เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จัก ปัญหาทางเท้าที่คนไทยต้องเจอ ทั้งฟุตบาทไม่ทนทาน รถจักรยานยนต์ ร้านค้าบนทางเท้า การออกแบบที่ไม่คิดถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ มาสร้างทางเท้าให้ดี เพื่อชีวิตที่ดีกัน!

ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข
ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักปัญหาว่างงานในมิติทางสังคมและเศรษฐกิจส่งผลกระทบในวงกว้าง ควรมีทางออกเพื่อเสริมพลังและสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยกลับมายืนหยัดและมีชีวิตที่ดีได้อย่างเข้มแข็ง

Key Takeaway นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คือโครงการจากรัฐบาลที่กำหนดให้ประชาชนเดินทางในเส้นทางรถไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการได้ในราคาเดียวเพียง 20 บาทตลอดสาย เป้าหมายของโครงการคือสร้างความเท่าเทียม ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสให้คนเมืองทุกกลุ่มเข้าถึงการเดินทางอย่างสะดวก ลดปัญหารถติดและมลพิษ ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาชุมชนเมือง โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของรัฐบาล กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการผลักดันจากผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่มีวิสัยทัศน์ด้านระบบขนส่งมวลชน เชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้าในราคาคงที่ ช่วยให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ความท้าทายของนโยบายนี้ คือความยั่งยืนทางการเงิน ที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลชดเชยผู้ประกอบการ และปัญหาการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า ทุกวันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าทีก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เพราะค่าโดยสารที่สะสมไปแต่ละวันไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่ลองคิดดูว่า… ถ้าเราเดินทางไกลแค่ไหนก็จ่ายเพียง 20 บาท จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากขนาดไหน? ประชาชนได้ประโยชน์เต็มๆ! บทความนี้พามาเจาะลึกนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน เรื่องนี้จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันของผู้คน ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา หรือแม่ค้าพ่อค้า ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางทุกวันแน่นอน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คืออะไร? โครงการค่าโดยสาร 20 บาท คือความตั้งใจง่ายๆ ที่อยากให้การเดินทางสาธารณะเป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงาน หรือผู้สูงอายุ เรื่องนี้เริ่มต้นจากคำถามว่า “ทำไมคนต้องจ่ายค่าโดยสารแพงหลายระดับ บางทีแค่ไปทำงานหรือไปเรียนใกล้ๆ ก็ต้องจ่ายราคาเต็ม?” แนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวจึงเกิดขึ้น เพื่อช่วยลดภาระและทำให้ทุกคนได้รับสิทธิ์เดินทางในราคาเท่ากัน ในปี 2567 ได้เริ่มทำโครงการนำร่องในสายสีแดงและสายสีม่วงแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากเลย ส่วนเรื่องการหาเงินมาจ่ายนั้น รัฐบาลไม่ได้แค่รับภาระทั้งหมดเอง แต่มีการแบ่งงบและจัดสรรเงินมาใช้ชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ให้บริการยังสามารถดำเนินธุรกิจได้และไม่ขาดทุน กลไกนี้ช่วยให้ความมั่นคงในการเดินรถยังดำเนินไปได้ โดยรัฐจะพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้บริการจริงและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนเป็นธรรมและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจว่าจะทำให้คมนาคมสาธารณะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเดินทางและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวที่คนทุกวัยทุกกลุ่มเข้าถึงได้จริง ทำไมนโยบายนี้ถึงสำคัญกับคนเมือง? ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกวัน การเดินทางในเมืองใหญ่จึงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน การมีนโยบายที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางจึงเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามองและหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาได้จริง ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดค่าใช้จ่ายรายวันได้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนและคนที่ต้องเดินทางประจำ การกำหนดราคาเดียวช่วยให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเดินทางไกล เพิ่มโอกาสในการเดินทางและใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นโยบายยังช่วยกระตุ้นให้เกิดชุมชนและธุรกิจใหม่ในเขตชานเมือง เพิ่มความสะดวกและคุณภาพชีวิตในเมืองอย่างยั่งยืน ลดปัญหารถติดและมลพิษ นโยบายนี้ไม่ได้แค่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เมื่อประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ปริมาณรถติดก็ลดลงตามไปด้วย ช่วยลดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน การใช้รถไฟฟ้ายังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ที่สำคัญคือทำให้เมืองน่าอยู่ สะอาด และเดินทางได้คล่องตัวมากขึ้นสำหรับทุกคน สร้างเมืองที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน นโยบายนี้ไม่ได้แค่ทำให้ค่าโดยสารถูกลงเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างเมืองที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นักเรียน หรือผู้สูงอายุ ช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้า สร้างระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมและเป็นธรรม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการเดินทาง และทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นคนทุกกลุ่ม เป้าหมายของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท นโยบายนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยลดภาระค่าเดินทางของคนในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน พร้อมส่งเสริมให้คนใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น สร้างความสะดวกและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ความเท่าเทียมในการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยสร้างความเท่าเทียมในการเดินทาง เพราะไม่ว่าคนจะขึ้นรถไฟฟ้ากี่สายหรือต้องเดินทางไกลเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหนก็จ่ายค่าโดยสารราคาเดียว ทำให้ทุกคนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือรัฐบาลช่วยชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรักษาคุณภาพบริการและทำให้นโยบายนี้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ นโยบายนี้ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพราะราคาค่าโดยสารที่ถูกลงทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่าย ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยังร่วมมือกับกรุงเทพฯ ในการพัฒนาระบบตั๋วร่วมและฟีดเดอร์ระบบขนส่ง เช่น รถเมล์ที่เชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งานระบบได้ครบวงจรขึ้น แก้ปัญหารถติด นโยบายนี้เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ได้ เมื่อค่าโดยสารถูกลง ผู้คนจะหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น ลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวที่วิ่งบนถนนในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน นอกจากจะช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร ยังช่วยลดเวลาการเดินทางและความเครียดของผู้ใช้ถนนด้วย ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบขนส่งของเมือง ทำให้การเดินทางสะดวกและราบรื่นขึ้นโดยรวมในระยะยาว เชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมือง นโยบายนี้เป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจและชุมชนเมืองเติบโตเป็นระบบ การลดค่าเดินทางช่วยเพิ่มกำลังซื้อและโอกาสทางธุรกิจในชุมชนต่างๆ เนื่องจากผู้คนสามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้สะดวกและบ่อยขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าหลายสายยังช่วยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานและสินค้ารวดเร็ว ทำให้ชุมชนต่างๆ มีโอกาสพัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนและลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เบื้องหลังการผลักดันนโยบาย โครงการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นผลลัพธ์ของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลและกรุงเทพฯ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมทำหน้าที่วางแนวนโยบายและจัดสรรงบประมาณ ในขณะที่กรุงเทพฯ นำโดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผลักดันให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น นโยบายรถไฟฟ้ากับชัชชาติในฐานะผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เป็นหัวใจของชีวิตคนเมือง ร่วมกับการส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและมลพิษ พร้อมผลักดันให้โครงการได้ผลจริงในเชิงปฏิบัติ เช่น การเชื่อมโยงเส้นทางและเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและติดตามผล ทำให้นโยบายนี้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองจริงๆ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท… ความท้าทายและคำถามที่ยังคงอยู่ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้จะได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยลดภาระค่าโดยสารของประชาชน แต่ก็ยังเผชิญความท้าทายด้านความยั่งยืนทางการเงินหลักๆ เพราะรัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ แต่จากการศึกษาพบว่า… ต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าสายหลักอยู่ที่ประมาณ 11 บาทต่อเที่ยว ทำให้นโยบายนี้เป็นไปได้ถ้าบริหารจัดการดีและมีแหล่งเงินทุนสนับสนุนที่มั่นคง เช่น การใช้รายได้ภาษีจากภาคขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการบริหารจัดการรายได้และผลประโยชน์ของภาคเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนและการดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ปัญหานี้ยังเป็นอุปสรรคที่ต้องเจรจาและหาข้อตกลงร่วมที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทางเลือกและข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนานโยบายในอนาคต ได้แก่ การผลักดันกฎหมายตั๋วร่วมเพื่อให้ใช้บริการได้ด้วยบัตรเดียวทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทให้เชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะมีความมั่นคงและเข้าถึงได้ง่ายในระยะยาว สรุป นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนเมือง ทำให้การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องง่ายและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ช่วยเชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมืองอย่างทั่วถึง พร้อมแก้ไขปัญหารถติดและมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตคนเมืองอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกรุงเทพฯ และภาคประชาสังคม ซึ่งบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วมและติดตามนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคง FAQ – คำถามที่พบบ่อย โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทครอบคลุมทุกสายไหม? โครงการนี้ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สายสีน้ำเงิน (MRT) สายสีเหลือง สายสีชมพู และ Airport Rail Link (ARL) รวมรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงที่ทำไปแล้วทั้งหมด 8 สาย รวม 13 เส้นทางและกว่า 194 สถานีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางในราคาคงที่เพียง 20 บาทตลอดสาย แม้ต้องเปลี่ยนสายก็จะไม่เกินราคานี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ส่งผลต่อปัญหารถติดในกรุงเทพฯ อย่างไร? นโยบายนี้ช่วยลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เพราะราคาค่าโดยสารถูกลง คุณภาพชีวิตและการเดินทางจึงดีขึ้น ลดความหนาแน่นของการจราจรในช่วงเร่งด่วนได้ ประชาชนมีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายนี้ได้อย่างไร? ประชาชนสามารถร่วมลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และใช้บัตร EMV Contactless หรือบัตร Rabbit แบบ ABT เพื่อยืนยันตัวตน ร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการของระบบขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้นต่อไป
อนาคตเข้าถึงได้! นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท โครงการเปลี่ยนชีวิตคนเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามาเจาะลึกกับนโยบายรถไฟฟ้า20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน

ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน
ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักจากเสียงประชาชนสู่การแก้ไขจริง! Traffy Fondue คือระบบร้องเรียนของ กทม. นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ไขปัญหา เพิ่มคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวกรุงให้ดีขึ้น

พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว กับแนวทางการรับมือ สร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัว

บทความนี้ CHEEWID ทำความเข้าใจแนวทางรับมือกับการเลี้ยงลูกคนเดียวของพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ควรวางแผนอย่างไรให้ตัวเองและลูกก้าวผ่านทุกความท้าทาย เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสไปด้วยกัน
พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว กับแนวทางการรับมือ สร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัว
Table of Contents

Key Takeaway

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวและพ่อเลี้ยงเดี่ยว คือผู้ปกครองที่ต้องดูแลลูกเพียงลำพังหลังจากการสิ้นสุดชีวิตคู่ ไม่ว่าจะจากการหย่าร้าง การเสียชีวิต หรือการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม
  • สาเหตุที่ทำให้เกิดครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว ได้แก่ การหย่าร้างหรือแยกทางกัน การเสียชีวิตของคู่สมรส การมีลูกเมื่อยังไม่พร้อม รวมถึงเหตุการณ์ทอดทิ้งหรือปัญหาครอบครัวอื่นๆ
  • ความท้าทายที่พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องเผชิญ ครอบคลุมด้านจิตใจที่ต้องรับมือกับความเครียดและความเหงา ด้านเวลาที่จำกัดในการดูแลลูก และด้านการเงินที่ต้องแบกรับภาระทั้งหมดคนเดียว
  • วิธีการเลี้ยงลูกคนเดียวสำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ได้แก่ การเลี้ยงลูกอย่างเข้าใจและมั่นใจ วางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ สนับสนุนการเรียนรู้และปลูกฝังสิ่งดีๆ ให้ลูก ดูแลจิตใจตัวเองควบคู่ไปด้วย รวมถึงความพร้อมที่จะขอความช่วยเหลือเมื่อยามจำเป็น

 

ในสังคมปัจจุบันที่ความหลากหลายทางครอบครัวมีมากขึ้น “พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว” ได้กลายเป็นหนึ่งในรูปแบบครอบครัวที่พบเห็นได้ทั่วไป พวกเขาคือผู้ที่แบกรับทั้งบทบาทความเป็นพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจในการเลี้ยงดูลูกให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะด้านอารมณ์ เศรษฐกิจ และสังคม แบกรับทั้งภาระหน้าที่การงาน การเงิน และการจัดสรรเวลา 

บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจแนวทางรับมือกับการเลี้ยงลูกคนเดียวของพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ควรวางแผนอย่างไรให้ตัวเองและลูกก้าวผ่านทุกความท้าทาย เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสไปด้วยกัน

 

แม่เลี้ยงเดี่ยว พ่อเลี้ยงเดี่ยว คือใคร?

แม่เลี้ยงเดี่ยวและพ่อเลี้ยงเดี่ยว หมายถึงคนที่ต้องรับผิดชอบดูแลและเลี้ยงดูลูกเพียงลำพังโดยไม่มีคู่ครอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลจากการหย่าร้าง การเสียชีวิตของคู่สมรส หรือการเลือกที่จะเลี้ยงลูกคนเดียว พวกเขาต้องทำหน้าที่ทั้งในฐานะพ่อหรือแม่ และเป็นเสาหลักของครอบครัวในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านอารมณ์ เศรษฐกิจ และการอบรมเลี้ยงดูลูก การเป็นพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยวจึงต้องอาศัยความเข้มแข็งและความเสียสละอย่างมากในการสร้างครอบครัวที่มั่นคงและอบอุ่น

 

สาเหตุที่ทำให้เกิดครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว

สาเหตุที่ทำให้เกิดครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว

สาเหตุที่ทำให้เกิดครอบครัวลักษณะนี้แตกต่างกันไปตามบริบทของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางสังคม เศรษฐกิจ หรือสถานการณ์ส่วนตัว มาทำความเข้าใจที่มาของครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว เพื่อช่วยให้เราเห็นภาพรวมของความท้าทายและความเข้มแข็งของผู้ปกครองที่ต้องรับผิดชอบดูแลลูกเพียงลำพัง

การหย่าร้าง

การหย่าร้างมักเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสู่บทบาทพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว เมื่อคู่ชีวิตตัดสินใจแยกทางกัน ภาระการเลี้ยงดูบุตรจึงตกอยู่กับคนใดคนหนึ่งเป็นหลัก แม้จะยังคงได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจากอีกฝ่าย แต่การต้องรับผิดชอบทุกอย่างเพียงลำพังก็ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ การปรับตัวไม่เพียงจำกัดอยู่แค่การจัดการชีวิตประจำวัน แต่ยังรวมถึงการรับมือกับภาระทางอารมณ์ที่เพิ่มขึ้น เพื่อประคับประคองครอบครัวให้ก้าวผ่านช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงนี้ไปได้อย่างราบรื่น

การเสียชีวิตของคู่สมรส

อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว คือการสูญเสียคู่สมรสจากการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ คนที่อยู่ข้างหลังต้องแบกรับบทบาททั้งพ่อและแม่ในคราวเดียว โดยปราศจากคู่ชีวิตคอยเคียงข้าง สถานการณ์เช่นนี้มักนำมาซึ่งความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง และความท้าทายครั้งใหญ่ในการปรับตัวเข้าสู่ชีวิตบทใหม่ พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวจึงต้องเผชิญกับภาระหน้าที่ที่หนักหนา ทั้งการเลี้ยงลูกคนเดียวและจัดการทุกสิ่งทุกอย่างภายในบ้านด้วยตัวเอง

การเลือกเลี้ยงลูกคนเดียว

นอกจากนี้ ยังมีคนที่เลือกเส้นทางพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วยความสมัครใจ เช่น การตัดสินใจมีลูกโดยไม่ผ่านการสมรส หรือการรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงดูเพียงลำพัง การตัดสินใจแบบนี้มักเกิดจากความพร้อมทั้งด้านจิตใจและความต้องการส่วนตัว ทำให้ผู้ปกครองกลุ่มนี้ต้องเตรียมรับมือกับความรับผิดชอบและความท้าทายรอบด้าน ทั้งการที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว หรือปัญหา Cyberbullying ในอนาคตที่ลูกอาจจะโดนล้อเรื่องมีพ่อหรือแม่แค่คนเดียว รวมถึงพร้อมรับมมือกับปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกำลังใจหรือด้านการเงินก็ตาม

การมีลูกเมื่อยังไม่พร้อม

ในบางกรณี อย่างการมีลูกในขณะที่ยังไม่พร้อม ไม่ว่าจะเกิดจากการตั้งครรภ์โดยไม่ได้วางแผน หรือการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น อาจนำไปสู่การเป็นพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยว หากอีกฝ่ายไม่สามารถหรือไม่ต้องการรับผิดชอบร่วมกัน ผู้ที่เป็นพ่อหรือแม่จึงต้องดูแลลูกเพียงลำพัง ซึ่งมักต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งการที่ต้องรับมือกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมา รวมถึงต้องจัดการเวลา เพราะบางคนต้องทำงานไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย จนต้องแบกรับความเครียดและความกดดันมากเกินกว่าที่คนๆ หนึ่งจะรับไหว 

ปัญหาการมีลูกเมื่อไม่พร้อมเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เพราะสิ่งนี้มักนำไปสู่ภาวะปัญหาเด็กด้อยโอกาสในอนาคต ส่งผลกระทบต่อทั้งตัวเด็กเองและสังคมโดยรวม ปัญหานี้ต้องการความเข้าใจและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน เพื่อให้เด็กที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์นี้ได้รับโอกาสในการเติบโตและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 

 

ความท้าทายที่แม่เลี้ยงเดี่ยวและพ่อเลี้ยงเดี่ยวต้องเผชิญ

ความท้าทายที่แม่เลี้ยงเดี่ยวและพ่อเลี้ยงเดี่ยวต้องเผชิญ

การเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวถือเป็นบทบาทที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบและความท้าทายหลายด้าน ทั้งทางจิตใจ เวลา และการเงิน ซึ่งส่งผลกระทบทั้งต่อตัวผู้ปกครองเองและลูกที่ต้องเติบโต ความเข้าใจถึงความยากลำบากเหล่านี้ช่วยให้สังคมสามารถสนับสนุนและสร้างความเข้าใจที่ดีขึ้นต่อครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวในอนาคต

ด้านจิตใจ

พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวจำนวนมากต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากการสูญเสียคู่ชีวิตหรือการเปลี่ยนแปลงสถานะครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นความผิดหวัง ความเสียใจ หรือความกังวลต่ออนาคต ซึ่งอาจนำไปสู่ความเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ การดูแลสุขภาพใจของตัวเองจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้พวกเขามีพลังและสามารถดูแลลูกๆ ได้เต็มที่

ในขณะเดียวกัน ลูกๆ ก็อาจได้รับผลกระทบทางอารมณ์เช่นกัน เช่น ความรู้สึกโดดเดี่ยวหรือความวิตกกังวล หากไม่ได้รับการประคับประคองที่เหมาะสม ปัญหาเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางอารมณ์และพฤติกรรม รวมถึงความสัมพันธ์ทางสังคมในอนาคต ดังนั้น การฟื้นฟูจิตใจของทั้งพ่อแม่และลูกจึงเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างรากฐานครอบครัวที่เข้มแข็ง และนำไปสู่สังคมที่มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นในระยะยาว

ด้านเวลา

ในบทบาทของพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว เวลามักเป็นสิ่งที่มีจำกัดอย่างมาก พวกเขาต้องแบกรับภาระทั้งงานบ้าน งานนอกบ้าน และภาระทางการเงินไปพร้อมๆ กัน ทำให้มีเวลาคุณภาพกับลูกลดน้อยลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์และทำให้เด็กรู้สึกว่าขาดการเอาใจใส่ นอกจากนี้ การแบ่งเวลาและความรับผิดชอบทั้งหมดเพียงลำพังยังนำมาซึ่งความเครียดสะสมและความเหนื่อยล้าทั้งกายและใจอีกด้วย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงดูและพัฒนาการของลูกในระยะยาว

ด้านการเงิน

สำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ปัญหาทางการเงินมักเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดแล้ว เพราะรายได้ที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทุกอย่างเพียงลำพัง มักจะน้อยกว่าครอบครัวที่มีผู้ปกครองสองคน ทำให้การจัดหาสิ่งจำเป็นอย่างการศึกษา อุปกรณ์การเรียน หรือกิจกรรมนอกหลักสูตร กลายเป็นเรื่องยาก ซึ่งอาจจำกัดโอกาสและพัฒนาการของเด็กในระยะยาว 

ไม่เพียงเท่านั้น ความกังวลทางการเงินยังเป็นบ่อเกิดของความเครียดสะสม ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพจิตและแนวทางการเลี้ยงดูลูก ปัญหาเหล่านี้จึงไม่เพียงแต่ส่งผลต่อครอบครัว แต่ยังเชื่อมโยงถึงปัญหาทางสังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะความเสี่ยงที่เด็กๆ อาจขาดโอกาสด้านการศึกษาและการเข้าสังคมในอนาคต

 

 

แนวทางจัดการสำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว

แนวทางจัดการสำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว

การเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งการดูแลลูก การบริหารเวลา และจัดการการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างครอบครัวที่อบอุ่นและมั่นคง พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวจึงควรมีวิธีการเลี้ยงลูกที่ชัดเจน รวมถึงดูแลตัวเองควบคู่กันไป เพื่อให้ทั้งตัวเองและลูกน้อยเติบโตอย่างมีคุณภาพ

1. เลี้ยงลูกอย่างเข้าใจและมั่นใจ

สำหรับแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือพ่อเลี้ยงเดี่ยว การสื่อสารที่เปิดใจและซื่อตรงกับลูกคือเรื่องสำคัญในการสร้างความเข้าใจและความมั่นใจซึ่งกันและกัน การเป็นผู้ฟังที่ดีและคอยให้กำลังใจลูกอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวในใจเด็ก และเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แข็งแกร่งขึ้น ที่สำคัญคือการเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างอิสระ โดยปราศจากความกดดันหรือความคาดหวังที่มากเกินไป

2. วางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ

พ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวหากต้องการความมั่นคงในเรื่องเงิน ควรวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจึงจำเป็นต้องจัดการอย่างรัดกุม เริ่มจากการจัดสรรงบประมาณให้ชัดเจนในแต่ละส่วน วางแผนออมเงินเพื่ออนาคตทางการศึกษาของลูก และมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริมเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง นอกจากนี้ การทำประกันยังเป็นอีกหนึ่งวิธีในการกระจายความเสี่ยง และสร้างหลักประกันให้ครอบครัวก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นใจในระยะยาว

3. สนับสนุนด้านการเรียนรู้ให้ลูก

วิธีการเลี้ยงลูกให้ฉลาดสำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว คือการบ่มเพาะการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของลูกน้อยอยู่เสมอ เปิดโอกาสให้พวกเขาได้ค้นพบสิ่งที่สนใจและความถนัดของตัวเองอย่างเต็มที่ พร้อมมอบคำแนะนำและแรงสนับสนุนที่เหมาะสม เพื่อให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจและสามารถสร้างความสุขในแบบฉบับของตัวเองได้สำเร็จ

4. ปลูกฝังสิ่งดีๆ ให้ลูก

วิธีการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีนั้นสำคัญมากๆ พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวควรปลูกฝังคุณธรรมและค่านิยมอันดีงามแก่ลูกๆ เพราะความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และความอดทน คือเสาหลักที่จะช่วยให้พวกเขามีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง พ่อแม่จึงควรเป็นแบบอย่างที่ดี พร้อมสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเข้าใจ เพื่อฝึกฝนให้ลูกเติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพทั้งทางด้านจิตใจและสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. หมั่นดูแลจิตใจตัวเองด้วย

สำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว การดูแลสุขภาพจิตใจของตัวเองก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะพ่อแม่ที่จิตใจมั่นคง ย่อมส่งผลให้ลูกมีจิตใจที่มั่นคงตามไปด้วย สามารถเริ่มต้นด้วยการยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก่อน และค่อยๆ ฟื้นฟูคุณค่าในตัวเองขึ้นมาใหม่ สิ่งสำคัญคืออย่าเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่น เพราะแต่ละคนมีเส้นทางที่แตกต่างกัน การดูแลจิตใจให้เข้มแข็งจะช่วยเติมพลังและแรงกายให้มีกำลังใจเต็มเปี่ยม เพื่อทุ่มเทดูแลลูกรักได้ดีที่สุด

6. ขอความช่วยเหลือเมื่อรู้สึกไม่ไหว

แม่เลี้ยงเดี่ยว หรือพ่อเลี้ยงเดี่ยว ไม่จำเป็นต้องแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว การเปิดใจยอมรับความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนสนิท องค์กรช่วยเหลือสตรีและเด็ก หรือแม้แต่กลุ่มพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วยกัน มีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระและคลายความเครียดได้มาก การมีเครือข่ายสนับสนุนที่เข้มแข็งแบบนี้จะช่วยให้ชีวิตก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างสมดุลและมีความสุข

 

แหล่งช่วยเหลือจากภาครัฐและองค์กรในประเทศไทย

แหล่งช่วยเหลือจากภาครัฐและองค์กรในประเทศไทย

ภาครัฐและองค์กรต่างๆ ในประเทศไทยมีการจัดสวัสดิการและบริการช่วยเหลือสำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวและครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวอย่างครบวงจร เพื่อบรรเทาความยากลำบากและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งในด้านการเงิน สุขภาพจิต และการดูแลเด็ก โดยมีสายด่วนและหน่วยงานที่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือตลอดเวลาเลย

สายด่วน พม. 1300

สายด่วน พม. 1300 ให้บริการช่วยเหลือและให้คำปรึกษาด้านสวัสดิการสังคมสำหรับครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว รวมถึงกลุ่มเปราะบางอื่นๆ เช่น เด็ก สตรี และผู้สูงอายุ โดยสามารถแจ้งปัญหา ขอคำแนะนำ หรือร้องขอความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ เช่น การดูแลเด็ก การช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ

  • ติดต่อ 1300

สายด่วนสุขภาพจิต 1323

สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ให้บริการให้คำปรึกษาและช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาความเครียด ซึมเศร้า หรือภาวะทางจิตใจ รวมถึงพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องการคำแนะนำในการจัดการความเครียดและดูแลจิตใจของตัวเองและลูกน้อย

  • ติดต่อ 1323

สำนักงานประกันสังคม

สำนักงานประกันสังคมให้บริการด้านสิทธิประโยชน์และสวัสดิการสำหรับผู้ประกันตน เช่น เงินสงเคราะห์บุตร เงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล และประกันสังคมในกรณีเจ็บป่วยหรือว่างงาน ซึ่งช่วยบรรเทาภาระทางการเงินของแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่เป็นผู้ประกันตนได้

  • ติดต่อ 1506

กรมกิจการเด็กและเยาวชน

กรมกิจการเด็กและเยาวชนมีหน่วยงานภายในที่พร้อมช่วยเหลือ มีบ้านพักเด็กและครอบครัวในทุกจังหวัดเพื่อให้บริการช่วยเหลือเด็กและครอบครัวที่ประสบปัญหาต่างๆ เช่น การเลี้ยงดูเด็ก การป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว รวมถึงการให้คำปรึกษาและดูแลเด็กที่อยู่ในภาวะเสี่ยงด้วย

  • ติดต่อ 0-2255-5850-7, 0-2253-9116-7 (อัตโนมัติ)

มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว (Family Network Foundation)

มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว (Family Network Foundation) ให้การสนับสนุนและส่งเสริมแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือพ่อเลี้ยงเดี่ยวผ่านการจัดกิจกรรมอบรม ให้คำปรึกษา และสร้างเครือข่ายเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ ช่วยให้พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวมีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตัวเองได้

  • ติดต่อ 012-345-6789

มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก

มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กให้บริการช่วยเหลือและคุ้มครองเด็กที่ถูกละเมิดสิทธิ์หรือประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว รวมถึงให้คำปรึกษาและสนับสนุนครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวในการดูแลอย่างมีประสิทธิภาพและปกป้องสิทธิของเด็กอย่างเหมาะสม

 

สรุป

แม่เลี้ยงเดี่ยว หรือพ่อเลี้ยงเดี่ยวต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งด้านจิตใจ เวลา และการเงิน แต่ด้วยการเลี้ยงลูกอย่างเข้าใจ วางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ และสนับสนุนการเรียนรู้ของลูก รวมถึงการดูแลจิตใจตัวเองและขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น จะช่วยให้ครอบครัวมีความเข้มแข็งและอบอุ่นมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแหล่งช่วยเหลือจากภาครัฐและองค์กรต่างๆ ที่พร้อมสนับสนุนพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวสำหรับผู้ที่ต้องการคำปรึกษาหรือความช่วยเหลืออีกด้วย

Cheewid ขอเป็นกระบอกเสียงให้เหล่าพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกเดียวได้รับแรงสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยจะเป็นตัวกลางระหว่างองค์กรสนับสนุนและผู้รับบริจาค เพื่อให้ครอบครัวเลี่ยงเดียวสามารถผ่านมรสุมนี้ไปได้อย่างราบรื่น พร้อมสร้างอนาคตให้เด็กๆ ได้เติบโตขึ้นมาอย่างมีประสิทธิภาพ

 

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

มาถึงช่วงสุดท้ายกับคำถามที่พบบ่อย พร้อมคำตอบที่จะมาไขข้อสงสัยให้กับหลายๆ คนที่ยังไม่เข้าใจเรื่องพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว

แม่เลี้ยงเดี่ยวเตรียมตัวยังไง?

แม่เลี้ยงเดี่ยวควรเตรียมตัวทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเน้นการสร้างความมั่นใจในบทบาทพ่อแม่คนเดียว พร้อมวางแผนการเงินและจัดสรรเวลาให้เหมาะสม รวมถึงเปิดใจรับการช่วยเหลือจากคนรอบข้าง เพื่อให้สามารถดูแลลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพและอบอุ่น

จิตวิทยาการเลี้ยงดูเด็ก 10 ประการ มีอะไรบ้าง?

จิตวิทยาการเลี้ยงดูเด็ก 10 ประการ ได้แก่

  1. ให้ความอบอุ่นและความปลอดภัย
  2. หาจุดแข็งและจุดอ่อนของลูก
  3. สื่อสารอย่างเปิดใจ
  4. ควบคุมอารมณ์ของพ่อแม่
  5. สอนลูกด้วยเหตุผลและความเมตตา
  6. ให้ลูกมีอิสระแต่ไม่ละเลย
  7. ฝึกให้ลูกรับผิดชอบและช่วยเหลือตัวเอง
  8. ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง
  9. สอนจริยธรรมและความเห็นอกเห็นใจ
  10. สนับสนุนให้ลูกแสดงออกความรู้สึกอย่างเหมาะสม

 

อะไรคือข้อห้ามในการเลี้ยงทารก?

ข้อห้ามในการเลี้ยงทารกรวมถึงหลีกเลี่ยงการตีหรือดุลูกเมื่อทำผิด เพราะจะทำให้เกิดบาดแผลทางจิตใจ ควรสอนด้วยความใจเย็นและเหตุผล หลีกเลี่ยงการปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังโดยไม่มีการดูแล และไม่ควรให้เด็กดูหน้าจอมากเกินไปก่อนอายุ 2 ขวบ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการที่เหมาะสมและสุขภาพจิตที่ดี

 

References

  1. นวพรรษ บุญชาญ. ปัญหาสุขภาพจิตพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยว. rajanukul.go.th. Retrieved 7 July 2025. 

องค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

banner - กสศ
logo - กสศ

กสศ. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา

เราสนับสนุนช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา เสริมสร้าง พัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครู
logo - มูลนิธิไทยรัฐ

มูลนิธิไทยรัฐ

เราเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการศึกษา และช่วยเหลือกิจกรรมเกี่ยวกับการศึกษาแก่นักเรียนที่ยากจนและนักเรียนดีเด่นทั่วไป ส่งเสริมการศึกษา และค้นคว้าวิจัยงานหนังสือพิมพ์ร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์เพื่อเด็กๆ

banner - sos เด็กโสสะ

มูลนิธิโสสะแห่งประเทศไทยฯ

เราช่วยเหลือเด็กที่สูญเสียบิดามารดา ขาดญาติมิตร ในรูปแบบของครอบครัวทดแทนถาวรระยะยาว เพื่อให้เด็กสามารถประกอบอาชีพและเลี้ยงดูตัวเองได้ไม่เป็นภาระต่อสังคม