เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
เส้นทางและพัฒนาการของเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทย
เส้นทางเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทย รสชาติสุดเอกลักษณ์จากไร่สู่ตลาดโลก

บทความนี้ CHEEWID จะพามรู้จักเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยกำลังเป็นที่จับตามองในตลาดสากล ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเกษตรกรไทย เจาะลึกที่มา ทิศทางอนาคตในตลาดโลกไปพร้อมกันในบทความนี้!

เที่ยวแบบไม่ต้องห่วงน้อง! 15 สถานที่ Pet Friendly ที่ไม่ควรพลาด
เที่ยวแบบไม่ต้องห่วงน้อง! 15 สถานที่ Pet Friendly ที่ไม่ควรพลาด

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักรวม 15 สถานที่ที่สาย Pet Friendly พาน้องๆ ออกเที่ยวได้แบบไร้กังวล ทั้งคาเฟ่ โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง บรรยากาศดี สะดวกสบาย ไร้กังวล

Sustainability คืออะไร? แนวทางในการจัดการทรัพยากรเพื่อความยั่งยืน
Sustainability คืออะไร? แนวทางในการจัดการทรัพยากรเพื่อความยั่งยืน

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จัก Sustainability คือแนวทางในการพัฒนาและจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายสภาพแวดล้อมและไม่สร้างผลกระทบในระยะยาว เพื่อสร้างสมดุลโลกที่ยั่งยืน

การบริจาคเตียงผู้ป่วยเพื่อให้การรักษาดีขึ้น ช่วยเหลือผู้ป่วยในยามวิกฤต
การบริจาคเตียงผู้ป่วยเพื่อให้การรักษาดีขึ้น ช่วยเหลือผู้ป่วยในยามวิกฤต

บทความนี้ื CHEEWID จะพามารู้จักการบริจาคเตียงผู้ป่วยช่วยสนับสนุนการรักษาในยามวิกฤต ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถรองรับผู้ป่วยได้มากขึ้น และลดภาระเจ้าหน้าที่ ทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่มีคุณภาพ

เส้นทางเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทย รสชาติสุดเอกลักษณ์จากไร่สู่ตลาดโลก

บทความนี้ CHEEWID จะพามรู้จักเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยกำลังเป็นที่จับตามองในตลาดสากล ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเกษตรกรไทย เจาะลึกที่มา ทิศทางอนาคตในตลาดโลกไปพร้อมกันในบทความนี้!
เส้นทางและพัฒนาการของเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทย
Table of Contents

Key Takeaway

  • กาแฟพันธุ์ไทยเริ่มจากการนำเข้าจากต่างประเทศมาปลูกในประเทศ ก่อนพัฒนาให้เหมาะกับพื้นที่ปลูกทั้งในภาคเหนือและใต้ จนกลายเป็นแหล่งผลิตกาแฟคุณภาพสูงที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ด้วยความร่วมมือจากเกษตรกรและหลายภาคส่วน
  • เมล็ดกาแฟสายพันธุ์ไทยยอดนิยม ได้แก่ อะราบิกาที่นิยมปลูกในภาคเหนือ และโรบัสตาที่นิยมปลูกในภาคใต้ เช่น ชุมพรและสุราษฎร์ธานี กาแฟแต่ละสายพันธุ์มีเอกลักษณ์ด้านรสชาติและเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ต่างกัน ทำให้กาแฟไทยมีความหลากหลายและโดดเด่น
  • เมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยมีแนวโน้มเติบโตในตลาดโลก ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และคุณภาพที่ได้รับการยอมรับ การพัฒนาเทคโนโลยี การตลาด และการสร้างแบรนด์จะช่วยผลักดันกาแฟไทยให้แข่งขันได้ในระดับสากล

 

เมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยกำลังเริ่มเป็นที่รู้จักในตลาดกาแฟระดับโลก ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และวิธีการปลูกที่สะท้อนความใส่ใจของเกษตรกรไทยจากไร่สู่แก้วกาแฟ กาแฟไทยมีรสชาติซับซ้อนและกลิ่นหอมที่น่าหลงใหล ทำให้เมล็ดกาแฟไทยได้รับความนิยมจากนักดื่มกาแฟทั่วโลก ไม่เพียงแต่ในประเทศแต่ยังขยายไปสู่ตลาดระดับพรีเมียมในต่างประเทศ

บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงสายพันธุ์กาแฟที่นิยมในไทย ทิศทางการเติบโตในตลาดโลก และอนาคตที่น่าจับตามองในวงการกาแฟระดับพรีเมียมที่กำลังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคทั่วโลก

เส้นทางและพัฒนาการของเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทย

เส้นทางและพัฒนาการของเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทย

เส้นทางและพัฒนาการของเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยเริ่มต้นจากการนำเข้ากาแฟจากต่างประเทศในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 ก่อนจะมีการปรับปรุงและพัฒนาเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยให้มีคุณภาพที่ดีในปัจจุบัน เมล็ดกาแฟไทยปลูกในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคใต้ ซึ่งเป็นแหล่งที่มีดินและสภาพอากาศที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกาแฟ

ปัจจุบันภาคเหนือกลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟอะราบิกาที่สำคัญของประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน และลำปาง ซึ่งมีกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) คุณภาพสูงมากมาย ส่วนภาคใต้ยังคงเป็นแหล่งปลูกกาแฟโรบัสตาเป็นหลัก เช่น ในจังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช นอกจากนี้ ยังมีการปลูกกาแฟลิเบอริกา และกาแฟเอ็กซ์เซลซาบ้างเล็กน้อย ซึ่งมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ กาแฟไทยได้พัฒนาคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความใส่ใจของเกษตรกร ผู้ประกอบการ และการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน ทำให้กาแฟไทยไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการภายในประเทศ แต่ยังก้าวสู่การเป็นกาแฟที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับในระดับสากลอีกด้วย

จุดเด่นเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทย จากไร่สู่ตลาดโลก

จุดเด่นเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทย จากไร่สู่ตลาดโลก

เมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ค่อยๆ ก่อร่างสร้างชื่อจากไร่ไปสู่สายตาของผู้บริโภคทั่วโลก ความโดดเด่นเริ่มต้นตั้งแต่ต้นทางคือภูมิประเทศของไทย โดยเฉพาะทางภาคเหนือที่มีอากาศเย็น ดินดี และระดับความสูงที่เหมาะสมต่อการปลูกกาแฟสายพันธุ์อะราบิกา ที่ได้มีรสชาติซับซ้อน กลิ่นหอมชัดเจน นุ่มละมุนที่เป็นเอกลักษณ์ 

ในส่วนของกาแฟโรบัสตาที่ปลูกในภาคใต้ของไทย เติบโตได้ดีในพื้นที่ราบและอากาศร้อนชื้น จึงมีรสชาติเข้ม กลิ่นหอมชัดเจน บอดี้แน่น มีความขมอมเปรี้ยว ทำให้กาแฟชนิดนี้ได้รับความนิยมในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปต่างๆ

อีกทั้งเมล็ดกาแฟไทยเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงเรื่องราวของผู้คน วิถีชีวิต กระบวนการผลิตที่เน้นความยั่งยืน หลายชุมชนเลือกใช้วิถีเกษตรอินทรีย์ ปลูกกาแฟร่วมกับป่า ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และความตั้งใจของชุมชนท้องถิ่น ที่ร่วมกันยกระดับคุณภาพอย่างต่อเนื่อง นี่จึงไม่ใช่แค่กาแฟถ้วยหนึ่ง แต่เป็นเรื่องราวจากไร่เล็กๆ ที่เดินทางไกลสู่โต๊ะกาแฟระดับโลก

เมล็ดกาแฟไทยยอดนิยม

รวม 2 สายพันธุ์เมล็ดกาแฟไทยยอดนิยม

รวม 2 สายพันธุ์เมล็ดกาแฟไทยยอดนิยม

ในประเทศไทยมีการแบ่งแยกสายพันธุ์กาแฟที่ได้รับความนิยม เช่น กาแฟอะราบิกาและกาแฟโรบัสตา ซึ่งแต่ละพันธุ์มีลักษณะเด่นของกลิ่น รสชาติ และวิธีการปลูกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

1. กาแฟอะราบิกา (Arabica)

เมล็ดกาแฟสายพันธุ์อะราบิกา ถือเป็นสายพันธุ์กาแฟที่นิยมในไทยและทั่วโลกมากถึง 80% เนื่องจากรสชาติที่ละมุน นุ่ม และมีกลิ่นหอมคล้ายช็อกโกแลต ซึ่งชวนดื่มเป็นอย่างมาก อีกทั้งปริมาณคาเฟอีนในเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยไม่สูงเกินไป โดยอยู่ที่ไม่เกิน 1.7% สังเกตลักษณะของเมล็ดกาแฟอะราบิกาได้จากเส้นตรงกลางที่มีลักษณะคล้ายตัว S ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์กาแฟชนิดนี้

เมล็ดกาแฟสายพันธุ์อะราบิกานิยมปลูกในเขตอากาศหนาวเย็นในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ตาก แม่ฮ่องสอน น่าน และลำปาง ซึ่งเหมาะสมกับสภาพอากาศเย็นและชื้นของพื้นที่เหล่านี้ จึงทำให้กาแฟอะราบิกาในไทยได้รับความนิยมและมีคุณภาพที่ดี

2. กาแฟโรบัสตา (Robusta)

เมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสตา โดดเด่นด้วยรสชาติที่เข้มข้นและขม ทำให้บอดี้ของกาแฟหนักและมีกาเฟอีนอยู่ในช่วง 2 – 4.5% ซึ่งถือเป็นสายพันธุ์กาแฟที่นิยมในไทย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติของกาแฟแบบเข้มและแรงกว่าสายพันธุ์กาแฟอื่น โรบัสตาเป็นสายพันธุ์กาแฟในไทยที่ปลูกอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในเขตภาคใต้ของไทย เช่น ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เนื่องจากเมล็ดกาแฟพันธุ์โรบัสตาจะเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง

ด้วยความเข้มของกาแฟที่สูงมาก เมล็ดกาแฟไทยสายพันธุ์โรบัสตาจึงถูกนำไปใช้ในการผลิตกาแฟสำเร็จรูป หรือกาแฟ 3 in 1 ที่ได้รับความนิยมในตลาด ทั้งในและต่างประเทศ

คั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม เลือกแบบไหน? ถูกใจที่สุด

คั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม เลือกแบบไหน? ถูกใจที่สุด

เลือกเมล็ดกาแฟให้เหมาะสมกับลักษณะการดื่มของแต่ละคน และสามารถเลือกได้ง่ายๆ ตามรสนิยมรสชาติที่ชอบ ตั้งแต่กาแฟดำ กาแฟนม หรือกาแฟที่มีรสชาติสดชื่นและเบาสบาย ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟที่เลือกใช้ ดังนี้

คั่วอ่อน (Light Roast)

เมล็ดกาแฟคั่วอ่อน (Light Roast) มักมีสีอ่อน น้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลทอง และไม่มันเงา เนื่องจากน้ำมันจากเมล็ดยังไม่ออกมา เมื่อคั่วในระดับนี้จะให้รสชาติสดชื่น เปรี้ยวหวาน ไม่ขมมาก เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบกาแฟที่มีความเบาและสดใหม่ ไม่เข้มหรือขมจนเกินไป

  • รสชาติ — มีรสชาติที่สดชื่นและเปรี้ยว มีกลิ่นและรสในโทนฟรุ๊ตตี้ ดอกไม้ หรือซิตรัส (Citrus) ให้ความรู้สึกเบา สดใหม่ และซับซ้อน
  • คาเฟอีน — เนื่องจากการคั่วไม่นาน เมล็ดกาแฟคั่วอ่อนยังคงรักษาความเข้มข้นของคาเฟอีนไว้สูงกว่าระดับการคั่วอื่นๆ โดยมีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 1.2 – 1.5% ของน้ำหนักเมล็ดกาแฟดิบ จึงช่วยให้พลังงานที่ยาวนานและกระปรี้กระเปร่า
  • เมนูกาแฟ — เหมาะกับการทำ Pour Over, Cold Brew และกาแฟดริป ซึ่งช่วยให้สามารถดึงรสชาติสดชื่นและกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟได้อย่างเต็มที่

คั่วกลาง (Medium Roast)

เมล็ดกาแฟคั่วกลาง (Medium Roast) จะมีสีเป็นน้ำตาลกลาง และอาจเริ่มมีความมันเงาบางๆ บนผิวเมล็ด เมื่อคั่วในระดับนี้จะได้รสชาติที่กลมกล่อม ดื่มง่าย ไม่เปรี้ยวหรือขมจนเกินไป เมล็ดกาแฟที่คั่วกลางเหมาะกับผู้ที่ต้องการกาแฟที่มีรสชาติสมดุล สามารถดื่มได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกหนักเกินไป

  • รสชาติ — มีรสชาติสมดุลระหว่างความเปรี้ยว หวาน และขม พร้อมกลิ่นหอมชัดเจน มีรสชาติของถั่ว ช็อกโกแลต หรือคาราเมล
  • คาเฟอีน — คาเฟอีนอยู่ในระดับปานกลาง ไม่แรงเกินไป โดยมีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 1.1 – 1.2% ของน้ำหนักเมล็ดกาแฟดิบ ซึ่งจะน้อยกว่ากาแฟคั่วอ่อนเล็กน้อย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรสชาติเข้มข้นแต่ไม่เกินความพอดี
  • เมนูกาแฟ — เหมาะกับกาแฟดริป เอสเพรสโซ และคาเฟ่ลาเต้ ซึ่งช่วยให้รสชาติที่สมดุลและกลิ่นหอมได้เต็มที่

คั่วเข้ม (Dark Roast)

เมล็ดกาแฟคั่วเข้ม (Dark Roast) มักมีสีน้ำตาลเข้มหรือดำและมันเงา เนื่องจากน้ำมันจากเมล็ดออกมามาก การคั่วในระดับนี้จะมีรสชาติเข้มข้นและขมนิดๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติกาแฟรสเข้ม ขมนุ่ม ลึก และมีกลิ่นคั่วชัดเจน เมล็ดกาแฟในระดับคั่วเข้มนี้จะให้ความรู้สึกของรสชาติที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและกลิ่นหอมที่รุนแรง

  • รสชาติ — มีความเข้มข้น หนักแน่น และกลิ่นคั่วชัดเจน รสขมจะเด่นกว่ากาแฟคั่วอ่อนหรือคั่วกลาง มักมีโทนรสชาติที่ใกล้เคียงกับคาราเมล ช็อกโกแลต ดาร์กโกโก้ ถั่วคั่ว หรือแม้แต่กลิ่นไหม้เล็กน้อย
  • คาเฟอีน — คาเฟอีนต่ำกว่าคั่วอ่อนและคั่วกลาง โดยมีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 0.9 – 1.1% ของน้ำหนักเมล็ดกาแฟดิบ เนื่องจากความร้อนที่ใช้ในการคั่วทำลายคาเฟอีนบางส่วน แม้คาเฟอีนจะน้อยแต่กาแฟคั่วเข้มจะให้รสชาติที่เข้มข้น หนักแน่น ขมนุ่ม และมีกลิ่นคั่วชัดเจน
  • เมนูกาแฟ — เหมาะกับการทำเอสเพรสโซ มอคค่า อเมริกาโน่ และกาแฟนม ที่ต้องการรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอมแบบเข้มข้น

บางครั้งอาจพบระดับคั่วอื่นๆ เช่น คั่วกลาง – เข้ม (Medium-Dark Roast) ให้ความเข้มข้นและกลิ่นคั่วชัดเจนมากขึ้นโดยยังไม่หนักเท่าคั่วเข้ม เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสชาติที่บาลานซ์หรือกำลังมองหาจุดกึ่งกลางระหว่างรสเปรี้ยวสดใสกับความเข้มขมของกาแฟคั่วลึก หรือคั่วอ่อน – กลาง (Light-Medium Roast) ที่คงความเปรี้ยวสดชื่นแบบคั่วอ่อน แต่เริ่มมีความกลมกล่อมและบอดี้มากขึ้น ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัวและเหมาะกับความชอบในรสชาติที่แตกต่างกัน

ทิศทางและอนาคต เมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยในตลาดโลก

ทิศทางและอนาคต เมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยในตลาดโลก

อนาคตของเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยในตลาดโลกกำลังเติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยสายพันธุ์กาแฟจากไทยได้รับการยอมรับและมีความนิยมเพิ่มขึ้นในต่างประเทศ ความสนใจในเมล็ดกาแฟไทยที่มีเอกลักษณ์ทั้งรสชาติและคุณภาพเป็นสัญญาณของการเติบโตนี้ การเพิ่มขึ้นของการส่งออกต้องการการปรับตัวของเกษตรกรและผู้ผลิตเพื่อยกระดับคุณภาพการผลิต

การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ จะช่วยพัฒนาคุณสมบัติของเมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ โดยการพัฒนาคุณภาพของสายพันธุ์กาแฟในไทยให้ตอบโจทย์ความต้องการในระดับสากลเป็นสิ่งสำคัญ การสร้างแบรนด์และการตลาดที่มีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มมูลค่าและทำให้กาแฟไทยเป็นที่รู้จักในตลาดโลกมากขึ้น ช่วยให้สายพันธุ์กาแฟไทยเติบโตและมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมกาแฟโลกในอนาคต

สรุป

เมล็ดกาแฟพันธุ์ไทยได้รับความนิยมในตลาดโลก โดยเฉพาะสายพันธุ์อะราบิก้าและโรบัสตา ที่มีรสชาติกลมกล่อมและกลิ่นหอมเฉพาะตัว การปลูกในพื้นที่สูงของภาคเหนือช่วยเสริมรสชาติที่มีเอกลักษณ์ ขณะที่โรบัสตา ซึ่งปลูกในภาคใต้จะมีรสเข้มข้นและขม 

 

เมื่อได้รู้เกี่ยวกับเมล็ดกาแฟไทยแล้ว วิธีเลือกระดับการคั่วก็สำคัญ เพราะส่งผลต่อรสชาติและความเข้มข้น เช่น เมล็ดคั่วอ่อนจะให้รสชาติสดชื่นและคาเฟอีนสูง เหมาะกับ Pour Over หรือ Cold Brew ส่วนคั่วกลางมีรสชาติสมดุล เหมาะกับกาแฟดริปหรือเอสเพรสโซ และคั่วเข้มมีรสชาติหนัก เหมาะกับเอสเพรสโซหรือกาแฟนม 

นอกจากนี้ การพัฒนาเมล็ดกาแฟไทยให้มีคุณภาพสูงและตอบสนองความต้องการของตลาดโลก เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของกาแฟไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาความพิเศษและรสชาติที่มีเอกลักษณ์

References

  1. Peaberry Thai. รู้จักสายพันธุ์กาแฟที่นิยมปลูกในไทย สัมผัสเสน่ห์ของรสชาติที่แตกต่าง.. peaberrythai.com. Retrieved 23 April 2025.
  2. Chao Doi Coffee. ชวนดูแหล่งปลูกกาแฟในประเทศไทย จังหวัดไหนตัวท็อป!. chaodoi.co.th. Published 19 December 2023. Retrieved 23 April 2025.
  3. Barista Buddy. เรียนรู้การคั่วกาแฟ 3 ระดับ แบบฉบับมือโปร. baristabuddy.co.th. Retrieved 23 April 2025.

องค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

banner - กสศ
logo - กสศ

กสศ. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา

เราสนับสนุนช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา เสริมสร้าง พัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครู
logo - มูลนิธิไทยรัฐ

มูลนิธิไทยรัฐ

เราเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการศึกษา และช่วยเหลือกิจกรรมเกี่ยวกับการศึกษาแก่นักเรียนที่ยากจนและนักเรียนดีเด่นทั่วไป ส่งเสริมการศึกษา และค้นคว้าวิจัยงานหนังสือพิมพ์ร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์เพื่อเด็กๆ

banner - sos เด็กโสสะ

มูลนิธิโสสะแห่งประเทศไทยฯ

เราช่วยเหลือเด็กที่สูญเสียบิดามารดา ขาดญาติมิตร ในรูปแบบของครอบครัวทดแทนถาวรระยะยาว เพื่อให้เด็กสามารถประกอบอาชีพและเลี้ยงดูตัวเองได้ไม่เป็นภาระต่อสังคม