เข้าสู่ระบบ

Table of Contents
Recent Post
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง
ทางเท้า ก้าวเดินสู่ความเท่าเทียม กับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยพลเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จัก ปัญหาทางเท้าที่คนไทยต้องเจอ ทั้งฟุตบาทไม่ทนทาน รถจักรยานยนต์ ร้านค้าบนทางเท้า การออกแบบที่ไม่คิดถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ มาสร้างทางเท้าให้ดี เพื่อชีวิตที่ดีกัน!

ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข
ปัญหาคนว่างงาน วิกฤตเงียบและความท้าทายที่สังคมต้องร่วมกันแก้ไข

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักปัญหาว่างงานในมิติทางสังคมและเศรษฐกิจส่งผลกระทบในวงกว้าง ควรมีทางออกเพื่อเสริมพลังและสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยกลับมายืนหยัดและมีชีวิตที่ดีได้อย่างเข้มแข็ง

Key Takeaway นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คือโครงการจากรัฐบาลที่กำหนดให้ประชาชนเดินทางในเส้นทางรถไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการได้ในราคาเดียวเพียง 20 บาทตลอดสาย เป้าหมายของโครงการคือสร้างความเท่าเทียม ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสให้คนเมืองทุกกลุ่มเข้าถึงการเดินทางอย่างสะดวก ลดปัญหารถติดและมลพิษ ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาชุมชนเมือง โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของรัฐบาล กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการผลักดันจากผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่มีวิสัยทัศน์ด้านระบบขนส่งมวลชน เชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้าในราคาคงที่ ช่วยให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ความท้าทายของนโยบายนี้ คือความยั่งยืนทางการเงิน ที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลชดเชยผู้ประกอบการ และปัญหาการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า ทุกวันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าทีก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เพราะค่าโดยสารที่สะสมไปแต่ละวันไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่ลองคิดดูว่า… ถ้าเราเดินทางไกลแค่ไหนก็จ่ายเพียง 20 บาท จะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากขนาดไหน? ประชาชนได้ประโยชน์เต็มๆ! บทความนี้พามาเจาะลึกนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน เรื่องนี้จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันของผู้คน ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา หรือแม่ค้าพ่อค้า ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางทุกวันแน่นอน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท คืออะไร? โครงการค่าโดยสาร 20 บาท คือความตั้งใจง่ายๆ ที่อยากให้การเดินทางสาธารณะเป็นเรื่องใกล้ตัวและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงาน หรือผู้สูงอายุ เรื่องนี้เริ่มต้นจากคำถามว่า “ทำไมคนต้องจ่ายค่าโดยสารแพงหลายระดับ บางทีแค่ไปทำงานหรือไปเรียนใกล้ๆ ก็ต้องจ่ายราคาเต็ม?” แนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวจึงเกิดขึ้น เพื่อช่วยลดภาระและทำให้ทุกคนได้รับสิทธิ์เดินทางในราคาเท่ากัน ในปี 2567 ได้เริ่มทำโครงการนำร่องในสายสีแดงและสายสีม่วงแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากเลย ส่วนเรื่องการหาเงินมาจ่ายนั้น รัฐบาลไม่ได้แค่รับภาระทั้งหมดเอง แต่มีการแบ่งงบและจัดสรรเงินมาใช้ชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ให้บริการยังสามารถดำเนินธุรกิจได้และไม่ขาดทุน กลไกนี้ช่วยให้ความมั่นคงในการเดินรถยังดำเนินไปได้ โดยรัฐจะพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้บริการจริงและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนเป็นธรรมและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความตั้งใจว่าจะทำให้คมนาคมสาธารณะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเดินทางและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวคิดค่าโดยสารราคาเดียวที่คนทุกวัยทุกกลุ่มเข้าถึงได้จริง ทำไมนโยบายนี้ถึงสำคัญกับคนเมือง? ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกวัน การเดินทางในเมืองใหญ่จึงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน การมีนโยบายที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางจึงเป็นเรื่องที่หลายคนจับตามองและหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาได้จริง ลดค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยลดค่าใช้จ่ายรายวันได้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนและคนที่ต้องเดินทางประจำ การกำหนดราคาเดียวช่วยให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเดินทางไกล เพิ่มโอกาสในการเดินทางและใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ นโยบายยังช่วยกระตุ้นให้เกิดชุมชนและธุรกิจใหม่ในเขตชานเมือง เพิ่มความสะดวกและคุณภาพชีวิตในเมืองอย่างยั่งยืน ลดปัญหารถติดและมลพิษ นโยบายนี้ไม่ได้แค่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เมื่อประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ปริมาณรถติดก็ลดลงตามไปด้วย ช่วยลดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน การใช้รถไฟฟ้ายังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ที่สำคัญคือทำให้เมืองน่าอยู่ สะอาด และเดินทางได้คล่องตัวมากขึ้นสำหรับทุกคน สร้างเมืองที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน นโยบายนี้ไม่ได้แค่ทำให้ค่าโดยสารถูกลงเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างเมืองที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นักเรียน หรือผู้สูงอายุ ช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงทุกสายรถไฟฟ้า สร้างระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมและเป็นธรรม ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการเดินทาง และทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นคนทุกกลุ่ม เป้าหมายของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท นโยบายนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยลดภาระค่าเดินทางของคนในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน พร้อมส่งเสริมให้คนใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น สร้างความสะดวกและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ความเท่าเทียมในการเดินทาง นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ช่วยสร้างความเท่าเทียมในการเดินทาง เพราะไม่ว่าคนจะขึ้นรถไฟฟ้ากี่สายหรือต้องเดินทางไกลเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหนก็จ่ายค่าโดยสารราคาเดียว ทำให้ทุกคนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือรัฐบาลช่วยชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ เพื่อรักษาคุณภาพบริการและทำให้นโยบายนี้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะ นโยบายนี้ช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพราะราคาค่าโดยสารที่ถูกลงทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่าย ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลยังร่วมมือกับกรุงเทพฯ ในการพัฒนาระบบตั๋วร่วมและฟีดเดอร์ระบบขนส่ง เช่น รถเมล์ที่เชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งานระบบได้ครบวงจรขึ้น แก้ปัญหารถติด นโยบายนี้เป็นทางออกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ได้ เมื่อค่าโดยสารถูกลง ผู้คนจะหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น ลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวที่วิ่งบนถนนในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน นอกจากจะช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร ยังช่วยลดเวลาการเดินทางและความเครียดของผู้ใช้ถนนด้วย ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบขนส่งของเมือง ทำให้การเดินทางสะดวกและราบรื่นขึ้นโดยรวมในระยะยาว เชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมือง นโยบายนี้เป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจและชุมชนเมืองเติบโตเป็นระบบ การลดค่าเดินทางช่วยเพิ่มกำลังซื้อและโอกาสทางธุรกิจในชุมชนต่างๆ เนื่องจากผู้คนสามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้สะดวกและบ่อยขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าหลายสายยังช่วยส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานและสินค้ารวดเร็ว ทำให้ชุมชนต่างๆ มีโอกาสพัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนและลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เบื้องหลังการผลักดันนโยบาย โครงการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นผลลัพธ์ของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลและกรุงเทพฯ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมทำหน้าที่วางแนวนโยบายและจัดสรรงบประมาณ ในขณะที่กรุงเทพฯ นำโดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผลักดันให้ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น นโยบายรถไฟฟ้ากับชัชชาติในฐานะผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เป็นหัวใจของชีวิตคนเมือง ร่วมกับการส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและมลพิษ พร้อมผลักดันให้โครงการได้ผลจริงในเชิงปฏิบัติ เช่น การเชื่อมโยงเส้นทางและเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและติดตามผล ทำให้นโยบายนี้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองจริงๆ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท… ความท้าทายและคำถามที่ยังคงอยู่ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้จะได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยลดภาระค่าโดยสารของประชาชน แต่ก็ยังเผชิญความท้าทายด้านความยั่งยืนทางการเงินหลักๆ เพราะรัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการชดเชยค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ แต่จากการศึกษาพบว่า… ต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าสายหลักอยู่ที่ประมาณ 11 บาทต่อเที่ยว ทำให้นโยบายนี้เป็นไปได้ถ้าบริหารจัดการดีและมีแหล่งเงินทุนสนับสนุนที่มั่นคง เช่น การใช้รายได้ภาษีจากภาคขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการบริหารจัดการรายได้และผลประโยชน์ของภาคเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนและการดำเนินนโยบายให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล ปัญหานี้ยังเป็นอุปสรรคที่ต้องเจรจาและหาข้อตกลงร่วมที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย ทางเลือกและข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนานโยบายในอนาคต ได้แก่ การผลักดันกฎหมายตั๋วร่วมเพื่อให้ใช้บริการได้ด้วยบัตรเดียวทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทให้เชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น เพื่อให้ระบบขนส่งสาธารณะมีความมั่นคงและเข้าถึงได้ง่ายในระยะยาว สรุป นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคนเมือง ทำให้การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องง่ายและเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ช่วยเชื่อมโยงเศรษฐกิจและชุมชนเมืองอย่างทั่วถึง พร้อมแก้ไขปัญหารถติดและมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตคนเมืองอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกรุงเทพฯ และภาคประชาสังคม ซึ่งบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วมและติดตามนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคง FAQ – คำถามที่พบบ่อย โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทครอบคลุมทุกสายไหม? โครงการนี้ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สายสีน้ำเงิน (MRT) สายสีเหลือง สายสีชมพู และ Airport Rail Link (ARL) รวมรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงที่ทำไปแล้วทั้งหมด 8 สาย รวม 13 เส้นทางและกว่า 194 สถานีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางในราคาคงที่เพียง 20 บาทตลอดสาย แม้ต้องเปลี่ยนสายก็จะไม่เกินราคานี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ส่งผลต่อปัญหารถติดในกรุงเทพฯ อย่างไร? นโยบายนี้ช่วยลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน เพราะราคาค่าโดยสารถูกลง คุณภาพชีวิตและการเดินทางจึงดีขึ้น ลดความหนาแน่นของการจราจรในช่วงเร่งด่วนได้ ประชาชนมีส่วนช่วยสนับสนุนนโยบายนี้ได้อย่างไร? ประชาชนสามารถร่วมลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ และใช้บัตร EMV Contactless หรือบัตร Rabbit แบบ ABT เพื่อยืนยันตัวตน ร่วมกันใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการของระบบขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้นต่อไป
อนาคตเข้าถึงได้! นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท โครงการเปลี่ยนชีวิตคนเมือง

บทความนี้ CHEEWID จะพามาเจาะลึกกับนโยบายรถไฟฟ้า20 บาท ที่รัฐบาลผลักดัน นโยบายที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเดินทางของประชาชน

ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน
ฟองดูว์กทม. (Traffy Fondue) เปลี่ยนสังคมเมืองด้วยพลังประชาชน

บทความนี้ CHEEWID จะพามารู้จักจากเสียงประชาชนสู่การแก้ไขจริง! Traffy Fondue คือระบบร้องเรียนของ กทม. นำเทคโนโลยีมาใช้แก้ไขปัญหา เพิ่มคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวกรุงให้ดีขึ้น

ปัญหาคนไร้บ้าน ปัญหาสังคมไทยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

CHEEWID พามาทำความเข้าใจกับปัญหาของคนไร้บ้าน ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของสังคม แล้วปัญหาคนไร้บ้านเกิดจากอะไร สามารถแก้ไขได้อย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ
ปัญหาคนไร้บ้าน ปัญหาสังคมไทยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข | CHEEWID
Table of Contents

“คนไร้บ้าน” คืออีกหนึ่งตัวอย่างของความเหลื่อมล้ำระหว่างชนชั้นที่เกิดขึ้นในสังคม ไม่ว่าจะด้วยการถูกจำกัดด้วยระบบเศรษฐกิจ การศึกษา หรือระบบโครงสร้างของสังคมที่ผลักคนกลุ่มหนึ่งออกจากสังคม ทำให้หมดทางเลือกในการทำมาหากินและการใช้ชีวิต ปัญหาของคนไร้บ้านจึงเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนเกินกว่าจะมองแค่ที่ปัจเจกบุคคล แต่ต้องมองไปถึงระดับโครงสร้างของสังคม ควรที่จะได้รับการแก้ไขจากภาครัฐ ซึ่งแท้จริงแล้วปัญหาคนไร้บ้านเกิดจากอะไร สามารถแก้ไขได้อย่างไรบ้าง มาดูกันได้ผ่านบทความนี้

นิยามของคนไร้บ้าน คืออะไร

นิยามของคนไร้บ้าน คืออะไร

คนไร้บ้าน เป็นนิยามที่หมายถึงบุคคลที่ไร้ที่พักอาศัย โดยที่พักอาศัยที่กล่าวถึงคือที่พักอาศัยที่มีขอบเขตและอาณาบริเวณที่ชัดเจน และมีสิ่งปกคลุมกำบังมิดชิด ซึ่งคนไร้บ้านที่ไม่มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่งมักจะอาศัยตามพื้นที่สาธารณะ

ในอดีตกลุ่มคนไร้บ้านคือผู้ที่ร่อนเร่ พเนจร กลุ่มคนยากจนที่ไร้แหล่งพักพิง อย่างไรก็ดีหากมองให้ลึกลงไปแล้วกลุ่มคนไร้บ้านนั้นมีความหลากหลายที่มากกว่านั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของปัจเจกบุคคล เหตุผลทางเศรษฐกิจ หรือเหตุผลทางโครงสร้างของสังคมก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นผลมาจากความเหลื่อมล้ำทางสังคมทั้งนั้น 

 

ทั่วประเทศมีคนไร้บ้านอยู่ประมาณ 4,000 คน ที่ไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ได้ และพบว่าในเขตกรุงเทพฯ มีคนไร้บ้านถึง 1,761 คน ซึ่งมีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นเนื่องด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเป็นจำนวนที่เพิ่มสูงขึ้นมาจากเดิมถึงร้อยละ 30 และจากการสำรวจยังพบว่า คนไร้บ้านหน้าใหม่ได้เกิดขึ้นในช่วงโควิดถึง 95% สาเหตุหลักมาจากการถูกเลิกจ้าง งานหายาก ทำให้ผู้คนไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายสำหรับการดำรงชีวิตได้ 

โลกของคนไร้บ้าน และสังคมของคนไร้บ้าน ในประเทศไทย

โลกของคนไร้บ้าน และสังคมของคนไร้บ้าน ในประเทศไทย

กลุ่มคนไร้บ้านเป็นกลุ่มคนจน รายได้น้อย ขาดแคลนโอกาสในการดำรงชีวิต จึงทำให้คนไร้บ้านถูกผลักออกจากส่วนต่างๆ ของสังคม แม้คนไร้บ้านจะถูกผลักออกจากสังคมใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันกลับพบว่ามีโลกของคนไร้บ้าน ที่มีวัฒนธรรม มีวิถีชีวิตในแบบฉบับของตนเองที่ไม่แตกต่างไปจากระบบในสังคมเลย

ระบบเศรษฐกิจของคนไร้บ้าน

คนไร้บ้านเองก็มีการประกอบอาชีพไม่ต่างไปจากคนในสังคม หากแต่อาชีพที่คนไร้บ้านทำนั้นเป็นอาชีพที่ไม่สามารถทำให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หรือไม่สามารถเลื่อนสถานภาพทางสังคมได้ เพียงแต่เป็นอาชีพที่พอจะเลี้ยงชีพตนได้ก็เท่านั้น เช่น อาชีพขายของโดยเก็บขยะ เก็บของเก่าขาย ขายของที่แบ่งจากการที่ได้รับมาจากของบริจาค อีกอาชีพที่คนไร้บ้านมองว่ามั่นคงคืออาชีพรักษาความปลอดภัย เพราะพวกเขามองว่า เป็นอาชีพที่มีรายได้มั่นคง หรือหากได้เฝ้าเวรยามตอนกลางคืนก็จะมีที่นอนปลอดภัย บ้างก็ทำอาชีพช่างซ่อมต่างๆ โดยจะเดินไปมาเพื่อหางานซ่อมแซมตามบ้าน แต่หากช่วงไหนไม่มีงานก็จะขาดรายได้ไปเลย อีกอาชีพที่คนไร้บ้านมักจะทำคือขอทาน แม้นี่จะไม่ถูกเรียกว่าเป็นอาชีพแต่ก็ต้องยอมรับว่าการขอทานสร้างรายได้ให้คนไร้บ้านไม่น้อย

การบริโภคของคนไร้บ้าน

เรื่องอาหารการกินเป็นสิ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิติ โดยกลุ่มคนไร้บ้านจะมีการ “พึ่งโพย“ คือการไปรับอาหารที่แจกฟรีโดยการดูตามโพยที่มีคนทำมาขาย ราคา 5-10 บาท โดยในโพยก็จะบอกสถานที่ที่แจกไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือของแจกต่างๆ พร้อมกับรายละเอียดสถานที่เวลา ซึ่งคนไร้บ้านก็จะเดินทางไปรับของแจกตามโพยที่ตนซื้อมา สถานที่ที่แจกอาหารและสิ่งของต่างๆ เช่น วัดไตรนิมิตร เยาวราช วัดเจ้าอาม บางขุนนนท์ โบสถ์ซิกข์ พาหุรัด รถแจกข้าวกล่องของมูลนิธิกระจกเงา และเครือข่ายคนไร้บ้านที่ลานคนเมือง เป็นต้น  

ศาสนากับคนไร้บ้าน

ศาสนสถานบางแห่งก็ยินดีให้ที่พักกับคนไร้บ้าน โดยคนไร้บ้านบางคนในช่วงแรกๆ ที่ไร้ที่พักอาศัยก็จะไปอาศัยตามวัด เพื่อแลกกับที่นอนและอาหาร โดยอาจจะต้องมีการช่วยทางศาสนกิจหรือเป็นลูกวัดเพื่อเป็นการตอบแทน นอกจากนี้แล้วยังพบว่าในหลายศาสนสถานหรือในหลายศาสนานิกายมักมีการแจกอาหาร ทำโรงทานเพื่อแจกจ่ายอาหารให้แก่คนไร้บ้าน บรรดาคนยากไร้ โดยวัตถุประสงค์ของการแจกจ่ายเพื่อการประกาศศาสนาหรือการทำตามหลักคำสอน  

ระบบสาธารณูปโภคของคนไร้บ้าน

การทำกิจวัตรประจำวันของคนไร้บ้าน เช่น การอาบน้ำ ขับถ่าย หรือการซักเสื้อผ้า มักจะใช้พื้นที่ให้บริการของสาธารณะในการทำธุระต่างๆ เช่น ห้องน้ำสาธารณะ สวนสาธารณะ วัด เป็นต้น หรือ ห้องน้ำให้บริการอาบน้ำ ครั้งละ 5-10 บาท อีกทั้งยังมีสถานที่ให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ อย่าง สภาสังคมสงเคราะห์ ที่คนไร้บ้านจะสามารถเข้าไปใช้บริการได้ โดยจะมีบริการห้องน้ำ ซักผ้า ตัดผม รวมถึงมีการแจกจ่ายอาหารด้วยเช่นกัน 

สาเหตุของปัญหาคนไร้บ้าน

สาเหตุของปัญหาคนไร้บ้าน

ปัญหาของการกลายมาเป็นคนไร้บ้านนั้นมีความซับซ้อน เนื่องมาจากเหตุผลของปัจเจกบุคคลที่อาจแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้แล้วยังอาจเกี่ยวโยงกับปัญหาในระดับโครงสร้างของสังคมที่ผลักดันให้คนเหล่านี้ต้องมาพบเจอกับวิกฤตของชีวิต ซึ่งปัญหาของคนไร้บ้านนั้นเกิดจากหลากหลายสาเหตุ หลากหลายมิติ ดังนี้ 

ปัญหาความเปราะบางของครอบครัว

ความเปราะบางที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ผลักดันให้ผู้คนต้องตัดขาดจากครอบครัว บ้างก็เลือกที่จะมาเป็นคนไร้บ้านด้วยตนเอง โดยพบว่าผู้หญิงและวัยรุ่นส่วนใหญ่มักพบกับปัญหาความรุนแทรงในครอบครัว การทะเลาะ การทำร้ายร่างกายในครัวเรือน บ้างก็อาจจะต้องเผชิญกับการถูกล่วงละเมิดทางเพศ จนทำให้รู้สึกว่าบ้านไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยอีกต่อไป จึงเลือทกี่จะออกมาใช้ชีวิตด้วยตนเอง

นอกจากนี้แล้วยังพบว่าบางครอบครัวเกิดการทะเลาะวิวาท เนื่องมาจากการไม่ยอมรับตัวตนของคนในครอบครัวที่อาจเป็นคนข้ามเพศหรือกลุ่ม LGBTQ+ อีกทั้งปัญหายาเสพติดก็อาจผลักดันให้คนออกมาจากบ้านเนื่องด้วยครอบครัวรับไม่ได้ หรือในทางกลับกันอาจเป็นคนในครอบครัวเองที่มีการใช้ยา จนทำให้คนในครอบครัวต้องหนีออกจากบ้าน 

ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ

ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการกลายมาเป็นคนไร้บ้าน ผู้คนไม่สามารถครอบครองหรือเป็นเจ้าของทรัพยากรได้อย่างเท่าเทียม เนื่องจากที่อยู่อาศัยย่อมต้องการปัจจัยทางด้านการเงินในการสนับสนุนแหล่งที่พัก ตัวอย่างสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงตั้งในอดีต เช่น วิกฤตต้มยำกุ้ง หรือสถานการณ์โควิด-19 การหางานทำเป็นไปได้ยาก คนถูกปลดออกจากงาน ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้มีกำลังทรัพย์ไม่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิต จึงกลายมาเป็นคนไร้บ้าน 

ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

การศึกษานั้นเรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยหนึ่งที่สำคัญที่จะทำให้ผู้คนสามารถเลื่อนสถานภาพทางชนชั้นในสังคมได้ อย่างไรก็ตามพบว่าในสังคมยังคงมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอยู่มาก เนื่องจากเด็กและเยาวชนจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงระบบการศึกษาที่ดีได้ บ้างก็ต้องถูกผลักออกจากระบบเนื่องจากครอบครัวยากจน ทำให้ขาดแคลนค่าเล่าเรียน  จึงส่งผลให้กลายเป็นปัญหาที่เชื่อมโยงต่อกัน คนที่ได้รับผลกระทบนี้ไม่สามารถเป็นแรงงานคุณภาพของสังคมได้ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการดำเนินชีวิตในด้านอื่นๆ ตามมา จึงกลายมาเป็นคนไร้บ้านในที่สุด 

ปัญหาคนไร้บ้าน กับหนทางการช่วยเหลือ

ปัญหาคนไร้บ้าน กับหนทางการช่วยเหลือ

ปัญหาคนไร้บ้านเป็นปัญหาที่จะต้องได้รับการแก้ไขที่ระบบโครงสร้างของสังคม จึงจะช่วยให้กลุ่มคนไร้บ้านสามารถกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน ถึงแม้ว่าปัญหาของคนไร้บ้านจะไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมดทุกด้าน หากแต่ยังมีองค์กรหรือหน่วยงานเอกชน อีกทั้งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรต่างๆ ที่พร้อมจะเข้ามาแก้ไขปัญหาสังคมและเข้ามาเพื่อช่วยอุดรอยรั่ว รวมถึงลดช่องว่างทางความเหลื่อมล้ำเหล่านี้ โดยองค์กรต่างๆ มีดังนี้ 

เครือข่ายสลัม 4 ภาค

เครือข่ายสลัม 4 ภาค เป็นองค์กรเอกชนที่มุ่งเน้นในการทำงานด้านขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม เพื่อเรียกร้องด้านสิทธิในที่พักที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินชีวิตให้แก่คนในสังคมที่ขาดแคลนแหล่งที่พักอาศัยที่ปลอดภัยและเหมาะสม โดยทำการร่วมมือกับชุมชนกว่า 110 ชุมชน หรือราวๆ 7,000 ครอบครัว เพื่อมุ่งหวังในการแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย รวมทั้งเรื่องที่พักคนไร้บ้านด้วยเช่นกัน 

ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่

 

มูลนิธิกระจกเงา

มูลนิธิกระจกเงา เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือสังคมในหลากหลายด้าน หลากหลายมิติ รวมถึงช่วยในการแก้ไขปัญหาของคนไร้บ้าน ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งโครงการ ‘อาหารเพื่อเพื่อน Food For Friends’ เป็นโครงการที่จะเข้าไปมอบอาหารและแจกจ่ายยารักษาโรคให้แก่คนไร้บ้าน โดยแนวทางในการดำเนินงานเพื่อให้ความช่วยเหลือจะเป็นการทำงานร่วมกับอาสาสมัคร ซึ่งจะทำให้คนไร้บ้านได้รับการช่วยเหลือ อีกทั้งยังส่งผลให้คนในสังคมได้รับรู้ข้อมูลและมองเห็นชีวิตของคนไร้บ้านได้เช่นกัน 

นอกจากนี้ยังมีโครงการน่าสนใจอย่าง ‘จ้างวานข้า’ จากมูลนิธิกระจกเงาที่ช่วยผลักดันให้คนไร้บ้านได้มีอาชีพ มีงาน มีรายได้ และให้หลุดจากสภาพการเป็นคนไร้บ้าน

ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่

 

มูลนิธิบ้านนกขมิ้น

ปัญหาคนไร้บ้านไม่เพียงแต่พบในวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่เท่านั้น หากแต่คนเร่ร่อนและคนไร้บ้านยังพบในเด็กและเยาวชน โดยมีเด็กและเยาวชนจำนวนมากที่เป็นเด็กกำพร้า เด็กด้อยโอกาส เด็กยากจนไร้ที่พักอาศัย จึงกลายมาเป็นคนไร้บ้านในที่สุด มูลนิธิบ้านนกขมิ้นที่ถูกจัดตั้งโดยมิชชันนารีชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้เล็งเห็นปัญหา และเข้ามาช่วยเหลือทำที่พักพิงให้กับเด็กและเยาวชนที่ไร้ที่พึ่งพิงได้เข้ามาพักอาศัยและเพื่อให้ได้รับการดูแลที่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นการดูแลให้ความรักแก่เด็กๆ เพราะ “ครอบครัว” คือพื้นฐานที่สำคัญของชีวิต 

ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่

 

เครือข่ายวิชาการเพื่อสังคมเป็นธรรม

เครือข่ายวิชาการเพื่อสังคมเป็นธรรม เป็นเครือข่ายที่มุ่งเน้นในการสร้างและผลิตนักวิชาการที่มีคุณภาพให้แก่สังคม ซึ่งมุ่งหวังให้พัฒนาคุณภาพการศึกษา วิจัยและการสำรวจ ที่จะช่วยเข้าไปสำรวจปัญหาสังคมในด้านต่างๆ เพื่อนำผลมาทำการวิเคราะห์และสรุปข้อมูลที่จะเป็นผลต่อการนำไปสู่หนทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป โดยในด้านของการช่วยเหลือคนไร้บ้านจะเป็นการสำรวจสถานการณ์ของคนไร้บ้าน หรือจำนวน สถิติของคนไร้บ้าน เพื่อนำผลที่ได้ไปหาทางแก้ไขและช่วยสร้างโอกาสให้แก่คนไร้บ้านให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่

 

มูลนิธิอิสรชน

มูลนิธิอิสรชน คือมูลนิธิที่ทำงานเพื่อคนไร้บ้าน ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งเป็นทำงานร่วมกับเครือข่ายของแต่ละจังหวัด เป็นองค์กรเอกชนที่ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูคนไร้บ้านให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านโครงการต่างๆ คือ 

  • โครงการปันชีวิต ที่ใช้สนามหลวงเป็นพื้นที่ตัวอย่างสำหรับการลงพื้นที่ดูแลคุณภาพชีวิตให้กับคนไร้บ้าน ผ่านการช่วยเหลือในเรื่องปัจจัย 4 
  • โครงการปันอิ่ม มีการแบ่งปันอาหารที่สะอาดและถูกหลักอนามัยจำนวน 2,500 ชุดให้แก่คนไร้บ้าน 
  • โครงการถุงปันสุข เป็นการแบ่งปันถุงที่บรรจุอาหารแห้งและข้าวของเครื่องใช้ประมาณ 500 ถุงต่อเดือน ให้แก่คนไร้บ้านทั่วกรุงเทพมหานคร
  • โครงการปันอาชีพ โครงการที่จะช่วยสอนอาชีพและมีทุนด้านอาชีพให้เบื้องต้น สำหรับคนไร้บ้านที่สนใจอยากมีอาชีพเพื่อเริ่มพัฒนาตนเอง
  • โครงการปันสุข คือคลินิกเคลื่อนที่ซึ่งได้แพทย์อาสาเข้ามาช่วยเหลือคนไร้บ้าน เพื่อให้ได้รับสิทธิในการรักษาสุขภาพกายและใจ รวมถึงแพทย์ยังได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนไร้บ้านร่วมกับสังคมอีกด้วย
  • โครงการสื่อสานสร้างสุข เป็นโครงการที่มีขึ้นเพื่อให้เด็กมีโอกาสในการศึกษา ป้องกันการออกจากการเรียนกลางคัน จนกลายมาเป็นคนไร้บ้าน ผ่านการสนับสนุนด้วยสวัสดิการขั้นพื้นฐาน อย่างทุนการศึกษาและอุปกรณ์การเรียน


ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่

 

สรุป

คนไร้บ้าน คือบุคคลที่ไร้ที่พักพิง ไร้ที่อยู่แหล่งที่พักอาศัย จึงจำเป็นจะต้องเร่ร่อนไปมาหรืออาศัยตามพื้นที่สาธารณะแทน อย่างไรก็ตามพบว่าการกลายมาเป็นคนไร้บ้านนั้นมีความซับซ้อน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางครอบครัว สภาพเศรษฐกิจ หรือระบบโครงสร้างของสังคม ก็อาจมีความเกี่ยวเนื่องกันและส่งผลกกระทบต่อการดำเนินชีวิตของพวกเขา หากแต่สังคมของคนไร้บ้านเองก็มีวัฒนธรรมย่อยของกลุ่มที่ไม่ได้แตกต่างไปจากคนในสังคมปกติมากนัก เพียงแต่มีคุณภาพชีวิตที่ด้อยกว่าและไร้โอกาสที่จะมีความก้าวหน้า โดยในปัจจุบันมีองค์กร หน่วยงานและมูลนิธิต่างๆ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาของคนไร้บ้านจึงได้จัดทำโครงการต่างๆ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือคนไร้บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค สนับสนุนแหล่งที่พักอาศัย หรือจัดเตรียมการฝึกอบรวมเพื่อการสร้างอาชีพให้แก่คนไร้บ้าน ได้หารายได้เพื่อเลี้ยงชีพตนเองได้ 

Cheewid เองก็เป็นหนึ่งในส่วนช่วยและสนับสนุนให้คนไร้บ้านได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านการมอบโอกาสที่ดีในการทำงาน การศึกษา และที่พักอาศัย เพื่อโอกาสในการดำเนินชีวิตที่ดีขึ้นที่เหล่าคนไร้บ้านอาจไม่เคยได้รับจากรัฐบาล เราทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ เพื่อสนับสนุนโครงการเพื่อคนไร้บ้าน และเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้แก่คนในสังคมถึงปัญหาเหล่านี้ เพื่อที่จะได้เข้ามาร่วมกันช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน 

 

Reference: 

  1. ขวัญเรียม แก้วสุวรรณ. ‘คนเร่ร่อนไร้บ้าน’ ปัญหาสังคมที่แก้ไม่หาย เกิดขึ้นซ้ำๆ เหมือนวงเวียนชีวิต. komchadluek.net. Published on 21 March 2023. Retrieved 31 March 2024. 
  2. เฉลิมพล พลมุข. คนไร้บ้าน. cps.chula.ac.th. Retrieved 31 March 2024. 
  3. ธันย์ชนก สายรอด. ความแปลกแยกของคนไร้บ้าน การศึกษาวิถีชีวิตคนไร้บ้านในพื้นที่สนามหลวง-คลองหลอด-ลานคนเมือง. sure.su.ac.th. Retrieved 31 March 2024.
  4. บุญเลิศ วิเศษปรีชา. โลกของคนไร้บ้าน (พิมพ์ครั้งที่ 2), แก้ไขเพิ่มเติม ; พิมพลักษณ์, กรุงเทพฯ : ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน), 2552. 
  5. Atthasit Mueanmart. “คนไร้บ้าน” ปัญหาเรื้อรัง ที่กัดกร่อนสังคมและฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจ กับทางออกที่รางเลือน?. salika.co. Published on 24 April 2023. Retrieved 31 March 2024. 
  6. Penguin Homeless. เหตุใดคนจึงไร้บ้าน. Penguin homeless.com. Published on 11 September 2020. Retrieved 31 March 2024. 

องค์กรเพื่อสังคมที่เกี่ยวข้อง

issarachon - มูลนิธิอิสรชน
logo - issarachon

มูลนิธิอิสรชน Issarachon foundation

มูลนิธิอิสรชนทำงานคนไร้ที่พึ่ง ไร้บ้าน ในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด(ร่วมกับเครือข่ายตามต่างจังหวัด) มานานกว่า 15 ปี ลงพื้นที่ ติดตามคนไร้ที่พึ่งช่วยเหลือฟื้นฟู ในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด