี้วัดสุขภาพของทั้งทะเลและชายหาด ถ้ามีเต่าทะเลมาก นั่นหมายถึงระบบนิเวศของเรายังคงสมบูรณ์แข็งแรงนั่นเอง
ปัญหาที่เต่าทะเลในประเทศไทยกำลังเผชิญ
ปัจจุบัน เต่าทะเลในประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาหลายด้านที่คุกคามต่อการอยู่รอด ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงภัยคุกคามโดยตรงจากการล่าและการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย ปัญหาเหล่านี้ล้วนส่งผลให้จำนวนประชากรเต่าทะเลลดลงอย่างต่อเนื่อง และหากไม่มีมาตรการอนุรักษ์เต่าทะเลอย่างจริงจัง อาจนำไปสู่การสูญพันธุ์ของเต่าทะเลในอนาคต
ขยะทะเลและพลาสติก
วิกฤตขยะพลาสติกและปัญหามลพิษทางทะเล เป็นภัยคุกคามชีวิตเต่าทะเล และกำลังเป็นหายนะใหญ่หลวงต่อท้องทะเลและสิ่งมีชีวิตใต้ผืนน้ำ ปัญหาหลักเกิดจากการทิ้งขยะลงสู่ทะเลอย่างไร้ความรับผิดชอบ และหนึ่งในเหยื่อที่น่าสงสารที่สุดคือเต่าทะเล เต่าทะเลมักเข้าใจผิดว่าถุงพลาสติกที่ลอยอยู่ในน้ำคือแมงกะพรุน ที่เป็นอาหารโปรดของเต่าทะเล เมื่อกินพลาสติกเข้าไป พลาสติกเหล่านั้นจะเข้าไปอุดตันในระบบทางเดินอาหาร ทำให้เต่าป่วย อ่อนแอ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
นอกจากอันตรายจากการกินพลาสติกแล้ว ขยะเหล่านี้ยังก่อให้เกิดมลภาวะและทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของเต่าทะเลอีกด้วย หากเราไม่ลงมือแก้ไข ปัญหาขยะทะเลจะยังคงเป็นเงาตามติดชีวิตสัตว์ทะเลที่น่ารักเหล่านี้ไปอีกนานเท่านาน
การสูญเสียพื้นที่วางไข่
ผลกระทบต่อเต่าทะเลไทยจากการพัฒนาชายฝั่ง โดยการพัฒนาและก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างบริเวณชายหาด ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ตหรือถนน ล้วนส่งผลกระทบทำให้เต่าทะเลสูญเสียแหล่งวางไข่ การก่อสร้างต่างๆ ได้รุกรานพื้นที่ชายหาดตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นแหล่งวางไข่สำคัญของเต่าทะเล เมื่อเต่าทะเลมีพื้นที่วางไข่น้อยลง โอกาสที่ไข่จะฟักเป็นตัวและลูกเต่าจะรอดชีวิตจนลงสู่ทะเลได้สำเร็จก็ลดน้อยลงมาก
แสงไฟจากรีสอร์ตและถนนริมชายหาดยังเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่รบกวนพฤติกรรมการวางไข่ของแม่เต่า และที่สำคัญกว่านั้นคือ ทำให้ลูกเต่าที่เพิ่งฟักออกจากไข่เกิดความสับสนทิศทาง ไม่สามารถหาทางลงสู่ทะเลได้จนเป็นอันตรายถึงชีวิต การรบกวนและทำลายแหล่งวางไข่ตามธรรมชาติจึงทำให้ประชากรเต่าทะเลลดลงอย่างน่าเป็นห่วง และอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลในระยะยาวได้
การจับเต่าและเก็บไข่ไปบริโภค
การจับเต่าทะเลคือภัยคุกคามที่ต้องหยุดยั้ง เป็นเรื่องน่าเศร้าที่การจับเต่าทะเลและเก็บไข่เพื่อบริโภคหรือค้าขายยังคงมีให้เห็นในบางพื้นที่ แม้จะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายคุ้มครองสัตว์อย่างชัดเจน การกระทำเหล่านี้ไม่เพียงลดจำนวนเต่าทะเลลงอย่างรวดเร็ว แต่ยังส่งผลกระทบต่อวัฏจักรชีวิตของเต่าทะเลโดยตรง โดยเฉพาะการเก็บไข่เต่า ทำให้ลูกเต่าเกิดใหม่น้อยลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อการอยู่รอดของเต่าทะเลในระยะยาว
ติดเครื่องมือประมง
ในปัจจุบัน เต่าทะเลไทยต้องเผชิญกับภัยร้ายเมื่อติดกับดักหรืออวนประมงขณะออกหาอาหาร จนไม่สามารถขึ้นมาหายใจได้และมักจมน้ำตายอย่างน่าเศร้า การทำประมงที่ไร้การควบคุมยังทำลายแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของเต่าทะเล ทำให้ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ปัญหานี้เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่คร่าชีวิตเต่าทะเลเป็นจำนวนมากในแต่ละปีและเป็นภัยคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพในมหาสมุทรของเราอีกด้วย
แนวทางการอนุรักษ์เต่าทะเล ที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้!
การอนุรักษ์เต่าทะเลไม่ใช่เรื่องไกลตัว ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ในชีวิตประจำวัน เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถช่วยลดภัยคุกคามและเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับเต่าทะเลได้อย่างมาก มาเริ่มต้นดูแลท้องทะเลและสิ่งมีชีวิตที่สำคัญนี้ไปพร้อมกัน ด้วยแนวทางที่ทุกคนทำได้จริง ดังนี้
ไม่ทิ้งขยะลงทะเล
ช่วยเต่าทะเลให้รอดปลอดภัย แค่ไม่ทิ้งขยะลงทะเล! รู้ไหมว่าการไม่ทิ้งขยะ โดยเฉพาะขยะพลาสติกลงทะเล เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยชีวิตเต่าทะเลได้? เต่าทะเลมักเข้าใจผิดว่าถุงพลาสติกคือแมงกะพรุน เมื่อกินเข้าไปก็เป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลย การลดขยะพลาสติกจึงช่วยป้องกันการบาดเจ็บและตายของเต่าทะเลโดยตรง แถมยังช่วยให้ระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งของเราสะอาดสวยงามและยั่งยืนอีกด้วย แค่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ก็สร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ได้แล้ว!
งดรบกวนพื้นที่วางไข่ของเต่า
ช่วยเต่าทะเลวางไข่ ฤดูสำคัญที่คุณทำได้! ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคมคือฤดูวางไข่ของเต่าทะเล โดยเฉพาะตามชายหาดทางภาคใต้ การช่วยเหลือเต่าเป็นเรื่องง่ายๆ แค่งดเดินเหยียบหรือขุดทรายใกล้รัง ลดเสียงดังและเลี่ยงใช้แสงไฟจ้าบนชายหาด การกระทำเล็กๆ เหล่านี้จะช่วยให้แม่เต่าขึ้นมาวางไข่ได้อย่างปลอดภัย และลูกเต่าฟักตัวได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสรอดของเต่าทะเลในธรรมชาติอย่างยั่งยืน
สนับสนุนกิจกรรมอนุรักษ์เต่าทะเล
การอนุรักษ์เต่าทะเลไทยเป็นเรื่องที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้ง่ายๆ คุณสามารถเริ่มต้นจากการเข้าร่วมกิจกรรมปล่อยลูกเต่าทะเล หรือสนับสนุนองค์กรที่ทำงานด้านนี้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ หรือศูนย์ฯ ในจังหวัดต่างๆ เช่น ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลในจังหวัดพังงาและชลบุรี
การบริจาคหรือเป็นอาสาสมัคร ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างความรู้และสนับสนุนงานวิจัยเท่านั้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูประชากรเต่าทะเล และสร้างเครือข่ายการอนุรักษ์ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน เพื่อให้เต่าทะเลยังคงอยู่คู่ท้องทะเลไทยของเราตลอดไป
เฝ้าระวังกรณีเต่าทะเลถูกคุกคาม
ปกป้องเต่าทะเลไทย พบเห็นภัยคุกคาม รีบแจ้ง! เพราะเต่าทะเลกำลังเผชิญหน้ากับภัยคุกคามมากมาย หากคุณพบเห็นเต่าทะเลบาดเจ็บ ติดอวน หรือถูกล่า อย่าลังเลที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที การแจ้งเหตุอย่างรวดเร็วไปยังกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) หรือศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล จะช่วยให้เต่าเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และลดการสูญเสียที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ลงได้ การเฝ้าระวังของคุณคือหัวใจสำคัญในการปกป้องชีวิตอันเปราะบางเหล่านี้!
สรุป
การอนุรักษ์เต่าทะเลเป็นภารกิจที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ นักวิจัย ชุมชนท้องถิ่น และประชาชนทั่วไป แนวทางสำคัญ ได้แก่ การวิจัยและฟื้นฟูประชากรเต่าทะเล การป้องกันการประมงที่ผิดกฎหมาย การรณรงค์ลดขยะทะเล และการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่สังคม เต่าทะเลมีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจ หากปล่อยให้สูญพันธุ์จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ในระยะยาว
ดังนั้น การอนุรักษ์เต่าทะเลไทยจึงเป็นหน้าที่ร่วมกันของเราทุกคน เพื่อให้ท้องทะเลยังคงอุดมสมบูรณ์และมีชีวิตชีวาต่อไป มาร่วมสนับสนุนและอนุรักษ์เต่าทะเลกันได้ที่ Cheewid ที่พร้อมสร้างผลกระทบเชิงบวกให้สังคมไทย เป็นศูนย์กลางที่คอยเชื่อมโยงผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงกับผู้สนับสนุน พร้อมขับเคลื่อนผลกระทบทางสังคมและเสริมสร้างพลังให้กับองค์กร
References
- NGThai. เต่าทะเล 5 สายพันธุ์ ที่อาศัยอยู่ในน่านน้ำไทย. ngthai.com. Published 5 February 2019. Retrieved 30 May 2025.
- ศูนย์องค์ความรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. “เต่าทะเล” ในโลกมี 8 ชนิด พบในประเทศไทย 5 ชนิด. hub.mnre.go.th. Published 20 September 2023. Retrieved 30 May 2025.
- Black Turtle Dive. ทำไมเต่าทะเลถึงสำคัญและทำให้มหาสมุทรอุดมสมบูรณ์. blackturtledive.com. Retrieved 30 May 2025.